สัมมาอะระหัง
ตอน : พุทธานุสติเพื่อการเข้าถึงธรรม
ผนฺทนํ จปลํ จิตฺตํ จิตของคนนั้น มีธรรมชาติกวัดแกว่งเคลื่อนไหวแวบไป แวบมาอยู่ตลอดเวลา แสงที่ว่าเดินทางเร็วที่สุด แต่จิตของคนเราเดินทางเร็วไวยิ่งกว่า การทำใจให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ เพื่อให้ก่อเกิดเป็นพลังใจที่ทรงอานุภาพ ต้องอาศัยการภาวนาควบคู่ไปกับการทำสมาธิ
คำบริกรรมภาวนา สัมมาอะระหัง เป็นถ้อยคำมหัศจรรย์ที่น้อมใจไปถึงการ เจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เมื่อภาวนาบ่อย ๆ จะทำให้จิตตื่น เป็น จิตสว่าง ไม่จมปลักอยู่กับความมืด มีความพอใจที่จะปฏิบัติธรรมสืบต่อไป ธรรมดา บุคคลเราถ้าไม่มีอะไรยึดแล้ว จิตย่อมคอยแต่จะฟุ้งซ่าน จิตจึงต้องมีพุทธคุณยึด เมื่อมีพุทธคุณยึดแล้ว จะหลับหรือตื่น จิตย่อมอยู่ในการรักษาทั้งนั้น เพราะพุทธานุภาพ ย่อมรักษาคนที่มีสติระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์อยู่เป็นนิจ ดังพุทธภาษิตว่า
สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ สทา โคตมสาวกา
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ นิจฺจํ พุทฺธคตา สติ
พระสาวกของพระโคดม มีสติส่งไปถึงพระพุทธเจ้าทั้งวันทั้งคืน จะหลับหรือตื่น ชื่อว่าตื่นดีแล้ว
พุทธานุสติเป็นสิ่งที่เมื่อตรึกระลึกนึกถึงแล้ว จะก่อให้เกิดความสุขใจแก่ผู้ปฏิบัติธรรม ดังนั้นหลวงปู่วัดปากน้ำจึงพร่ำสอนอยู่บ่อย ๆ ว่าให้มีพระพุทธคุณเป็นอารมณ์ แม้จะยังไม่บรรลุอริยผลเบื้องสูง แต่รับรองว่าตายแล้วก็ไม่ตกนรก ดังพุทธภาษิตว่า "ชนเหล่าใดถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ชนเหล่านั้นจักไม่ไปสู่อบาย เมื่อละสังขารแล้ว จะไปเพียบพร้อมอยู่ในเทวสมาคม"
หลวงปู่วัดปากน้ำท่านสอนให้บริกรรมภาวนาว่า "สัมมาอะระหัง" เพราะ "สัมมาอะระหัง" เป็นอมตวาจา ...เป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยทำให้ใจที่วิ่งกลับนิ่ง
จากกวัดแกว่งมาเป็นหยุดได้สนิท ...จากฟุ้งซ่านมาเป็นนิ่งสงบ
...จากที่เคยมืดมนมาเป็นดวงใจที่สว่างไสว และจากใจที่ขุ่นมัวกลายมาเป็น ใจที่ผ่องใส
"สัมมาอะระหังเป็นนิจ จิตแจ่มใส"