เลี้ยงลูกไม่ปลูกวินัย

วันที่ 22 พค. พ.ศ.2560

เลี้ยงลูกไม่ปลูกวินัย

      ช่วงยี่สิบกว่าปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กรุ่นใดที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯ มักจะมีคำถามเหมือนกันว่า "ทำไมการจราจรในกรุงเทพฯ ติดขัดมาก ประเทศอื่นเขาก็มีรถยนต์กันตั้งมาก ทำไมเขาไม่มีปัญหารถติดมาก ๆ อย่างเรา "

       คำถามที่ถามกันมาหลายรุ่นนี้ เป็นภาพสะท้อนของการปลูกฝังวินัยให้แก่เด็กไทยอย่างชัดเจน

       หลวงพ่อรูปหนึ่งได้ให้ทัศนะในเรื่องนี้ไว้ว่า

     "การจราจรติดขัด เกิดจากการไม่ยอมลดราวาศอกให้กันและกัน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่ ใช้วิธีเลี้ยงลูกไม่ค่อยถูก

     ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าลูกทะเลาะกันหรือลูกไม่ลงรอยกัน ถามว่าแม่จะห้ามไหมมีไม่กี่คนที่ไม่ห้ามส่วนมากเขาจะห้าม แล้วตัดสินลงโทษ ซึ่งบางทีก็ตัดสินพลาดไป

      ในทัศนะนี้ ญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เขาบอกว่ายังไงเสียเด็กก็ไม่ตีกันจนถึงตายหรอก เพราะฉะนั้น ถ้าลูกทะเลาะกัน เขาจะไม่ห้าม เขาปล่อยให้เด็กหาวิธียุติปัญหากันเอง

      คนโตอาจจะเกรี้ยวกราดกับน้องมากไปหน่อย แต่คนเล็กก็ต้องมีวิธีการพูดเสียงอ่อย ๆ ทำให้น่าเห็นใจ จนพี่ต้องยอม เรื่องมันก็จบ หรือถ้าพี่รังแกน้องมากเข้า น้องก็ไม่เล่นด้วยพี่ก็ต้องมาตามง้อน้อง ก็เป็นเรื่องที่เขาจะแก้ปัญหากันเอง ไม่ใช่พ่อแม่ลงมาเล่นบทบู๊เสียเอง

     คนไทยไม่เป็นอย่างนั้น เรื่องก็เลยกลายเป็นว่าทุกครั้งที่คนไทยมีเรื่องทะเลาะกันต้องมีบุคคลที่สามมาห้าม ถ้าถึงขั้นจลาจล ในหลวงต้องทรงมาไกล่เกลี่ยให้เสมอแล้วถ้าครั้งนั้นในหลวงทรงห้ามไม่ทันแล้วจะทำอย่างไรกัน 

     นิสัยอีกอย่างของคนไทย คือความรักอิสระ คนไทยแม้ไปอยู่ต่างประเทศ ก็รวมตัวกันไม่ได้ เมื่อมีเรื่องขึ้นมาก็ไม่รู้จะหาผู้ใหญ่ที่ใดมาไกล่เกลี่ย ไม่มีตัวประสาน ขณะที่ชนชาติอื่นบางชาติ แม้ไปอยู่ต่างประเทศ เขาก็สามารถรวมตัวกันได้แน่นแฟ้น เขาไม่ต้องการให้ใครอื่นมาประสาน เขาประสานตัวของเขาเอง วินัยระดับชาติก็เป็นผลมาจากวิธีการเลี้ยงลูก

     ในที่ประชุม ฝรั่งเขาโต้เถียงกันแบบเอาเป็นเอาตาย พอออกจากที่ประชุมเรื่องก็จบญี่ปุ่นก็เหมือนกัน แม้จะไม่ถูกกันเป็นส่วนตัว แต่ในที่ทำงาน เขาประชุมกันอย่างดี พอออกจากที่ประชุม ต่างคนต่างไป ไม่ยอมลงให้แก่กัน แต่พอถึงเวลาเข้าที่ประชุม เรื่องส่วนรวมคือส่วนรวมส่วนตัวคือส่วนตัว แต่คนไทยแยกอย่างนี้แยกไม่ออก นี่เกิดจากพื้นฐานในการอบรมลูก

     ยังไม่พอ เรื่องที่ชาวญี่ปุ่นกลัวมาก คือ กลัวหมู่คณะไม่ยอมรับแต่คนไทยเฉย ๆตัวใครตัวท่าน

   ถามว่าญี่ปุ่นปลูกฝังอยู่นานไหม เพื่อให้คนเห็นแก่ส่วนรวม ตอบว่านานมากปลูกฝังกันเป็นร้อย ๆ ปี แล้วระหว่างนั้นก็เอาเลือดเอาชีวิตเป็นเครื่องสังเวยไปเยอะเขาปลูกฝังมาตั้งแต่สมัยโชกุนปกครองประเทศ"

    "เรื่องมีอยู่ว่า เนื่องจากญี่ปุ่นมีการรบบ่อยมาก ต้นฤดูฝนทุกปี โชกุนก็ส่งซามูไรมาเก็บเสบียง หมู่บ้านนี้มีกี่หลังคาเรือน สมมติว่ามี 100 หลังคาเรือน จะทำมาได้เท่าไรไม่รับรู้พอถึงหน้าแล้งพวกซามูไรก็มาเอาข้าวไป 100 เกวียน เขาไม่ได้มาดูว่า แต่ละครอบครัวมีสมาชิกเท่าไร พอถึงหน้าแล้ง พวกซามูไรก็มาเอาข้าว 100 เกวียน หมู่บ้านใดได้ 100 เกวียน ก็รอดตัว แต่ถ้าหมู่บ้านใด ไม่ถึง 100 เกวียน เช่น ได้สัก 80 เกวียน ซามูไรก็เอาไป 80 เกวียนพร้อมกับเอาศีรษะของหัวหน้าหมู่บ้าน ริบเอาลูกเมียไปด้วย แล้วก็จะบอกว่า ปีหน้าจะมาเอาอีก 100 เกวียนบวกกับอีก 20 เกวียนที่ขาดไปในปีนี้ รวมเป็น 120 เกวียน

    ก่อนจะไปก็จะแต่งตั้งหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่ไว้ ยังไม่พอ เมียใครลูกสาวใครยึดเอาไปหมด ความรับผิดชอบร่วมกันจึงเกิดขึ้น คนใดไม่ตั้งใจทำกิน ถ้าปล่อยไว้ในหมู่บ้านจะทำให้ข้าวเกวียนที่ 100 ขาดไป ในหมู่บ้านจึงคัดคนพวกนี้ออก พอย้ายไปหมู่บ้านอื่นเขาก็จะถาม และจะไม่ยอมให้เข้าหมู่บ้าน เพราะกลัวว่าจะเจอปัญหาเดียวกัน

   เพราะฉะนั้นสิ่งที่ญี่ปุ่นกลัวมาก คือการถูกขับออกจากหมู่คณะ ขณะที่คนไทยไม่เคยพบปัญหานี้ ญี่ปุ่นเขาเอาชีวิต เอาเลือดเอาเนื้อแลกมา เพราะเหตุนี้เขาจึงเข้มงวดและไม่ได้เพิ่งจะเข้มงวด แต่ได้ทำกันมาหลายร้อยปีแล้ว

   ถ้าถามว่าทำไมจึงเข้มงวดกันขนาดนี้ ตอบว่าประเทศของเขาอากาศหนาวก็หนาวตายฝนตกก็ตกเอาตาย ร้อนก็ร้อนเอาตาย กว่าจะได้ข้าวปลาอาหารมาก็แสนยาก แต่ประเทศไทยอากาศ บาย ๆ ข้าวปลาอาหารบริบูรณ์ ก็เลยเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ กันอย่างนี้"

    "สรุปว่า การที่จราจรของเราเป็นกันอย่างนี้ เพราะการอบรมปลูกฝัง ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียอยู่ในตัวส่วนการอบรมอย่างนั้นของเขา

     ข้อดี คือ ทำให้เกิดความสามัคคี

    ข้อเสีย คือ ความเป็นตัวของตัวเองหมดไป ถ้าไปเจอหมู่คณะใดหัวหน้าแสบละก็ลูกหมู่เละเลย นี่ก็เป็นความเดือดร้อนของเขา ถึงคราวที่เขาต้องปราบก็ต้องปราบกันแรง ๆ ปราบกันชนิดเอาเป็นเอาตาย ไว้หน้าใครก็ไม่ได้ เพราะว่ามากันทั้งหมู่ ของเขามากันอย่างนี้

    ส่วนประเทศของเรารักอิสระ อิสระกันจนถนนหนทางไม่พอแบ่งให้กันใช้ เลยติดกันเป็นแพ วันละหลาย ๆ ชั่วโมง รู้อย่างนี้แล้ว ก็ต้องอดทนและค่อย ๆ แก้ไขนิสัยเอาแต่ใจตัวให้ลดลงเสียบ้าง เริ่มที่ตัวเราเองเป็นคนแรก

   ดังนั้น การแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในระยะยาว จึงต้องแก้กันที่ปลูกวินัยเด็กไทยทั้งประเทศให้ดีก่อนเป็นอันดับแรก"

    จากมุมมองตามที่หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟังนี้ ก็ทำให้เราได้ข้อคิดว่ารถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นก็ไม่ได้น้อยไปกว่าประเทศไทยเลย แต่การที่ญี่ปุ่นแก้ปัญหาเรื่องส่วนรวมได้นั่นเป็นเพราะเขาถูกปลูกฝังเรื่องวินัยต่อส่วนรวมมาอย่างเข้มข้น การที่ลูกของเราจะยืนหยัดอยู่ในโลกกว้าง และสามารถนำพาส่วนรวมไปรอดได้ พ่อแม่ต้องทุ่มเทฝึกนิสัยเรื่องวินัยส่วนตัว และส่วนรวมอย่างจริงจัง แล้วลูกของเราจะก้าวไปได้ไกลในโลกกว้าง อย่างที่คนญี่ปุ่นสร้างประเทศญี่ปุ่นให้ก้าวไกลในโลกกว้าง เป็นตัวอย่างให้เราได้ประจักษ์แล้วนั่นเอง

 

*----------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หนังสือ PD 001 หลักการสร้างความสุขในครอบครัว
หนังสือเรียน หลักสูตร Pre-Degree

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.014376064141591 Mins