พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ให้ของชอบใจย่อมได้ของชอบใจ ผู้ให้ของเลิศย่อมได้ของเลิศ ผู้ให้ของดีย่อมได้ของดี ผู้ให้ของประเสริฐย่อมเข้าถึงฐานะอันประเสริฐ นรชนใดให้ของที่เลิศให้ของที่ดี และให้ของที่ประเสริฐ นรชนนั้นจะไปเกิด ณ ที่ใดๆ ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศในที่นั้นๆ
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ เคยให้โอวาทไว้ว่า
“ คนมีปัญญาอยู่ในสถานที่ใด หญิงชายก็ดีเป็นใหญ่ในที่นั้น เพราะทานสงเคราะห์เขาอยู่เสมอไป คนโง่อยู่ที่ไหนจมมืด ไม่ให้ใครเพราะกลัวเปลือง หนักเข้าต้องอยู่คนเดียว เจ็บไข้ไม่มีใครเยี่ยม คนฉลาดเลี้ยงตัวเองสร้างตัวเอง ส่งเสริมตัวเองทั้งเป็น เราเป็นมนุษย์ยังไม่ถึงชาติสุดท้าย ต้องให้ ถ้าไม่ให้ภายภาคหน้าจะกันดาร ไม่สมบูรณ์ด้วยเครื่องกินเครื่องใช้ ถ้าว่าให้อยู่เนืองนิตย์ ไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ทุกข์ไม่ยากในระหว่างนั้นๆ พอใช้พอสอยทีเดียว เพราะการให้เป็นตัวสำคัญ
ท่านจึงวางไว้เป็นตำรับตำราว่า ผู้ให้ของชอบใจย่อมได้ของชอบใจ ชื่อว่าให้ความหวังของตัวทุกภพทุกชาติที่ตัวทำไว้ ต่อไปภายภาคหน้าจะเป็นของตัวแท้ๆ ผู้ให้ของเลิศย่อมได้ของเลิศ แล้วแต่วัตถุนั้นๆในประเทศนั้นๆนิยมกัน ผู้ให้ของประเสริฐย่อมเข้าถึงฐานะที่ประเสริฐ เช่น กษัตริย์ นายกรัฐมนตรี ฯลฯ ให้ฐานะอันเลิศได้ เมื่อให้ก็ย่อมประสบกับฐานะอันเลิศนั้นเป็นชั้นๆไป ”
ท่านทานบดีทั้งหลาย ได้ตั้งใจมาสั่งสมบุญในวันนี้ชื่อว่า ประกอบเหตุอันจะนำความสุขมาให้แก่ตน.
-----------------------------------------------------------------
หนังสือ " ร่าเริงบันเทิงใจ ด้วยสัมโมทนียกถา เล่ม ๒ "
พระไพบูลย์ ธมฺมวิปุโล และคณะ