คนเราย่อมมีนิสัยแตกต่างกันไป บางคนนิสัยดี บางคนนิสัยไม่ดี นิสัยของคนเราทั้งดีและไม่ดีนี้ เกิดขึ้นมาได้อย่างไรเจ้าค่ะ ?
นิสัยของคนเราไม่ว่าจะดี หรือไม่ดี ก็ตาม ล้วนเกิดมาจากการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ของตัวเอง นิสัยของใครก็ขึ้นอยู่กับการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ของผู้นั้น
โดยมีหลักอยู่ว่า ผู้ที่มีทัศนคติ และวิธีการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ในทางที่ถูก ที่ควร ก็จะได้นิสัยดีๆ ส่วนผู้ที่มีทัศนคติ และวิธีการ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ในเรื่องไม่ดีในสิ่งที่ผิด ก็จะได้นิสัยไม่ดีติดตัวไป
สำหรับเรื่องที่มนุษย์ ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ กันเป็นประจำ ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายนั้น มีอยู่ ๔ เรื่องใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่
๑. ปัจจัย ๔ คือ เรื่องอาหาร เรื่องเสื้อผ้า เรื่องที่อยู่อาศัย และเรื่องการรักษาสุขภาพของตัวเอง ภาษาพระเรียกว่าปัจจัย ๔ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนต้อง ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ กันตลอดชีวิตทีเดียว
๒. กิจวัตรประจำวัน เช่น การนอน การตื่น การอาบน้ำ การแปรงฟัน เป็นต้น
๓. อาชีพ ถ้าเป็นอาชีพการงานประเภทสัมมาทิฏฐิ คือ ทำมาหาเลี้ยงชีพในทางที่ชอบ นิสัยที่ดีก็จะเกิดขึ้นมา แต่ว่าถ้าหาเลี้ยงชีวิตในทางไม่ชอบ เช่น มีอาชีพขโมยเขากิน เราก็คงเดากันได้ว่านิสัยของผู้นั้นจะเป็นอย่างไร
๔.สิ่งแวดล้อม เรื่องที่มนุษย์ต้อง ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ เป็นประจำอีกอย่างหนึ่ง ทั้งที่อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็คือ สภาพสิ่งแวดล้อมของเขา ไม่ว่าสภาพ แวดล้อมนั้นจะเป็นคน หรือว่าเป็นธรรมชาติก็ตาม
เช่น รอบๆ บ้านเป็นสลัม เช้าขึ้นมาก็มีเสียง จ้อกแจ้ก จอแจ โหวกเหวก โครมคราม ดูช่างสับสนวุ่นวายไปหมด ผู้คนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้ ก็จะมีนิสัยไปอย่างหนึ่ง
ส่วนผู้ที่มีบ้านอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ชอบไปวัดปฏิบัติธรรม นิสัยก็จะเป็นไปอีกอย่างหนึ่งนิสัยเกิดจากอาหาร
นิสัยที่เกิดจากปัจจัย ๔ ในเรื่องของอาหารที่เรากินกัน แต่ละมื้อ แต่ละคำ ถ้าบ้านไหนแค่พ่อแม่มีทัศนคติว่า "คนเรากินเพื่ออยู่" ก็จะทำให้คนในบ้านนั้น มีนิสัยประหยัด มีนิสัยรักที่จะทำความดี
แต่ถ้าบ้านไหนมีทัศนคติว่า "คนเราอยู่เพื่อกิน" อย่างนี้แสดงว่าคนในบ้านนั้นเตรียมกินบ้านกินเมือง เตรียมโกงกันเสียแล้ว
เพราะฉะนั้น ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องอาหาร สามารถทำให้เกิดเป็นนิสัยของคนขึ้นมาได้
วิธีกินอาหารก็เหมือนกัน บ้านไหนพ่อแม่ลูกกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา คนในบ้านนั้น จะมีนิสัยรักกัน เป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน
ถ้าหากบ้านไหนถึงเวลากินข้าว ใครหิวก็กินก่อน ใครยังไม่หิวก็ตัวใครตัวมัน ลูก ๓ - ๔ คน ไม่เคยกินข้าวพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่เลย เด็กๆ เหล่านี้ พอโตขึ้นจะไม่รัก ไม่ห่วงใยกัน เพราะว่าได้ฝึกความเป็นตัวใครตัวมันมาตั้งแต่แรกเสียแล้ว
นิสัยเกิดจากเสื้อผ้า
เรื่องเสื้อผ้าก็เหมือนกัน บ้านไหนมีทัศนคติว่า เสื้อผ้ามีไว้เพื่อใช้กันแดด กันลม กันฝน กันร้อน กันหนาว กันอาย คนบ้านนั้น จะมีนิสัยไม่ชอบการฟุ้งเฟ้อ ติดตัวมาตั้งแต่เล็กแต่ถ้าบ้านไหนเวลาแต่งตัวแต่ละที นอกจากจะต้องเด่น ต้องดังแล้ว ยังต้องตามแฟชั่นให้ทันด้วย คนพวกนี้ก็จะได้นิสัยไปอีกอย่างหนึ่ง คือมีนิสัยชอบตามกระแสโลก ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง
นิสัยเกิดจากที่อยู่อาศัย
ที่อยู่อาศัยก็ทำให้กลายเป็นนิสัยได้ เช่น ลูกที่ตื่นนอนขึ้นมา พับผ้าห่ม เก็บที่นอน ปัดกวาดเช็ดถูห้องนอนเรียบร้อย แถมยังมาช่วยคุณแม่เก็บกวาดเสียรอบบ้าน ก็จะได้นิสัยมีความ รับผิดชอบมาตั้งแต่เล็กๆ
ส่วนเด็กที่ตื่นนอนขึ้นมา ไม่เคยเก็บที่นอน ไม่เคยช่วยคุณแม่ทำความสะอาดบ้านเลย ก็จะได้นิสัยไม่มีความรับผิดชอบแม้กระทั่งตัวเอง
นิสัยเกิดจากการรักษาสุขภาพ
ถ้าคุณพ่อคุณแม่สอนให้ลูกๆ รู้จักรักษาสุขภาพตั้งแต่เล็ก แล้วลูกก็ปฏิบัติตามอย่างดี ตั้งแต่ สอนให้แปรงฟันอย่างถูกวิธี สอนวิธีอาบน้ำให้สะอาด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะถูก ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ แล้วกลายเป็นนิสัยได้อีกเหมือนกันส่วนเรื่องของกิจวัตรประจำวัน อาชีพการงาน สภาพสิ่งแวดล้อม ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ทำให้ต้อง ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ จนกระทั่งกลายเป็นนิสัยของคนเราทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะให้ตัวเอง หรือลูกหลานวงศ์วานว่านเครือเนื้อหน่อในครอบครัว มีนิสัยดีอย่างไรก็เลือก ย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ แต่สิ่งที่ดีๆ เหล่านั้นก็แล้วกัน