Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน
ตอน เลิกอบายมุข พบสุขแท้จริง
ความตายติดตามตัวเรามาพร้อมๆกับการลืมตาขึ้นมาดูโลก เหมือนกับดอกเห็ดที่ผุดขึ้นมาพร้อมกับดิน เราไม่สามารถหนีพ้นจากความตายไปได้ บัณฑิต นักปราชญ์ ผู้มีปัญญา ท่านมองเห็นว่าความตายไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ทุกๆคนจะต้องเผชิญ
อันที่จริงความตายก็เป็นเพียงการย้ายที่อยู่อาศัย ไปอยู่ภพภูมิที่เหมาะสมกับบุญบารมี หรือบาปอกุศลที่ได้ทำเอาไว้ ผู้มีบุญมากก็ย้ายที่อยู่ไปสู่สุขคติ ผู้มีบาปมากก็ต้องไปอยู่อบายภูมิ เสวยวิบากกรรมในแดนแห่งทุกข์คติ
หากว่าเราไม่ประสงค์จะตายอีก มีวิธีเดียวเท่านั้นคือเราต้องแสวงหาหนทางที่ไม่กลับมาเกิดอีก ด้วยการหมั่นฝึกฝนอบรมใจให้หยุดนิ่ง ไปให้ถึงกายธรรมอรหันต์ ขจัดกิเลสให้หมดสิ้นไป เมื่อทำได้อย่างนี้ เราก็จะหลุดพ้นจากพญามัจจุราชได้อย่างถาวร
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ ในปฐมภยเวรสูตร ว่า
“บุคคลผู้ดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ย่อมประสบเวรภัย ทั้งที่เป็นไปในปัจจุบันก็มี ที่เป็นไปในสัมปรายภพก็มี เขาเสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไป ทั้งกายและทางใจ”
โดยทั่วไป คนเราแม้ยังไม่ได้ดื่มสุราเมรัยก็เมาอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเมา คือเมาในความเป็นหนุ่มเป็นสาว คิดว่ายังมีเวลาสนุกสนานอีกนานหลายปี ยังไม่แก่ชราง่ายๆ จึงไม่รีบขวนขวายประพฤติธรรม บ้างก็เมาในความเป็นผู้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ คิดว่าตัวเองยังแข็งแรงอยู่ และก็จะแข็งแรงต่อไปอีกนาน
โดยหารู้ไม่ว่าโรคร้ายต่างๆกำลังคลืนคลานเข้ามาเยือน เพราะว่าร่างกายเป็นรังแห่งโรค เมื่อวิบากกรรมในอดีตตามส่งผล ก็พร้อมจะนำเอาโรคร้ายมาสู่ตัวเราได้ตลอดเวลา บางคนก็เมาในชีวิต คือคิดว่าความตายยังอยู่ห่างไกล อีกนานกว่าความตายจะมาถึง
โดยหารู้ไม่ว่าความตายไม่ได้มีนิมิตหมายบอกล่วงหน้า พญามัจจุราชสามารถคร่าชีวิตไปได้ในทุกขณะจิต ผู้รู้ทั้งหลาย ท่านสงสารชาวโลก เพราะเห็นว่าส่วนใหญ่ยังประมาทกันมาก โดยไม่เฉลียวใจว่า ความตายพร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ที่จริงตั้งแต่เกิดมาก็มีความแก่ ความเจ็บและความตายติดมาด้วยอยู่แล้ว
เหมือนดวงอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้า ก็บ่ายหน้าไปสู่การอัสดงไม่เคยยืนยงส่องสว่างตลอดกาล ชีวิตมีภัยอันตรายอยู่รอบด้าน พร้อมจะดับลงได้ทุกขณะ จึงจำต้องไม่ประมาท รีบเร่งสร้างบุญกุศล ติดตัวไปได้มากที่สุด
ดังนั้น คนที่ประมาท คนที่ดื่มสุรา เสพยาเสพติดจึงล้วนแต่เพิ่มความขาดสติให้แก่ตนเองมากยิ่งขึ้น เพิ่มความเมาที่เห็นเป็นรูปธรรมให้หนักขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังเกิดโทษอีกมากมาย ทั้งแก่ตนเองและคนรอบข้าง รวมถึงประเทศชาติ คนส่วนมากเข้าใจว่าคนที่ดื่มเหล้าเมาจนเดินไม่ไหวหรือพูดไม่รู้เรื่องแล้วคือคนขาดสติ
แต่จริงๆแล้วในทางธรรมถือว่าขาดสติตั้งแต่คิดจะดื่มและคิดจะซื้อแล้ว ยิ่งถ้าลงมือเปิดขวดรินเหล้าใส่แก้วแล้วดื่มลงไป ก็ยิ่งขาดสติมากขึ้นไปอีก ยิ่งดื่มมากเท่าไร ความเป็นคนก็ลดน้อยถอยหลังตามไป เมื่อความเป็นคนเหลือน้อยความดีก็ลดลงตามลำดับ จนกระทั่งหมดสติ ก็หมดความเป็นคนไปชั่วขณะ ตอนนี้ใจจะหมองมาก หากละโลกตอนนี้ก็ไปไม่ดีแน่
ตัวอย่างของโทษที่ดื่มเหล้าจนขาดสติ เรื่องมีอยู่ว่า ในสมัยหนึ่ง เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้ากำลังเสด็จจาริกในเจติยชนบทอยู่ คนเลี้ยงโคคนเลี้ยงสัตว์และชาวนาที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้ากำลังเสด็จดำเนินมาแต่ไกล ด้วยความเป็นห่วงพุทธองค์ จึงได้เข้าไปกราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่ต้นมะม่วงในอาศรมร้างของชฎิล มีพญานาคอาศัยอยู่ เป็นสัตว์มีฤทธิ์ เป็นอสรพิษที่มีพิษร้าย ขอพระองค์อย่าได้เสด็จไปเลย” พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อสดับแล้วก็ทรงดุษณียภาพนิ่งเฉยไม่แสดงอาการเห็นด้วยหรือคัดค้าน ได้แต่เสด็จดำเนินไปเรื่อยๆ จึงครั้งที่สองและครั้งที่สามที่ชาวบ้านได้ทูลห้ามไม่ให้เสด็จเข้าไป พระพุทธองค์ก็ทรงเฉยๆ ยังมุ่งหน้าไปใกล้บริเวณที่พญานาคสิงอยู่
ในครั้งนั้นท่านพระสาคตะได้ตามเสด็จไปด้วย ท่านเดินผ่านไปทางต้นมะม่วง ซึ่งเป็นอาศรมร้างของชฎิล ครั้นถึงแล้วก็ได้เข้าไปยังโรงบูชาไฟ ปูหญ้าเครื่องลาด นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า เพื่อจะแสดงอานุภาพให้ชาวบ้านแห่งนั้นได้รู้ถึงคุณค่าของพระศาสนา
พญานาคเป็นสัตว์ดุร้ายมีความโกรธเป็นกำลัง พอเห็นท่านพระสาคตะเข้ามานั่งก็บังหวนควันขึ้นเพื่อทำร้ายท่านในทันที ท่านพระสาคตะซึ่งรู้ว่ากำลังจะถูกประทุษร้ายก็เข้าฌานบังหวนควันโต้ตอบ พญานาคทนควันของพระสาคตะไม่ได้เพราะร้อนแรงกว่า
จึงเปลี่ยนเป็นพ่นไฟเข้าใส่ หวังจะเผาท่านให้ไหม้เป็นจุล พระสาคตะก็เข้าเตโชกสิณสมาบัติ บันดาลไฟที่ร้อนแรงกว่าต้านทานไว้ เมื่อต่อสู้กันไม่นาน ในที่สุดท่านสามารถปราบพญานาคดุร้ายนั้นให้หมดฤทธิ์ลงได้ จากนั้นก็ให้มากราบขอขมาโทษต่อพระพุทธเจ้า
จากนั้นมาชื่อเสียงของท่านพระสาคตะก็ได้เรื่องลือไปทั่วทั้งตำบลอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวเมืองอยากถวายวัตถุอันเลิศ แต่เนื่องจากเป็นช่วงปฐมโพธิกา ชาวเมือง แม้ศรัทธาในพุทธศาสนา แต่ก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เหมาะกับสมณบริโภค ชาวเมืองจึงพร้อมใจกันถวายสุราใสสีแดงเหมือนเท้านกพิราบ ที่มีรสหอมกลมกล่อม ซึ่งเป็นของหายาก
พอเห็นท่านพระสาคตะเดินมาบิณฑบาต แต่ละครัวเรือนต่างพากันกล่าวเชื้อเชิญให้ดื่มน้ำสุราชั้นเลิศ พระสาคตะไม่อยากขัดศรัทธา จึงดื่มสุราจากทุกๆ ครัวเรือนที่เขาถวาย เมื่อดื่มมากเข้า ก็เริ่มเมาประคองสติไม่อยู่
เมื่อจะเดินออกนอกเมืองเพื่อกลับวัด ก็เดินโซเซไปมา แล้วล้มกลิ้งเกลือกลงบนพื้นถนน บาตรและอาหารที่บิณฑบาตได้มา กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ขณะนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากเมือง พร้อมด้วยภิกษุเป็นจำนวนมาก ได้ทอดพระเนตรเห็นพระสาคตะล้มกลิ้งอยู่ที่หน้าประตูเมือง จึงรับสั่งให้ภิกษุช่วยกันพยุงกลับวัด
เมื่อนำพระสาคตะไปถึงวัด ให้นอนหันศีรษะไปทางพระบรมศาสดา เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ แต่พระสาคตะถูกพิษสุราเล่นงาน ยังไม่สร่างเมา จึงพลิกกลับนอนหันเท้าทั้งสองไปทางพระผู้มีพระภาคเจ้า พระพุทธองค์จึงรับสั่งถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สาคตะมีความเคารพ มีความยำเกรงในตถาคตมิใช่หรือ ภิกษุสงฆ์กราบทูลว่า เป็นดังรับสั่ง พระพุทธเจ้าข้า
ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ สาคตะไม่มีความเคารพยำเกรงในตถาคตเลย เพราะไปดื่มน้ำเมา ซึ่งไม่ใช่เป็นของพระอริยะ สาคตะเคยต่อสู้กับพญานาคที่ดุร้ายได้ แต่เดี๋ยวนี้แม้งูน้ำธรรมดา ก็ไม่สามารถจะต่อสู้ได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย น้ำที่ดื่มเข้าไปแล้วถึงวิสัญญีภาพ เป็นน้ำที่ไม่ควรดื่ม การกระทำของสาคตะไม่เหมาะสม ไม่ใช่กิจของสมณะ ตั้งแต่นั้นทรงบัญญัติสิกขาบท ไม่ให้ภิกษุดื่มน้ำเมา
ฝ่ายพระสาคตะเมื่อสร่างเมาแล้วได้สติกลับคืนมา พอได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นของตัวเองจากเพื่อนภิกษุก็ตกใจ แล้วเกิดความละอายใจยิ่งนัก ได้รีบเข้าไปกราบขอขมาต่อพระพุทธเข้า ที่นำความมัวหมองมาสู่หมู่สงฆ์ ท่านนำความผิดพลาดนั้นมาเป็นบทเรียนสอนตน และตั้งใจบำเพ็ญภาวนาอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในที่สุดก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์และได้เป็นเลิศทางด้านผู้มีเตโชกสิณอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าโทษของการดื่มสุราเมรัยอันตรายมาก นี่เป็นเพียงโทษที่เห็นด้วยตาเฉพาะในปัจจุบันนี้ แต่โทษที่ยิ่งกว่านี้ในอบายในมหานรก ยังไม่ได้นำมากล่าว ชาวโลกทั้งหลายทั้งๆ ที่รู้โทษของการดื่มสุรา แต่แสร้งทำเป็นเหมือนไม่รู้ เพราะหักห้ามใจตนเองไม่ได้ จึงยินดีที่จะดื่มน้ำเมาเหล่านี้
เมื่อดื่มจนเป็นอาจิณกรรมแล้ว ความหมองก็จะเกิดขึ้นและสุดท้ายก็ต้องไปใช้กรรมในมหานรก เป็นเวลายาวนาน โทษที่จะเกิดตามมาในสังสารวัฏยังทำให้เป็นผู้ที่ไม่สมประกอบ ปัญญาทึบ และอีกมากมาย
ท่านใดที่เคยดื่มก็ให้เลิก ทำง่ายๆให้ตัดใจเหมือนตายจาก จะได้เกิดใหม่ในเส้นทางแห่งความดี สรรพสิริมงคลจะได้หลั่งไหลมาสู่ชีวิตของเรา ส่วนท่านที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสุราเมรัย และอบายมุขทุกชนิด อยู่แล้ว ขอให้ตั้งใจพัฒนาจิตใจ ให้สูงขึ้นไป ด้วยการสร้างความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป