สมาธิเปลี่ยนชีวิต
เรื่อง : son Backhome e-mail: [email protected]
เมื่ออะตอมใจเดินทางไปสู่ทะเลแห่งพลังงานภายในจักรู้ว่าปรมาณูไม่ได้ทำให้เกิดสันติ แต่สมาธิต่างหากที่ทำให้เกิดสันติภาพกับโลกอย่างแท้จริง
พระดอกเตอร์ปารัน สนฺทโร
จบการศึกษาปริญญาเอก สาขานิวเคลียร์ฟิสิกส์
จากสถาบันเทคโนโลยี
ประเทศอินเดีย
หาวิทยาลัยปรินซ์ตัน ได้ตีพิมพ์งานเขียนชิ้นหนึ่งของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นที่ยอมรับ กันอย่างกว้างขวางว่า เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ ๒๐ ผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วม ในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์และจักรวาลวิทยา เรื่อง "The Human Side" โดยนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฏีสัมพัทธภาพ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ผู้นี้ได้กล่าวทิ้งท้ายให้เป็นปริศนาแห่งโลกอนาคตว่า
"ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน
และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา (คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้นเมื่อครอบคลุม ทั้งธรรมชาติและจิตใจ
จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติ และจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้... ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือกับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบันได้ ศาสนานั้นก็
ควรเป็นพระพุทธศาสนา
ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เริ่มสงสัยว่าพระพุทธศาสนาอาจจะเป็นศาสนาที่ให้คำตอบต่อคำถามที่เขากำลังพยายามค้นหา แต่น่าเสียดาย ที่มัจจุมารไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ค้นพบคำตอบที่ต้องการได้เขาละโลกไปเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๘ และได้ทิ้งคำพูดที่เป็นปริศนา ที่สำคัญมากนี้ให้กับมวลมนุษยชาติได้ทำการพิสูจน์ ต่อไป
ผมอยู่ในทะเลแห่งพลังงานจนถึงเวลา ๔.๑๕ นาฬิกา ตลอดเวลาผมรู้สึกว่า สามารถจะเข้าไปสู่กลางทะเลแห่งพลังงานได้ลึกเข้าไปอีก และรู้ลึกๆ ว่า ตรงนี้คือหนทางแห่งพระนิพพานหลังจากที่ผมได้สัมผัสความสุขนั้นแล้ว มันเป็นสันติสุขที่มีเสน่ห์ครับเหมือนกับมีแม่เหล็กดูดคนรอบข้างเข้ามาหาผมทุกคนอยากมาอยู่ใกล้ผม และผมก็มีความสุขมากๆ พร้อมกับอยากแบ่งปันความสุขนี้ให้กับบุคคลอื่นด้วย
พระดอกเตอร์ปารัน สุนทโร ได้เล่าเรื่องของท่านให้ฟังว่า "ในระหว่างเรียน ผมได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือเล่มหนึ่งในปี ๒๕๕๐ ดูเหมือนว่าคำถามที่แสนท้าทาย นั้นของไอน์สไตน์ จะได้รับการยืนยันอย่างหนักแน่น จากนักวิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบัน คือ ดร.ปารัน กาวดา หรือ พระดอกเตอร์ปารัน สุนทโร อายุ ๕๑ ปี ซึ่งจบการศึกษาปริญญาเอก สาขานิวเคลียร์ฟิสิกส์ จากสถาบันเทคโนโลยีอินเดีย ทว่าการค้นพบ คำตอบของคำถามดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องทดลองวิทยาศาสตร์แต่เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติธรรม ด้วยการนั่งหลับตาทำสมาธิ
เขียนโดย สะวามี่ วิเวขะนันดา ซึ่งเป็นนักบวชแบบโยคี ที่เชื่อว่า สมาธิทำให้โลกสงบสุขได้ คำว่า ทำให้โลกสงบสุข เป็นคำที่สะกิดสิ่งที่ฝังอยู่ในใจผมเป็นที่สุด ผมบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า เราต้องเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับโลกนี้ให้ได้"
ด้วยความปรารถนาที่จะค้นหาตัวตนที่แท้จริง ทางจิตวิญญาณ ท่านจึงเริ่มใช้ชีวิตนักบวชแบบโยคี ร่อนเร่ไปตามที่ต่างๆในอินเดียเพื่อเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ ที่จะสอนให้ค้นพบสิ่งที่ได้ตั้งใจเอาไว้ จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนชาวอินเดียเคยที่นับถือศาสนาฮินดู ต่อมาได้เปลี่ยนมาบวชเป็น พระในพระพุทธศาสนา เป็นเวลา ๕ ปีแล้ว ชื่อ พระธรรมเกียรติ จากเมืองอันดาเปรเดสบริเวณ ตอนใต้ของอินเดีย ได้ส่งจดหมายบอกให้ทราบเรื่อง โครงการบวชพระธรรมทายาทนานาชาติ รุ่นที่ ๕ ที่วัดพระธรรมกาย
เมื่อได้รับข้อมูลของโครงการ ผมเกิดความสนใจที่จะได้มาเรียนรู้อย่างเต็มที่ ได้ตรวจสอบใน Websiteและได้เห็นข้อความของหลวงพ่อธัมมชโย เกี่ยวกับการสร้างสันติสุขโลก ทำให้รู้สึกว่า ถ้ามาที่นี่ ผมจะต้องได้ทำในสิ่งที่ผมอยากทำมาตลอดคือ การสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นแก่โลกได้จริงๆ
เมื่อมาถึงวัดพระธรรมกาย หลังเข้ารับการอบรมและบวชเป็นพระภิกษุ พระดอกเตอร์ปารัน ได้เปิดเผยความรู้สึกให้ฟังว่า การมาบวชเป็นพระที่วัดพระธรรมกาย ผมมีความสุขมากๆ ชีวิตการเป็น พระสำหรับผมแล้วไม่ได้ลำบากแต่อย่างใดเลยเพราะผมใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบวชมาโดยตลอด อีกทั้ง ผมเคยปฏิบัติตนแบบโยคี ซึ่งประพฤติพรหมจรรย์เช่นกัน ดังนั้น ผมจึงรู้สึกเป็นธรรมชาติมากๆ ในการมาบวชเป็นพระครั้งนี้
ในส่วนของการทำสมาธิก่อนหน้านี้ ท่านได้ฝึกสมาธิแบบโยคะมาหลายสิบปีแล้ว แต่ฝึกได้ประมาณครั้งละ ๑ ช.ม.เท่านั้นจนกระทั่งได้มา ฝึกวิธีการนั่งสมาธิเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย ท่าน สามารถนั่งสมาธิติดต่อกันได้ถึง ๗ ชั่วโมง และนั่งเนสัชฯ (บำเพ็ญเพียรตลอดทั้งคืนโดยไม่นอน) เป็นเวลา ๔ คืนติดต่อกันได้อย่างสบายๆ
เนื่องจากท่านเป็นนักฟิสิกส์ จึงมองทุกอย่างเป็นพลังงาน เพราะพลังงานจะไม่สูญหายไปไหน แต่จะแค่เปลี่ยนรูปไปตามสถานการณ์นั้นๆ หลังจาก ได้นั่งสมาธิท่านก็ได้ค้นพบโลกแห่งพลังงานภายใน ซึ่งเกิดจากการทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗และได้อธิบายถึงผลการปฏิบัติธรรมของท่านในแบบพลังงานดังนี้
แรกเริ่ม ผมนั่งสมาธิตั้งแต่เวลา ๒๑ นาฬิกา มีเพื่อนพระภิกษุนั่งอยู่ด้วยกันหลายรูป ต่อมาทุกรูป ก็ทยอยกันไปจำวัดผมก็ทำสมาธิไปเรื่อยๆ ด้วยใจ นิ่งๆ สบายๆ พอทำใจนิ่งๆ สักพัก ผมมีความรู้สึกว่า ร่างกายหายไปหมด เหมือนเป็นการเดินทางด้วยความเร็วแสง แล้วร่างกายแยกออกเป็นส่วน เหลือแต่อะตอมใจที่เดินทางไป ผมได้เห็นพลังงานที่สว่างจำนวนมหาศาลอยู่รอบๆ ตัว เหมือนกับว่าอยู่ ท่ามกลางทะเลแห่งพลังงานที่สว่างไสวและกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ผมมีความสุขมากๆ ครับผมได้รับรู้ถึงความสุข และความปรารถนาดีอันไม่มีประมาณ และได้ส่งความปรารถนาดี ให้แก่คน ทั้งโลกด้วย
ผมอยู่ในทะเลแห่งพลังงานจนถึงเวลา ๔.๑๕ นาฬิกา ตลอดเวลาผมรู้สึกว่า สามารถจะเข้าไปสู่กลางทะเลแห่งพลังงานได้ลึกเข้าไปอีก และรู้ลึกๆ ว่า ตรงนี้คือหนทางแห่งพระนิพพาน หลังจากที่ผมได้สัมผัสความสุขนั้นแล้ว มันเป็นสันติสุขที่มีเสน่ห์ครับ เหมือนกับมีแม่เหล็กดูดคนรอบข้างเข้ามาหาผม ทุกคนอยากมาอยู่ใกล้ผม และผมก็มีความสุขมากๆ พร้อมกับอยากแบ่งปันความสุขนี้ ให้กับบุคคลอื่นด้วย
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ปรมาณูไม่ได้ทำให้เกิดสันติอย่างที่ใครๆ เขาว่ากัน แต่สมาธิต่างหากที่ทำให้ เกิดสันติภาพกับโลกอย่างแท้จริง ผมอยากจะไปตั้ง Meditation Center ใกล้ๆ โรงงานนิวเคลียร์ เพราะเมื่อผมได้พบกับสันติสุขในตัวผมอยากส่งความรู้สึกนี้ไปให้ทุกคนรอบตัวทันที
ถ้าทุกคนได้รู้จักที่จะทำใจให้หยุดนิ่ง เราจะรู้จักอะตอมใจที่เดินทางไปสู่ทะเลแห่งพลังงาน อันสว่างไสว พลังงานภายในที่เปลี่ยนแปลงให้โลก ใบนี้เกิดสันติสุขได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับ พระดอกเตอร์ปารัน สุนทโร ซึ่งได้เข้าถึงทะเลแห่งพลังงานนั้นได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับได้ยืนยันว่า ถ้าทุกคนได้มาสัมผัสประสบการณ์อย่างผม ทุกคน ก็จะรู้สึกเช่นเดียวกับผม
ผมก็ทำสมาธิไปเรื่อยๆ ด้วยใจ นิ่งๆ สบายๆ พอทำใจนิ่งๆ สักพัก ผมมีความรู้สึกว่า ร่างกายหายไปหมด เหมือนเป็นการ เดินทางด้วยความเร็วแสง แล้วร่างกายแยกออกเป็นส่วน เหลือแต่อะตอมใจที่เดินทางไป ผมได้เห็นพลังงานที่สว่าง จำนวนมหาศาลอยู่รอบๆ ตัว |