อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เรื่องที่ ๗๑ ดึงดูดทรัพย์ให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ

 

เรื่องที่ ๗๑  ดึงดูดทรัพย์ให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ
 

คุณนงลักษณ์ อุตตพันธ์ อยู่ที่จังหวัดระยอง เล่าว่า เมื่อกว่า ๑๐ ปีมาแล้ว สมัยเรียนอยู่ที่วิทยาลัยเกษตรกรรม วิทยาเขตพิษณุโลก ผู้อำนวยการสถาบันที่เรียนอยู่ เคยพานั่งรถไปเยี่ยมชมวัดพระธรรมกาย จากนั้นไม่เคยไปที่วัดอีกเลย มัวแต่ทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกๆ และผู้คนในครอบครัว


ตรงข้ามกับน้องสาว ชื่อคุณบังอร เจริญสมบัติ เมื่อย้ายมาอยู่กับคุณนงลักษณ์แล้ว มีโอกาสเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายอยู่เสมอ และยังได้ชักชวนคุณนงลักษณ์ให้ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวสำหรับตนเองและสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด ๖ องค์


วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ น้องสาวและแม่บ้านของคุณนงลักษณ์ เดินทางไปร่วมงานฉลองความสำเร็จของการทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ได้ครบจำนวน ที่วัดพระธรรมกาย เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ดึกมาก เป็นเวลาตีหนึ่งของวันที่ ๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คุณนงลักษณ์เป็นคนลุกจากที่นอนมาเปิดประตูบ้านให้ ในใจคิดว่าทั้งสองคนคงอ่อนเพลียและง่วงนอน เพราะกลับดึกกว่าปกติมาก พอเปิดประตูออกเห็นทั้งคู่ยืนยิ้ม ท่าทางมีความสุขเป็นที่สุด แล้วยังรีบจับตัวคุณนงลักษณ์นั่งลงที่เก้าอี้ แล้วเล่าเรื่องปาฏิหาริย์บนท้องฟ้าให้ฟัง คุณนงลักษณ์พอจับใจความได้ว่า ขณะที่กำลังร่วมกันถ่ายภาพประวัติศาสตร์ที่มหาธรรมกายเจดีย์อยู่นั้น ทุกคนเห็นท้องฟ้าเป็นสีสดใสสวยงาม สามารถมองดวงอาทิตย์ได้เย็นตาเหมือนมองดวงจันทร์ ภายในดวงอาทิตย์มีภาพต่างๆ ปรากฏอยู่ เป็นภาพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญบ้าง เป็นภาพของพระธรรมกายบ้าง เป็นภาพดวงแก้วบ้าง ดวงอาทิตย์นั้นหมุนได้รอบตัว มีรัศมีเป็นสีต่างๆ สวยงามอย่างบอกไม่ถูก ทั้งยังทำอาการเหมือนสิ่งมีชีวิต คือกระพริบได้ เลื่อนเข้าเลื่อนออกได้ รอบๆ ดวงอาทิตย์มีวงแหวนสว่างไสว เป็นประกายเจิดจ้า หมุนเร็วมาก คุณนงลักษณ์ได้ฟังแล้วก็หายง่วงนอนเป็นปลิดทิ้ง เกิดความปีติเต็มเปี่ยมขึ้นมา ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้เป็นคนเห็น

จากนั้นน้องสาวก็เล่าถึงอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุให้กับพี่สาวฟังและบอกว่า เธออยากได้ไว้บูชามาก แต่ไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอ คงต้องขอบูชาเพียงภาพถ่ายของท่านเท่านั้น พร้อมทั้งแนะนำว่า พี่สาวควรทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ไว้สักองค์ เพราะพี่พอมีกำลังทรัพย์ที่จะทำได้

เมื่อแยกกันเข้านอน เวลาประมาณตี ๒ คุณนงลักษณ์นอนไม่หลับ คิดวนเวียน ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำบุญดีหรือไม่ ใจหนึ่งมีศรัทธาเต็มที่ อีกใจหนึ่งก็เกรงว่าสามีจะไม่อนุญาต จนเกือบสว่างจึงตัดสินใจได้ จะต้องสร้างพระธรรมกายประจำตัวที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์โดยไม่บอกให้สามีทราบ

ตอนสายวันที่ ๗ กันยายน น้องสาวคุณนงลักษณ์โทรศัพท์มาจากที่ทำงานว่า เพื่อนกัลยาณมิตรที่ไปวัดพระธรรมกายด้วยกันเสมอ จะมาขอกู้เงินพี่สาวไปทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ คุณนงลักษณ์รีบปฏิเสธทันที ที่จริงก็ยังมีเงินเหลืออีกหลายหมื่นบาท พอทีี่จะให้กู้ได้

วันเดียวกันนั้นเอง เวลาประมาณ ๑๑ นาฬิกา ขณะที่คุณนงลักษณ์ขับรถไปธนาคาร ก็คิดถึงเพื่อนของน้องสาวที่มาขอยืมเงินว่า ทำไมจึงมีศรัทธามากมาย จนกระทั่งยอมทำบุญด้วยการกู้เงิน เรียกว่าทุ่มกายถวายชีวิตทีเดียว เมื่อกู้ไม่ได้ คงผิดหวังและเสียใจมาก ถ้าตนเองยอมให้กู้ เขาคงดีใจ สมหวังและคงมีความสุขมาก

พอคิดขึ้นมาได้ดังนี้แล้ว ก็รู้สึกปีติ มีความสุขใจขึ้นมาทันที จึงขับรถแวะเข้าที่ห้างสรรพสินค้าข้างทาง โทรศัพท์บอกน้องสาวว่าตกลงให้เพื่อนของน้องสาวยืมเงิน น้องสาวคุณนงลักษณ์ดีใจมาก

หลังจากที่บอกให้น้องทราบแล้ว คุณนงลักษณ์เองคิดว่า จะต้องทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ให้ตนเองด้วย

ในตอนเย็น เมื่อน้องสาวกลับมาถึงบ้านก็สารภาพว่า ตัวเธอเองก็ต้องการขอยืมเงินพี่สาวทำบุญเช่นกัน คุณนงลักษณ์บอกกับน้องสาวว่า ตนเองก็ต้องการทำบุญเหมือนกัน แต่ขณะนั้นเหลือเงินไม่พอสร้างพระธรรมกายประจำตัวถึง ๒ องค์เสียแล้ว จะขอสามีก็เกรงใจ แต่ไม่กล้าพูดตอบไป ยิ่งเห็นน้องสาวหน้าตาสลดลง น่าสงสารมาก รู้สึกทนเห็นไม่ได้ อาจเป็นเพราะบุญของน้องมีมาก คุณนงลักษณ์จึงออกปากให้น้องสาวยืมเงิน

เมื่อตอบน้องสาวไปแล้ว ตนเองกลับรู้สึกใจคอเหี่ยวแห้ง เพราะไม่มีเงินพอที่จะทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวที่แกนกลางสำหรับตัวเอง จะพูดกับสามีก็ไม่กล้า เพราะเคยพูดเกริ่นๆ ไปแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็ไม่เห็นด้วย

ระยะนั้นคุณนงลักษณ์นอนไม่หลับหลายคืนติดต่อกัน เพราะอยากทำบุญ จึงท่องบทสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ สวดวันละนับครั้งไม่ถ้วน อธิษฐานขอพรให้สามีใจอ่อนยอมให้เงิน น้องสาวเองก็เสียใจที่พี่ไม่ได้ทำบุญ จึงช่วยกันสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ และทำสมาธิภาวนาขอพรเป็นการใหญ่

สองสามวันผ่านไป คุณนงลักษณ์จึงตัดสินใจพูดกับสามีเรื่องขอเงินมาทำบุญ สามีไม่พูดอะไร ไม่บ่นไม่ว่า แต่ทำอาการยิ้มและหัวเราะ ซึ่งคุณนงลักษณ์ถือเอาว่าเป็นอาการยินยอมอนุญาต คุณนงลักษณ์ดีใจมากถึงกับนอนไม่หลับ ต้องนึกถึงภาพพระมหาสิริราชธาตุตลอดเวลา จึงนอนหลับสบาย

อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่สิ้นสุดอุปสรรค เช้าวันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ สามีคุณนงลักษณ์ยังไม่ทันให้เงินภรรยา เพราะต้องรีบเดินทางไปจังหวัดราชบุรี เนื่องจากคุณย่าป่วยหนัก ทำให้คุณนงลักษณ์รู้สึกน้อยใจว่า ตนเองบุญน้อยจริงๆ คงไม่มีวาสนาได้ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวแน่แล้ว ดูมีอุปสรรคไปเสียหมด

แต่คุณนงลักษณ์ก็ไม่ย่อท้อ ยังสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุและขอพรท่าน ให้ได้มีเงินมาทำบุญ ขออยู่บ่อยๆ ทั้งวันทั้งคืนว่า "ขอให้ลูก มีบุญ มีบารมี ได้ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวที่แกนกลางด้วยเถิด"

แล้วเรื่องอัศจรรย์ก็บังเกิดให้เห็น เพียงวันเดียว คนที่มีหน้าที่เก็บเงินวงแชร์ที่คุณนงลักษณ์ร่วมเล่นไว้ก็มาหา บอกว่า ไม่รู้เป็นอย่างไร เดือนนี้ไม่มีลูกแชร์คนไหนเปียแชร์เลย ทุกเดือนเห็นแต่แย่งกัน เพราะฉะนั้นเดือนนี้ให้คุณนงลักษณ์เป็นคนรับเงินไปโดยไม่ต้องเปีย

นอกจากคุณนงลักษณ์เองดีใจแล้ว คนที่ดีใจมากที่สุดอีกสองคนก็คือ น้องสาวและเพื่อน เพราะทั้งคู่รู้ว่าคุณนงลักษณ์เสียสละให้พวกเขาได้ทำบุญก่อน ต่างพยายามช่วยกันสวดสรรเสริญ ช่วยกันอธิษฐานต่อพระมหาสิริราชธาตุ พอประสบความสำเร็จ จึงปีติกันทุกคน

ชีวิตของพี่น้องคู่นี้ นับเป็นตัวอย่างที่ดีของคนในโลก คนพี่มีครอบครัว นับจากครั้งแรกที่เคยมาวัดพระธรรมกาย เป็นเวลาสิบกว่าปี แล้วไม่มีโอกาสได้ไปวัดอีก วันหนึ่งๆ จิตใจวนเวียนอยู่แต่เรื่องคนในบ้าน หรือในหน้าที่การงาน ซึ่งจะได้ความสุขใจน้อยมาก

คนน้องเป็นสาวโสด วันหยุดจากทำงาน เข้าวัดให้ทาน รักษาศีล ปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนากับเพื่อนกัลยาณมิตร ไม่ต้องกังวลอะไรมากกับคนในบ้าน เพราะไม่ใช่ความรับผิดชอบโดยตรง กอบโกยแต่บุญกุศลให้ตนเองได้เต็มที่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าเป็นชายโสด จะได้บุญได้บารมียิ่งกว่านี้ เพราะสามารถได้บุญใหญ่ ขนาดบวชเป็นพระภิกษุได้บุญบารมีนับเป็นกัปๆ ได้รับประโยชน์ทั้งตนเองและผู้อื่น ทั้งประโยชน์ปัจจุบันภพนี้ ประโยชน์ภพหน้า และประโยชน์อย่างยิ่งคือ ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกันอีก

ผู้มีปัญญา ถ้ายังมีชีวิตเป็นโสดอยู่ ขอได้โปรดพิจารณาตรงนี้ เวลาของชีวิตหมดไปเท่าๆ กัน คนที่ี่ครองเรือนย่อมขาดทุนในการที่จะได้บุญได้บารมีตลอด ตรงข้ามกับคนที่เป็นโสด สามารถสร้างบุญกุศลกลั่นเป็นบารมีได้เต็มที่ เป็นกำไรยิ่งใหญ่ของชีวิต

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทุกชีวิตจบลงที่เชิงตะกอน ร่างกายมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีเพียงบุญกับบาปที่ตามไปเป็นเพื่อน คนในครอบครัวที่คิดว่ารักกันสุดหัวใจ ไม่มีใครยอมไปด้วยเลย เลือกการดำรงชีวิตด้วยปัญญา ดีกว่าปล่อยให้กิเลสครองใจมาจูงให้เราเดิน
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล