มุทิตามหาเปรียญธรรม
เรื่อง : พระมหาศุภณัฐ จนฺทชโย ป.ธ.๙
กราบมุทิตามหาเปรียญผู้ยิ่งใหญ่
เส้นทางที่ทอดยาวจนยากที่จะมองเห็นจุดหมายปลายทางได้อย่างแจ่มชัด ได้ทำให้นักเดินทางหรือนักผจญภัยทอดถอนใจระหว่างทางจนละทิ้งความฝันและความหวังกันมานักต่อนัก แต่นั่นไม่ใช่กับยอดพุทธบุตรทั้ง ๖๓ รูป และยอดอุบาสิกา ๒ ท่าน ผู้สวมหัวใจนักสู้ จนสามารถคว้าธงชัยที่ชื่อว่า “เปรียญธรรม ๙ ประโยค และบาลีศึกษา ๙” มาครอบครองได้
ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของภาษาบาลี ซึ่งเก็บรักษาความรู้อันประเสริฐที่พระพุทธองค์ได้ทรงสั่งสอนเอาไว้ วัดพระธรรมกายจึงจัดกิจกรรมงานบุญพิธีมุทิตาสักการะพระภิกษุ-สามเณรผู้สอบผ่านเปรียญธรรม ๙ ประโยค ปีที่ ๓๓, พิธีมอบโล่เกียรติยศและทุนการศึกษาสำนักเรียนบาลีดีเด่นทั่วประเทศ ปีที่ ๑๗ ในวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อแสดงมุทิตาจิตแด่ผู้ทรงจำศึกษาจนถึงฝั่งแห่งพระบาลีได้ (ป.ธ.๙, บ.ศ.๙) อีกทั้งเพื่อเป็นการให้กำลังใจสำหรับแต่ละก้าวย่างในเส้นทางสายนี้ของผู้ที่กำลังพากเพียรอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ นี้ ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ ป.ธ.๙) เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม ที่ปรึกษาแม่กองบาลีสนามหลวง รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (พระอารามหลวง) เป็นประธานสงฆ์ โดยมีผู้แทนเปรียญธรรม ๙ ประโยค ในการกล่าวสุนทรพจน์ระดับโลก คือ พระมหาวิริทธิพล วีริทฺธิชโย ป.ธ.๙ วัดพระธรรมกาย ส่วนการกล่าวสุนทรพจน์เปิดใจมีสามเณรจากวัดพระธรรมกาย ๒ รูป คือ สามเณรดวิชญ์ คำขัติ และสามเณรภัทรกรณ์ ป่าไผ่ เป็นตัวแทน
นอกจากนี้ วัดพระธรรมกายยังจัดกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ พิธีบูชาข้าวพระ พิธีกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน พิธีถวายมหาสังฆทาน ๑,๐๐๐ วัดทั่วประเทศ ปีที่ ๒๑ พิธีถวายไทยธรรมแด่คณะสงฆ์ ๓๒๓ วัด ๔ จังหวัดภาคใต้ ปีที่ ๑๖ ครั้งที่ ๑๕๒ พิธีมอบกองทุนหนุนแรงใจช่วยครูใต้ ปีที่ ๑๓ ครั้งที่ ๑๑๗ เป็นต้น ซึ่งบรรยากาศงานบุญเต็มไปด้วยภาพแห่งความปลาบปลื้มปีติของศรัทธาสาธุชนผู้มาร่วมงานทุกท่าน
ท้ายที่สุดนี้ ผู้เขียนพร้อมทั้งทีมงานขอตั้งจิตอนุโมทนากับยอดนักบุญทุกท่าน ที่ได้มาร่วมมุทิตายินดีกับพุทธบุตรผู้สอบไล่ได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค และอุบาสิกาทั้ง ๒ ท่าน ที่สอบได้บาลีศึกษา ๙ ซึ่งความสำเร็จในการศึกษาพระบาลีของทุกท่านจะบังเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากความพากเพียร ดังนั้น “ความเพียร” จึงเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การทำให้บังเกิด และเจริญขึ้นในใจของพวกเราทั้งหลาย เพราะโดยที่สุดแล้ว แม้แต่การจะขจัดความมืดมนในใจให้หมดไป ก็ยังไม่สามารถขาด “ความเพียร” ไปได้เลย สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า
วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ
(ขุ.สุ. (บาลี) ๒๕/ ๓๑๑/ ๓๖๑)
(คน) จะล่วงพ้นทุกข์ได้ด้วยความเพียร
(ขุ.สุ. (ไทย) ๒๕/ ๑๘๖/ ๕๔๔)