พระธรรมเทศนา
เหลือเวลาอีก ๑๑๐ วัน ก็จะถึงวันหล่อ รูปพระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ๑๑๐ วันประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น ให้ตั้งใจรักษากาย วาจา ใจ ของเราให้ใสๆ โดยการตรึกระลึกนึกถึงบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันนั้น ซึ่งไม่ใช่เกิดขึ้นได้ง่ายเลยแล้วก็ตรึกระลึกนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ ให้ท่านประดิษฐานที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ของเรา ทั้งหลับตา ลืมตา นั่ง นอน ยืน เดิน ก็ต้องให้เห็นท่านชัดใสแจ่มอยู่ตลอดเวลา กาย วาจา ใจ ของเราจะได้ใสสะอาดบริสุทธิ์ เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันนั้น วันคล้ายวันเกิดด้วยรูปกายเนื้อของท่าน ซึ่งปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑ ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็จะอายุได้ ๑๒๔ ปี วันนั้นเราจะหล่อท่านด้วยทองคำหนัก ๑ ตัน
พระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านเป็น มหาปูชนียาจารย์ของเราและชาวโลกทีเดียว ถ้าปราศจากท่านแล้ว การศึกษาธรรมะของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ที่จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการปฏิบัติธรรม ไม่ง่าย ทำอย่างไรถึงจะมั่นใจว่าทำถูกหลักวิชชา ก็ไม่ใช่ง่ายแต่ท่านสรุปวิธีการที่ง่าย ตรง ลัด ประหยัดสุดประโยชน์สูงมาให้เราแล้วว่า หยุดเป็นตัวสำเร็จ ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหันต์ เพราะฉะนั้นท่านมีพระคุณต่อเรามากๆ
ต้องไปทบทวนดู นึกถึงภาพท่าน แล้วนึกถึงเรื่องราวของท่าน แล้วเราจะซาบซึ้งว่า ท่านมีพระคุณต่อเรามากจริงๆ
เพราะเราเกิดมาในแต่ละภพแต่ละชาติ โดยเฉพาะชาตินี้ที่เรายังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่เราปรารถนา ที่สุด คือ ต้องการเข้าถึงความสุข ความสมหวังในชีวิต จนกระทั่งไม่ต้องการอะไรอีกเลย นี่คือความปรารถนาลึกๆ
ของทุกคนในโลก แต่เราก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร อยู่ตรงไหน แล้วจะเข้าถึงได้อย่างไร เราไม่รู้จริงๆ จนกระทั่งมีการบังเกิดขึ้นของท่าน แล้วเราก็ได้โนว์-ฮาว (know-how) จากท่าน จากความรู้ที่ท่านสอน ทำให้เราปฏิบัติได้ถูกต้อง แล้วก็มั่นใจ จนกระทั่งเราได้เข้าถึง มีประสบการณ์ภายใน แล้วก็ทำให้เกิดความปีติสุข และสมหวัง ดังใจในชีวิตของเรา
เพราะฉะนั้น ๑๑๐ วันนี้ เราไปลองปฏิบัติดูโดยนึกถึงภาพท่านให้ต่อเนื่อง อย่าให้ขาดเลย แม้เราจะมีภารกิจในชีวิตประจำวันอย่างไร ก็อย่าให้มาเป็นอุปสรรคต่อการตรึกระลึกนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เพราะว่านั่นคือจุดเริ่มต้นที่เราจะเข้าถึงพระธรรมกาย ในตัวโดยอาศัยอานุภาพจากการระลึก นึกถึงท่านด้วยความเคารพบูชาเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะนำใจของเราไปเชื่อมกับกระแสธารแห่งความบริสุทธิ์ภายใน กระทั่งใจหยุดนิ่ง เข้าถึงพระธรรมกายในตัว สมหวังในชีวิตของเรา
เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันนี้เรื่อยไปให้นึกถึง ท่านทุกวัน นั่ง นอน ยืน เดิน ก็นึกกันไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมาอาจจะมีบางวันที่เราลืมไป หรือละเลยไป แต่ว่า ๑๑๐ วันนี้ อย่าให้พลาดในการที่จะระลึกนึกถึงท่านอย่างน้อยวันละสักครั้งหนึ่ง แต่ถ้าดีที่สุด คือ ทั้งวันเรื่อยไปจนกระทั่งเข้านอน ก่อนเข้าสู่นิทรา ให้นึกถึงภาพท่านก่อน แม้จะเลือนรางในช่วงแรกๆ ก็ไม่เป็นไร ให้ใจเราไปเชื่อมสายบุญกับท่าน แล้วเราก็จะได้หลับอยู่ในอู่แห่งทะเลบุญ
การที่เราระลึกนึกถึงท่าน โดยนึกถึงภาพท่าน เป็นสื่อเชื่อมโยงไปถึงกายของท่านที่อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต หรือดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ จะทำให้ท่านรับทราบ พอนึกถึงท่าน ท่านก็นึกถึงเรา คือ รวบเอาเราไปไว้ในศูนย์กลางกายของท่าน แล้วกลั่นแก้กาย วาจา ใจ เราให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ แล้วเติมบุญ เติมบารมีเติมความสมปรารถนาให้กับเรา นี่เป็นเรื่องที่เราต้องศึกษา ถ้าเราไม่ศึกษาเราก็ไม่รู้ และอาจจะมองข้ามไป เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นวันดี ที่เรามีโอกาสได้ยินได้ฟังและได้รับทราบกันโดยทั่วถึง เหลืออย่างเดียวคือลงมือปฏิบัติ
แล้วก็ควรสร้างบุญในการชวนคนมาทำ ความดีให้เยอะๆ จะได้มีพวกพ้องบริวารที่เป็นบัณฑิตนักปราชญ์มากๆ
ด้วยอานิสงส์แห่งบุญที่เกิดจากการชักชวนคนทำความดี วันอาทิตย์ก็ชวนคนมาวัดปฏิบัติธรรม ในช่วง ๑๑๐ วัน ก็ชวนคนมาหล่อรูปเหมือนทองคำของพระเดชพระคุณ หลวงปู่ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ชวนทุกวันเลย ใครเป็นเจ้าของบุญ เขาก็จะเกิดกุศลศรัทธาทำทันที ใครที่เคยมีสายบุญแต่ว่าห่างเหินไปนานด้วย ความประมาทในการดำเนินชีวิตในภพชาติต่างๆ ที่ผ่านมา ก็อาจจะคิดช้าหน่อย เราก็ให้เวลาเขา สักนิด บางคนที่ห่างนานมาก แต่มีสายบุญเชื่อมกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ บุญจะบันดาลให้เราไปเจอเขา แล้วชวนเขา แต่เพราะความห่างเหินมายาวนานในภพชาติที่ผ่านมาเขาก็อาจจะยังไม่เข้าใจ แล้วก็อาจจะค้านเราบ้างก็ช่างเขา เราก็ทำหน้าที่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวัน อย่าเว้นเลยแม้แต่เพียงวันเดียว
อานิสงส์แห่งบุญในการชวนคนทำความดี ก็จะได้บังเกิดขึ้นกับตัวเราทุกวัน แล้วก็จะสั่งสมพอกพูนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอานิสงส์นั้นขยายผลส่งผลในปัจจุบันชาติให้เราได้ทันตาเห็น ทีเดียว แต่ภพชาติในอนาคตนั้นแน่นอน เนื่องจากการที่เราทำบุญในการชวนคนทำความดีในปัจจุบันนี้ เหมือนต้นกล้าไม้อ่อนๆ ที่รอคอยการเจริญเติบโตเป็นไม้ใหญ่ต่อไปในอนาคต ซึ่งเวลาของชีวิตเราในยุคนี้ไม่เพียงพอจะทันได้เห็นผลแห่งบุญนั้น แต่ก็จะบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ในภพชาติเบื้องหน้า นี่คือกฎของเหตุและผล กฎแห่งการกระทำ กฎแห่งกรรม
สิ่งที่เราทำลงไปทั้งทางความคิด คำพูด และการกระทำ ประกอบเหตุอย่างไร ผลก็จะต้องเป็นอย่างนั้นปลูกถั่วก็จะต้องเป็นถั่ว ปลูกแอปเปิลก็ต้องเป็นแอปเปิล จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เราประกอบคุณงามความดี ชวนคนทำความดี ก็ย่อมมีอานิสงส์ที่จะมีพวกพ้องบริวารที่ดีๆ บังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าเราทำซ้ำๆ มากเข้า ต้นไม้นี้ก็อาจจะโตขึ้นแบบโอปปาติกะได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีตัวอย่างมากมายที่เกิดขึ้นในปัจจุบันชาติ
โอกาสที่จะหล่อรูปเหมือนทองคำพระเดชพระคุณหลวงปู่ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย เกิดขึ้น ไม่ง่าย แล้วองค์นี้เราจะประดิษฐานที่มหาวิหารพระเดชพระคุณหลวงปู่แทนองค์เดิม ที่เราจะ อัญเชิญไปประดิษฐาน ที่เจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นการบูชาธรรมพระเดชพระคุณ หลวงปู่ และหลวงพ่อก็ได้มีโอกาสบูชาธรรมสมเด็จพระอุปัชฌาย์ แล้วก็มีโอกาสทดแทนพระคุณของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เนื่องจากหลวงพ่อบังเกิดขึ้นที่นั่น ตั้งแต่มาเรียนธรรมะกับคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เมื่ออายุตั้งแต่ ๑๙ ปี บวชก็บวชที่นั่น แล้วก็ได้รับความรู้ทั้งภาคทฤษฎี ทั้งภาคปฏิบัติ ประสบการณ์ต่างๆ ที่เล่าเรื่องราวของ พระเดชพระคุณหลวงปู่ หรือมหาปูชนียาจารย์ ทุกท่าน ก็บังเกิดขึ้นที่นั่น ดังนั้น ก็เป็นโอกาสที่หลวงพ่อจะได้ทำหน้าที่ตรงนี้ให้สมบูรณ์ ลูกทุกคนก็มีส่วนแห่งบุญตรงนี้ด้วย
|
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เป็นผู้มีคุณูปการอันยิ่งใหญ่ต่อพระพุทธศาสนา ได้บรรพชา เป็นสามเณร ตั้งแต่อายุ ๑๔ ปี เมื่อวันจันทร์ที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๒ พระเดชพระคุณ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)ได้เคยพยากรณ์ในสมัยที่ท่านยังเป็นสามเณรว่า"องค์นี้แหละ จะได้เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำองค์ต่อไป" ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ได้รับฉายา "วรปุญฺโญ"พระครูบริหารบรมธาตุ (ป่วน เกสโร) วัดนางชี
เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์
ที่ พระครูสมณธรรมสมาทาน เป็นกรรมวาจาจารย์ ในเวลาต่อมาท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ดังคำทำนายของพระเดชพระคุณหลวงปู่ และเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
ปัจจุบัน ท่านเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม รองแม่กองงานพระธรรมทูตประธานคณะพระธรรมจาริก และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (พระอารามหลวง) ท่านได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และแม่กองบาลีสนามหลวง
และเป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าสถาปนาขึ้นเป็น
สมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัตร เมื่อปี ๒๕๓๘ มีนามตามจารึกในสุพรรณบัตรว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไพศาลหิตานุหิตวิธาน ปฏิภาณสุธรรมภาณี ศรีสังฆโสภณ วิมลศีลาจารย์นิวิฐ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม อรัญวาสี