ฉบับที่ ๑๘ ประจำเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗

คุณยายอาจารย์ ผู้ยังโลกให้สว่างทั้งกลางวันกลางคืน โดย : พระอุดม ยติสฺสโร

            หลวงพี่รู้จักจากชมรมพุทธฯ จึงได้รู้จักวัด ชมรมพามาที่วัดแล้วได้มาอบรมธรรมทายาทรุ่นที่ ๘ ปี พ.ศ.๒๕๒๓ หลังจากอบรมเสร็จลาสิกขา จากนั้นก็ได้มาวัดทุกวันอาทิตย์ไม่เคยขาดเลย เพราะพี่ๆ เขาบอกว่าอย่างน้อยวันอาทิตย์ต้นเดือนไม่ควรขาด เพราะว่า คุณยายของเรา ท่านลงคุมบุญบูชาข้าวพระให้ เราทำบุญตลอดทั้งเดือนก็สู้มาทำบุญบูชา ข้าวพระวันเดียวไม่ได้

            เจอคุณยายครั้งแรกก็มีความรู้สึกว่าเหมือนเราได้อยู่ใกล้ชิดท่านมานาน ท่านเป็นผู้ที่เดินตัวตรง เป็นผู้ที่มีความสง่า เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ดวงตาของท่านเป็นประกายสดใส ไม่บ่งบอกว่ามีอายุถึง ๗๒ ปีเลย

            เมื่อเข้ามาอยู่วัด ได้เจอคุณยาย ท่านจะไปโรงครัวทุกๆ เช้า คุณยายของเราท่านเป็นผู้ที่ละเอียด ไปถึงตรงไหนท่านก็จะให้ลงเก็บตั้งแต่เศษใบไม้ กิ่งไม้ที่มันเกะกะ รก แล้วก็เสื่อที่เขานั่งแล้วไม่เก็บกัน คุณยายท่านก็ให้ลงไปเก็บ คือท่านจะไม่ให้ผ่านไปเลย เป็นคนที่เก็บงานตามหลังทุกๆ เรื่อง

            วันหนึ่งท่านก็เข้าไปที่ครัว ตู้สแตนเลส มันก็จะเปิดปิดไม่สนิท ยายท่านก็จะบอกว่า เวลาเอาถ้วยจานออกมาใช้ ก็พยายามเปิดปิดให้สนิทนะ ท่านก็พูดทุกวันๆ คุณยายท่านก็สอนว่า เดี๋ยวงูเงี้ยวเขี้ยวขอมาทำรัง แมลง มาทำรัง ถ้วยจานพระจะสกปรก นี่คือคุณยาย ของเราท่านละเอียด

            แล้วท่านก็จะอธิษฐานว่า จะเกิดกี่ภพ กี่ชาติ ก็ให้เขามีกินมีใช้ ไม่รู้จักหมดจักสิ้น จะเห็นจากคำอธิษฐานของยายว่าท่านเป็นผู้ที่ใจกว้างอย่างกับมหาสมุทร ท่านจะนึกถึงพวกเรา เวลามีงานบุญใหญ่ ญาติโยมมาเท่าไหร่ เรา ก็เลี้ยงได้หมด โดยที่มีคุณยายไปตามมาตามในละเอียด หลายๆ ท่านอาจจะไม่เคยเจอคุณยายเลย แต่ก็ฝันถึงคุณยาย นี่เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าคุณยายท่านไปตามมา

            เรื่องความสะอาด อย่างห้องน้ำ โถส้วมนี่ หลวงพี่ก็โชคดีที่มาทันคุณยาย ท่านสอนให้ดู ทำให้ดู โดยเอามือล้วงลงไปในคอห่าน โดยไม่มีความรังเกียจเลย แล้วยายก็สอนว่านี่นะ ถึงใครจะจบปริญญาตรี โท เอก มาก็ต้องมาล้างห้องน้ำให้เป็น ปกติแล้วเขาจะมีไม้ถูใช่ไหม แต่คุณยายจะไม่ใช้ ท่านใช้มือจับสก๊อตไบร์ทแทน แล้วห้องน้ำต้องดูตั้งแต่เพดานว่ามีหยากไย่หรือเปล่า ต้องทำความสะอาดตั้งแต่ข้างบนลงมา ไล่มาถึงผนังทั้งสี่ด้านห้องน้ำ จนถึงพื้นประตู แล้วอ่างล้างหน้าของคุณยาย ท่านก็จะเช็ดให้แห้งตลอด

            คุณยายของเรา ถึงแม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่ผลงานที่ท่านสร้างไว้ได้ติดตาตรึงใจ ให้กับสาธุชนได้มากราบไหว้บูชา โดยมีพระ-มหาธรรมกายเจดีย์เป็นที่ตั้งให้ระลึกถึงพระคุณของคุณยาย

            ดวงอาทิตย์สว่างในเวลากลางวัน ดวงจันทร์สว่างในเวลากลางคืน แต่ยอดกัลยาณมิตร คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง สว่างทั้งกลางวันและกลางคืน

            ท่านเคยพูดอยู่คำหนึ่งว่า เราไม่ต้องกลัวหรอกนะว่าวัดพระธรรมกายจะไม่มีคน ยายจะไปตามมาให้เยอะๆ เห็นไหม ทุกวันนี้ ก็เยอะขึ้นทุกวันตามที่ยายท่านพูดไว้ แล้วยายท่านก็ยังอ่อนน้อมถ่อมตนทุกเรื่องนะ เวลาคุยกับพระกับเณรท่านจะยกพนมมือตลอด เจอญาติโยมก็ยกมือไหว้ก่อน อันนี้ก็เป็นจุดเด่นของคุณยายที่ทุกท่านควรนำเอาไปใช้

            คุณยายเป็นผู้ที่ไม่มีความน้อยใจ ฉะนั้นก็อยากฝากญาติโยมทุกท่านว่า เนื่องจาก เจ้าภาพเราเยอะขึ้น มีเจ้าภาพหลายๆ คนก็น้อยใจ เวลาพี่เลี้ยงหรือเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ดี หลวงพี่ก็อยากฝากไว้ว่า ขอให้เราที่มาทุกวันนี้เป็นเจ้าของวัด ให้ทำเหมือนกับว่าเป็นลูกหลานยาย ต้องช่วยเหลือตัวเองได้ จะได้แบ่งเบาภาระของผู้ที่เข้ามาในภายหลัง คืออยากให้เจ้าหน้าที่เขาต้อนรับคนที่มาใหม่ที่ยังไม่คุ้นกับวัด คนที่มาเก่าแล้ว ก็อยากให้ตั้งใจทำความดีเหมือนคุณยาย จะไม่มีการน้อยใจว่าใครจะดูแลหรือไม่ดูแล เพราะเราต้องมาเอาบุญ เอาบุญอย่างเดียวเหมือนคุณยาย ท่านจะไม่สนใจว่าใครจะเป็นอย่างไร เวลาท่านจะสอน ท่านก็สอนย้ำแล้วย้ำอีก ไม่เบื่อ ที่จะสอน ท่านสอนแบบตรงๆ เลย ไม่อ้อมค้อม

            เวลาคุณยายพูดบ่อยๆ ท่านกลัวว่าคนที่ฟังแล้วจะเบื่อหรือรำคาญท่าน ท่านก็จะบอกว่า ยายแก่แล้ว ก็มีหลงๆ ลืมๆ บ้างนะ อย่าถือสายายนะ ท่านก็บอกอีกหน่อยเราแก่ เราก็จะเหมือนยายนั่นแหละ แต่คุณยายถึงท่านแก่ แต่ก็แก่บุญแก่บารมี

            มีอีกจุดหนึ่งที่คุณยายท่านอธิษฐาน คือว่าจะเกิดกี่ภพกี่ชาติก็อย่าได้เจอะเจอคนพาล ข้อนี้สำคัญเพราะว่าคนพาลถ้าเราไปคบแล้ว มันก็มีแต่สิ่งที่ทำให้เราผิดพลาดแล้วก็เสียหาย ตรงนี้เราได้ฟังมงคลชีวิตจากหลวงพ่อทัตตะมาแล้ว ก็จะทราบว่าแม้แต่คนดีๆ ถ้าไปคบคนพาลก็ทำให้เสียเหมือนกัน คุณยายท่านถึงย้ำนักย้ำหนาว่าเราอย่าไปคบคนพาลนะ หลวงพี่ก็ได้คุณยายนี่แหละที่ท่านคอยดึงคอยเตือนสติ

            สำหรับทานบารมีคุณยายท่านก็ทำอย่างยิ่งยวดนะ ศีลท่านก็รักษาอย่างไม่มีข้อบกพร่อง เนกขัมมบารมีก็คือท่านประพฤติพรหมจรรย์ เราจะเห็นว่าท่านมีบารมี ๑๐ ทัศ ท่านละสังขารวันที่ ๑๐ ก็เอาโยงเข้าไปกับบารมี ๑๐ ทัศ ปัญญาของท่านก็เป็นเลิศ สามารถทำให้ผู้ที่จบปริญญา ตั้งแต่แพทย์ เภสัชกร วิศวะฯทุกแขนง นักบริหารทั้งหลายมาบวชได้ ก็เพราะบารมีคุณยายและหลวงพ่อทั้งนั้นเลย ถ้าเกิดไม่มีบารมีของคุณยายก็คงไม่มีพระเณรเป็นจำนวนเยอะๆ ขนาดนี้นะ เราจะเห็นว่านี่บารมีคุณยายท่านสร้างมาเยอะ

            ท่านมีความวิริยอุตสาหะในการปฏิบัติธรรม มีความเพียรนั่งสมาธิ สมัยหลวงพ่อ วัดปากน้ำท่านก็ใช้ความเพียรนั่งกลางวัน ๖ ชั่วโมง กลางคืน ๖ ชั่วโมง ท่านก็มีความอดทนที่จะสั่งสอนศิษย์ ย้ำศิษย์ทั้งหลายโดยไม่เบื่อที่สอน สอนแล้วสอนอีกนะ ท่านบอกว่าอย่าเพิ่งเบื่อยายนะ ยายจะสอนอย่างนี้ตอกย้ำอยู่เรื่อยๆ ถ้าหากเราคิดเป็นนะ ไตร่ตรองตามว่า ที่ยายสอนบ่อยๆ ทำไมต้องสอนเรื่องพื้นๆ หยาบๆ เพราะขนาดหยาบๆ เรายังทำไม่ดีเลยแล้วละเอียดจะทำดีได้อย่างไร

"

ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น
คนเราจะหนีสิ่งที่ตนเองทำไว้ไม่ได้
จะวิ่งหนีบุญ ก็หนีไม่พ้น
จะวิ่งหนีบาป ก็หนีไม่พ้น
เพราะทั้ัั้งบุญและบาปติดที่ศูนย์กลางกายของเรา
จะหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้นแน่นอน
ใครสั่งสมอย่างไร ก็ได้ผลอย่างนั้น
สร้างความดี สร้างกุศล ก็ได้บุญได้ความสุข

"

คำสอน คุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย


            สัจจบารมีก็เหมือนกัน ยายท่านก็เป็นผู้ที่มีสัจจะ พูดคำไหนก็เป็นคำนั้น ท่านสั่งสมมาเยอะ ท่านให้บุญใครสำเร็จทุกราย การที่จะสำเร็จได้มันก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้นั้นด้วยที่มาขอบุญบารมียายว่า ได้ทำตามที่คุณยายท่านให้แนวทางไว้หรือเปล่า เบื้องต้นก็คือต้องรู้จักทำทาน รักษาศีลแล้วก็เจริญภาวนา ไม่ให้ขาด
และคุณยายท่านก็เป็นผู้ที่มีเมตตาสูง เมตตาทุกๆ คนที่เขามาจะมากราบท่าน คุณยายจะลงรับแขกโดยที่ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเลย ท่านจะลงรับแขกทุกวันอาทิตย์

            คุณยายมีญาณทัสสนะที่แม่นยำ มีหลายๆ เรื่องนะที่หลวงพี่ได้ประสบด้วยตัวเอง เวลาคุณยายท่านนั่งสมาธิเสร็จ ท่านเห็นอะไรในที่นะ ท่านจะต้องบอกให้นั่งสามล้อไปดูเลย มีอยู่คราวหนึ่ง คือคุณยายไม่ชอบให้ใครมาพรอดรักกันในวัด ท่านรู้ปุ๊บก็ให้นั่งสามล้อไปดู ก็มีจริงๆ ที่เนินประดู่ ก็ให้หลวงพี่ไปช่วยคุย ก่อนลงไปเราต้องพนมมือไหว้เขาก่อน ยกมือแล้วก็คุยกับเขาดีๆ ว่าที่สถานที่นี้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เขาไม่ให้มาพูดคุยกันให้มานั่งปฏิบัติธรรม

            และที่ศาลาเหมือนกัน ก็จะไม่มีการ มานอนด้วย ถ้าใครนอน คุณยายท่านให้เข้าไปช่วยพูดคุย ก่อนเข้าไปเราก็ต้องยกมือไหว้เขาแล้วก็ถามเขาก่อนว่า คุณไม่สบายหรือเปล่า ก็คุยกับเขาดีๆ เพราะว่าสถานที่ทุกแห่งนี้คุณยายท่านจะให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมไม่ได้ให้มานอน ถ้าจะนอนต้องไปนอนที่บ้าน หรือนอนในรถยนต์ที่เราเอามาก็ได้นะ

            ถึงแม้ว่าคุณยายท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่ท่านก็ยังช่วยตามคนเข้าวัด ถ้าเราได้มีโอกาสสนทนากับญาติโยมที่มาวัดครั้งแรก ก็จะพบว่ามีหลายๆ ท่านจะกล่าวคล้ายกันว่า คุณยายท่านไปตามให้มาสร้างบารมีไม่อยากให้ตกหล่นพลาดจากบุญ คุณยายท่านจะเก็บให้หมดเลย ฉะนั้นเราต้องอธิษฐานตามติด ติดตามอย่าได้ตกหล่นในการสร้างบารมีกับคุณยาย การที่เราจะติดตามคุณยายได้นั้น ก็ต้องประพฤติปฏิบัติธรรม เพราะคุณยายท่านรักธรรมะเป็นชีวิตจิตใจ
 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล