ฉบับที่ ๑๙๕ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒

หยัดสู้..เคียงคู่พุทธบุตรภาคใต้

ดับไฟใต้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ

 

“ถ้าไม่ตายไม่ขอเลิกทำความดี”

“ผมไม่หนี ผมถือว่าตรงนั้นเป็นแผ่นดินไทย
ปู่ย่าตายายผมเป็นคนพุทธ เกิดตรงนี้ ขอตายตรงนี้"

พระครูประโชติรัตนานุรักษ์
เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ


หยัดสู้..เคียงคู่พุทธบุตรภาคใต้

         ..นึกแล้วสลดเหลือเกินกับเหตุการณ์ความรุนแรงซ้ำ ๆ ที่ทำให้พุทธบุตรชายแดนภาคใต้มรณภาพไปรูปแล้วรูปเล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนขวัญนำความเสียใจมาสู่ชาวพุทธอย่างมากเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็คือกรณีที่คนร้ายกว่า ๑๐ คน พร้อมอาวุธครบมือก่อเหตุยิง พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ จังหวัดนราธิวาส มรณภาพพร้อมกับพระลูกวัดรวม ๒ รูป และบาดเจ็บอีก ๒ รูป

         จากข้อความในเฟซบุ๊กของ พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท ผู้เขียนอ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งจึงขอนำบางส่วนมาจารึกไว้ในบทความนี้ เพื่อประกาศคุณของพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ พระผู้มีมโนปณิธานเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

           บทความต่อไปนี้เป็นบทความที่พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท ได้เล่าถึงครั้งที่เคยพูดคุยกับพระครูประโชติรัตนานุรักษ์


        ...ผม (พระครูประโชติรัตนานุรักษ์) เกิดที่นี่ พ่อแม่ปู่ย่าตายายผมเป็นคนนราธิวาสผมเรียนที่นี่ รุ่นผมมีชาวพุทธ ๒ คน ทุกคนเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าจะศาสนาไหนผมภูมิใจที่สุด ครั้งหนึ่งได้ไปเลี้ยงอาหารรุ่นน้องที่โรงเรียน ไปเยี่ยมครู ไปเยี่ยมผู้อำนวยการเป็นความสุขที่หาอะไรมาเปรียบไม่ได้ เพราะนี่..คือบ้านเกิดของผม บ้านที่ผมรัก

        ชีวิตผมเกิดมาชาติหนึ่งได้สร้างวัดด้วยตนเองถวายเป็นพุทธบูชา ผมมาอยู่ที่นี่ (บ้านโคกโก) ตั้งแต่ยังไม่มีอะไร ผมเริ่มสร้างศาลาหลังแรก คือ ศาลาการเปรียญ (ศาลาโรงธรรม) ใช้ชื่อว่า “ธรรมานุภาพ” แล้วก็สร้างศาลาโรงฉัน ใช้ชื่อว่า “สังฆานุภาพ” สิ่งที่ผมจะสร้างเป็นสิ่งสุดท้าย คือ อุโบสถ เป็น “พุทธานุภาพ” รวมทั้งหมดเข้าด้วยจึงเป็น วัดรัตนานุภาพ

         ท่านเล่าให้ฟังว่า ในชีวิตผมไม่อยากได้ยินคำว่า “มีวัดร้าง” ในพื้นที่ที่ผมอยู่ เคยมีช่วงหนึ่งมีวัดหนึ่งชาวบ้านไม่มีที่พึ่ง อยากทำบุญ อยากฟังธรรม แต่ไม่มีพระ ผมคุยกับชาวบ้านโคกโกว่าวันพระช่วงเช้าจะไปที่วัดนั้นให้ชาวบ้านได้ทำบุญ ผมต้องเดินไปตั้งแต่ช่วงเย็นของอีกวัน ไปถึง
ก็ดึก ตื่นเช้ามาชาวบ้านทำบุญเสร็จ ก็ต้องรีบเดินทางกลับมาให้ทันเพลที่วัดโคกโก เพราะชาวบ้านรออยู่

         ท่านมหาลองนึกภาพดู มีวัดแต่ไม่มีพระอยู่ เจ็บปวดใจนะ คนเฒ่าคนแก่มาวัด เห็นจีวรตากหน้าศาลาก็ยังอุ่นใจ ถ้าไม่มีพระสงฆ์ทำหน้าที่ นั่นหมายถึงลมหายใจของพระพุทธศาสนาหมดไปแล้ว

         ท่านพูดย้ำให้ฟังตลอดว่า พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่รักสูงสุดของผม ลมหายใจที่มีอยู่ขอถวายเป็นพุทธบูชา และขอทำความดีเพื่อพระพุทธศาสนาจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ…


        หลังจากการจากไปของท่านพระครู ทางคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายและคณะศิษยานุศิษย์รู้สึกใจหายเป็นอย่างยิ่ง จึงรีบพากันไปร่วมพิธีรดน้ำศพ วางพวงหรีด และสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลถวายท่าน เพราะรู้สึกซาบซึ้งใจในอุดมการณ์การหยัดสู้เพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงของพระครูประโชติรัตนานุรักษ์และพระลูกวัด

          ยังมีพุทธบุตรอีกเป็นจำนวนมาก ณ ผืนแผ่นดินเสี่ยงภัยแห่งนี้ ที่หยัดสู้และมีมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่เช่นเดียวกันกับท่านพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ ซึ่งทางวัดพระธรรมกายก็ขอถวายกำลังใจและช่วยเหลือพุทธบุตรทั้งหลาย โดยได้ทำมาอย่างตลอดต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน เป็นเวลาถึง ๑๕ ปีแล้ว และในเดือนกุมภาพันธ์นี้ได้ลำเลียงข้าวสารอาหารแห้งใส่รถ ๑๐ ล้อไปถวาย และจัดพิธีถวายสังฆทาน ๓๒๓ วัด ปีที่ ๑๕ ครั้งที่ ๑๔๑ และพิธีมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ ปีที่ ๑๒ ครั้งที่ ๑๐๖ ในวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ วัดบุณณาราม (วัดโคกงู) อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยได้รับความเมตตาจาก พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส วัดประชุมชลธารา เดินทางไปเป็นประธานสงฆ์...

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล