"เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ใครทำกรรมใดไว้ ก็จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น" ฐานสูตร
ความรู้ในทางพระพุทธศาสนา ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ที่สอนให้มนุษย์รู้จักตนเอง รู้จักสัจธรรมของชีวิต เพื่อจะได้ไม่เสียเวลากับสิ่งที่ไร้สาระ พระพุทธองค์ทรงสอนให้หันมาดูตนเอง แล้วให้มองลึกลงไปว่า สรีระนี้ใช่ว่าจะยืนยาว จะไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายไม่มี เพราะเพียงไม่กี่ปี ก็ต้องอยู่บนเชิงตะกอนแล้ว เมื่อพิจารณาเห็นดังนี้ จะได้ไม่ประมาทในวัยและชีวิต แล้วมุ่งมั่นเติมในส่วนที่พร่อง เสริมในส่วนที่ขาด ฝึกฝนอบรมตนเองทุกรูปแบบ และสั่งสมบุญชนิดทุ่มสุดตัวสุดหัวใจเลย เพราะการสั่งสมบุญนำสุขมาให้ บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
นักปราชญ์บัณฑิตในสมัยก่อน แม้รู้ว่าเวลาแห่งชีวิตจะเหลือน้อยเพียงไรก็ตาม ก็ไม่เคยทุกข์ท้อใจ กลับมีความคิดว่า ควรจะใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้ เร่งสร้างความดีให้ได้มากที่สุด ท่านได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจสั่งสมบุญอยู่ตลอดเวลา ทุกอนุวินาทีจึงมีคุณค่าอย่างยิ่ง
"จากส่วนหนึ่ง ของรายการธรรมะเพื่อประชาชน โดย พระเทพญาณมหามุนี"