วิธีอธิบายศีล 5 ให้เด็กเข้าใจง่าย ๆ
ครั้งหนึ่ง ได้มีโอกาสเห็นการสอนศีล 5 ให้เด็กเข้าใจได้ง่าย ๆ จากหลวงพ่อรูปหนึ่งรู้สึกยังประทับใจอยู่มาก จึงขออาราธนาคำสอนของท่าน มาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะใช้เป็นแนวทางในการสอนศีล 5 ให้แก่ลูกได้
1. ศีล 5 มีความเป็นมาอย่างไร
"วันนี้ หลวงพ่อจะมาเทศน์เรื่องเบื้องต้น ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา คือ เรื่องศีล 5 ให้คุณหนู ๆ ฟัง
ไม่มีใครทราบว่าใครเป็นผู้กำหนดศีล 5 ขึ้นมา แต่ทราบว่าเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นก็ได้มีศีล 5 อยู่ก่อนแล้วในโลก แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราก็ทรงประกาศว่าศีล 5 นี้ ถูกต้องดีมาก ทุกคนจะต้องรักษาให้ได้
คุณหนู ๆ รู้ไหมว่า ศีล 5 มีอะไรบ้างเอ่ย
1) ไม่ฆ่าสัตว์
2) ไม่ลักทรัพย์
3) ไม่ประพฤติผิดในกาม
4) ไม่พูดปด
5) ไม่เสพของมึนเมา
วันนี้หลวงพ่อก็จะมาขยายความเรื่องศีล 5 ให้คุณหนู ๆ ฟังว่า เวลาเขากำหนดศีล 5 ขึ้นมาในโลก เขาทำอย่างไร เพื่อว่า เมื่อคุณหนูโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถ้าวันใดเกิดไปโกรธใครจะไปโกรธสัตว์เล็กสัตว์น้อย หรือโกรธสัตว์ใหญ่ขึ้นมาก็ตาม แล้วคิดจะไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ก็จะได้ห้ามใจของตนเองได้
2. ศีลข้อที่ 1 ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
หลวงพ่อ : ก่อนจะเฉลยคำถามนี้ ต้องถามคุณหนูกลับว่า ที่รักที่สุดในชีวิต ของคุณหนูคืออะไร ช่วยตอบหลวงพ่อหน่อย
เด็ก : รักคุณพ่อคุณแม่ครับ
หลวงพ่อ : โอ้โ! แล้วที่รักยิ่งกว่าพ่อแม่มีไหม
เด็ก : มีครับ รักตัวเราเองครับ
หลวงพ่อ : ถูกต้อง ทุกคนรักชีวิตของตนเองเป็นที่สุดเลย หลวงพ่อขอถามต่ออีกว่า เป็ดไก่รักชีวิตของเขาไหม
เด็ก : รักครับ
หลวงพ่อ : แน่ใจหรือ
เด็ก : แน่ใจครับ
หลวงพ่อ : ทำไมจึงแน่ใจ ทำไมจึงคิดว่าเป็ดไก่รักชีวิตของเขา เขาบอกหนูหรือ
เด็ก : ไม่ได้บอกครับ
หลวงพ่อ : แล้วหนูรู้ได้อย่างไรว่าเป็ดไก่เขารักชีวิตของเขา
เด็ก : พอใครจะจับเขาไปฆ่า เขาวิ่งหนีครับ
หลวงพ่อ : ใช่ เพราะสัตว์ก็เหมือนกับคนนี่แหละ พอใครจะมาฆ่า เขาก็วิ่งหนีไปเลย เขาพูดภาษาคนไม่ได้หรอก แต่อาการที่แสดงออก บอกว่าเขาก็รักชีวิตของเขา พอใครจะมาฆ่า เขาก็ต้องวิ่งหนี ทั้ง ๆ ที่เขาพูดเป็นภาษาคนไม่ได้ แต่ท่าทางของเขาบอกเรา เรารักชีวิตเรามากที่สุดฉันใด เป็ดไก่ก็รักชีวิตของเขามากที่สุดฉันนั้น นอกจากเป็ดไก่แล้ว ทั้งหมูทั้งแมวเขารักชีวิตเขาไหม
เด็ก : รักครับ (ค่ะ)
หลวงพ่อ : เพราะว่าคนเรายังรักชีวิตของตนเอง หมู หมา ไก่ พอเราจะตีจะฆ่าเขาก็วิ่งหนี เขาก็รักชีวิตของเขาเช่นกัน เพราะว่าทุกคนในโลกนี้สัตว์ทุกประเภททุกตัวในโลกนี้ ต่างรักตัวกลัวตายด้วยกันทั้งสิ้นไม่มีใครไม่กลัวตาย ไม่มีใครไม่รักชีวิตของตนเอง เพราะฉะนั้นผู้มีใจเป็นธรรมทั้งหลาย ผู้ที่มี ติปัญญาอย่างแท้จริง จึงได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า เนื่องจากใคร ๆ ก็รักชีวิตของตนเองทั้งนั้น ใคร ๆ ก็ต้องไม่ฆ่าใคร ศีลข้อที่ 1 ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจึงกำเนิดขึ้นมา
3. ศีลข้อที่ 2 ไม่ลักขโมย เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
หลวงพ่อ : คราวนี้มีข้อคิดที่ให้หนู ๆ ต้องคิดต่อไปอีกว่า เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน ๆ นั้น เราอยู่ได้ด้วยอะไรบ้าง
เด็ก : อากาศ อาหาร น้ำครับ
เด็ก : ยารักษาโรค
เด็ก : เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย
เด็ก : เงิน
หลวงพ่อ : เอาล่ะ ที่พวกหนู ๆ ตอบมาก็ใช่ทั้งนั้นเลย แต่ละวันที่ผ่านไปพวกเราแม้จะยังต้องเรียนหนังสืออยู่ ยังไม่มีอาชีพ แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณหนูก็หาอะไรมาให้
1) หาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
2) หาอาหาร
3) หาที่อยู่อาศัย
4) หายารักษาโรค
ทั้งหมดนี้ ภาษาพระรวมเรียกว่า ปัจจัย 4 คือ เรื่อง 4 ประการ ที่มนุษย์ได้อาศัยเป็นสมบัติเลี้ยงชีวิต
นอกจากปัจจัย 4 แล้ว ยังมีสิ่งที่เนื่องจากปัจจัย 4 อีกด้วย ยกตัวอย่าง นอกจากบ้านที่เราอยู่แล้ว ก็ต้องมีของใช้ภายในบ้าน รวมไปจนถึงรองเท้าของคุณหนู ๆ ซึ่งไม่ได้ใช้นุ่งใช้ห่ม แต่ว่าเราต้องใส่ไปโรงเรียนทุกวัน ชีวิตคนจึงอยู่ได้ด้วยสมบัติ
คราวนี้ถามว่าศีลข้อที่ 2 เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เกิดขึ้นเพราะว่าทุกชีวิตอยู่ได้ด้วยสมบัติ ถ้าใครเอาทรัพย์สมบัติที่บ้านของหนูไปหมดเลย หนูอยู่ได้ไหมลูก
เด็ก : ไม่ได้ค่ะ
หลวงพ่อ : อยู่ไม่ได้ ถ้าเขาไม่ฆ่าเรา แต่เขาขโมยสมบัติของเราไป เขาแกล้งเผาแกล้งทำลายสมบัติของเราไป เราก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นศีลข้อที่ 2จึงเกิดขึ้นมาว่า ใคร ๆ ก็ต้องไม่ลัก ไม่ขโมยของใคร เพราะว่าใคร ๆ ก็ต้องใช้สมบัติสำหรับหล่อเลี้ยงชีวิตของเขา นี้จึงเป็นที่มาของการกำหนดศีลข้อที่ 2
4. ศีลข้อที่ 3 ไม่ประพฤติผิดในกาม เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
เมื่อเขาไม่ฆ่าเรา ไม่ขโมยสมบัติของเราไปด้วย เราก็น่าจะมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข แต่ว่าถ้าเขาต้องการมาอยากได้ของที่เรารักเราชอบ มาแย่งชิงของรักของเราไป และของรักที่มนุษย์รักมากกว่าทรัพย์สมบัติมีอะไรบ้าง
1.สามี
2. ภรรยา
3. ลูก
เพราะฉะนั้นผู้มีใจเป็นธรรมทั้งหลายจึงได้ตั้งข้อบัญญัติขึ้นมาว่า ใคร ๆ ก็ไม่ควรจะแย่งชิงของรักของใคร คือไม่ประพฤติผิดในกามนั่นเอง นี้จึงเป็นที่มาของการกำหนดศีลข้อที่ 3
5. ศีลข้อที่ 4 ไม่พูดปด เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
คราวนี้ มีเรื่องที่อยากจะฝากคุณหนูเอาไว้ทุกคนเลย คือ ในชีวิตของคนเราไม่ว่าใครก็ตามที่เรารักสุดชีวิตจิตใจ พ่อแม่เราก็รักเคารพ เพื่อนเราก็รักมาก ๆ เลย พี่ของเราเราก็รัก ครูอาจารย์ของเรา เราก็รัก แต่ว่าทั้ง ๆ ที่เราบอกว่า เรารักที่สุดในโลก แต่หากพบว่าเขาเหล่านั้นขาดความจริงใจกับเราเมื่อไร มันก็จะทำให้เราหมดรักได้เหมือนกันสิ่งที่แสดงว่าเขาขาดความจริงใจต่อเราคืออะไร การพูดเท็จนั่นเอง
หลวงพ่อ : หนูมีพี่ไหม
เด็ก : มีครับ
หลวงพ่อ : ถ้าหนูรู้ว่าพี่เขาพูดเท็จ พูดไม่จริงกับเรา หนูเคืองไหม
เด็ก : เคืองครับ
หลวงพ่อ : แล้วถ้าเราพูดเท็จกับพี่ พี่เขาจะเคืองไหม
เด็ก : เคืองครับ
หลวงพ่อ : แล้วถามจริง ๆ เถอะ หนูเคยพูดเท็จกับพี่เขาไหม
เด็ก : เคยครับ
หลวงพ่อ : จำไว้นะลูก ใครก็ตามที่รักเรา ถ้าเราพูดเท็จกับเขา เขาก็จะหมดรักเรา แล้วถ้าเขาพูดเท็จกับเรา เราก็จะหมดรักเขาเช่นกัน
เพราะฉะนั้น ขอฝากคุณหนูไว้ทุกคน เพราะใคร ๆ ก็ต้องการความจริงใจด้วยกันทั้งนั้น ใคร ๆ ก็ต้องไม่พูดเท็จกับใคร นี้คือที่มาของการกำหนดศีลข้อที่ 4
6. ศีลข้อที่ 5 ไม่ดื่มสุราของมึนเมา เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
มีข้อคิดที่ต้องฝากคุณหนูให้เอาไปคิดอีก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงฝากเอาไว้เป็นข้อคิดที่ดีมาก ๆ คุณหนูจดเอาไว้ด้วยนะ
พระองค์ได้ทรงฝากไว้อย่างนี้ว่า
ประการที่ 1 ใครที่ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ว่าฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ หรือฆ่าคนก็ตาม ได้ชื่อว่าให้ทานอย่างยิ่งใหญ่หรือมหาทาน คือ ให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตเป็นทาน
ประการที่ 2 ใครที่ไม่ลัก ไม่ขโมย ก็ได้ชื่อว่าให้ทานอันยิ่งใหญ่อีกเช่นกัน คือให้ความปลอดภัยแก่ทรัพย์สินเป็นทาน
ประการที่ 3 ถ้าใครไม่ประพฤติผิดในกาม ก็ได้ชื่อว่า ให้มหาทานอย่างยิ่งใหญ่อีก คือ ให้ความปลอดภัยแก่คู่ครองของเขาเป็นทาน
ประการที่ 4 ถ้าใครไม่พูดเท็จ ไม่โกหก ก็ได้ชื่อว่า ทำทานอย่างยิ่งใหญ่อีกเหมือนกัน คือ ให้ความจริงใจเป็นทาน
เพราะฉะนั้น ถ้าเรารักษาศีล 4 ข้อแรกได้ ก็เหมือนเราได้ให้ทาน 4 ประการด้วยกัน
แต่ว่ามีเรื่องที่หนูจะต้องใช้ความคิดให้มากขึ้นไปอีก คือ เรื่องของศีลข้อที่ 5 ต้องใช้ความคิดมากขึ้นไปอีกจึงจะเข้าใจ
การที่คนใดคนหนึ่งจะไม่ฆ่าสัตว์ก็ตาม ไม่ลักทรัพย์ก็ตาม ไม่ประพฤติผิดในกามก็ตามและไม่พูดเท็จก็ตาม การที่จะทำอย่างนี้ได้ คนผู้นั้นจะต้อง มี "สติ" อย่างดี
ถ้าเขาขาดสติ เผลอสติเมื่อไร เขาก็พร้อมที่จะไม่ให้ทานแก่ชีวิต ไม่ให้ความปลอดภัยในทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ให้ความปลอดภัยกับคู่ครองของใคร และไม่ให้ความจริงใจเป็นทานกับใคร
สติของคนเรานั้น แปลกจริง ๆ บทเหนียวแน่น ก็เหนียวแน่นอย่างไม่น่าเชื่อบทเปอยก็เปอยอย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ที่ว่าสติเหนียว
สติเหนียวแน่นอย่างไม่น่าเชื่อเป็นอย่างไร
ยกตัวอย่าง ถ้ามีนักเรียนคนหนึ่ง วันพรุ่งนี้เขาจะต้องไปสอบ แต่ว่าเกิดมีอาการไข้ขึ้นมากะทันหัน เขาก็รีบไปหาหยูกยาแก้ไข้กินเรียบร้อย แล้วอาการไข้ก็ยังไม่หาย แต่ก็กลับมาพยายามดูหนังสือต่อให้จบ แสดงว่า ติของเขานี่เหนียวมากๆ เลย
สติเปื่อยได้อย่างไม่น่าเชื่อเป็นอย่างไร
คนเดียวกันนี่แหละ ทั้งๆ ที่สติของคนเราถึงบทเหนียวแน่น แต่ว่าพอดื่มเหล้าเข้าไปเท่านั้น แพ้เหล้า แพ้เบียร์ แพ้ยาม้า หรือยาเสพติดให้โทษ
ใครไปเสพของอันตรายอย่างนี้เข้า ก็จะทำให้ ติของตัวเองขาดเปอยไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะฉะนั้นเพื่อรักษาสติของเราเอาไว้ ศีลข้อที่ 5 จึงได้เกิดขึ้นว่าใคร ๆ ก็จะต้องไม่ดื่มสุรายาเมาหรือเสพยาเสพติดให้โทษ เพราะว่าจะทำให้ ติของเราขาดไป
ถ้าสติของเราขาดหายไปแล้วจะเป็นอย่างไร ศีลทั้ง 4 ข้อที่ต้องใช้ ติคอยกำกับก็จะพลอยขาดไปด้วยอย่างง่ายดาย
ยกตัวอย่าง มีเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณหนู ๆ ที่นั่งอยู่ตรงนี้แหละ เขาเคยเจอมาแล้ว เวลาคุณพ่อเมาเหล้า คุณพ่อก็พร้อมจะฆ่าเป็ด ฆ่าไก่ได้ทันที บางทีก็พร้อมจะตีคุณหนู บางทีก็พูดไม่เพราะกับคุณหนูด้วย ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะกินเหล้าเข้าไป พ่อก็เป็นคุณพ่อที่แสนดีต่อลูก ๆ เพราะฉะนั้นหลวงพ่อขอฝากคุณหนูเอาไว้ โตขึ้นมาห้ามดื่มเหล้า ห้ามดื่มเบียร์ห้ามเสพยาเสพติดให้โทษต่าง ๆ
7. ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล 5 ข้อนี้ไว้ได้
คราวนี้แล้วทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล 5 ข้อเอาไว้ได้ เมื่อหลวงพ่อเป็นนักเรียนนักศึกษาเหมือนอย่างกับพวกหนูนี่แหละ หลวงพ่อก็ค่อย ๆ ฝึกรักษาศีล 5 ของตัวเองไป วิธีที่จะทำให้รักษาศีลได้อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ หลวงพ่อทำอย่างนี้ คุณหนูลองไปทำดู
เมื่อก่อนจะบวช หลวงพ่อมีพระห้อยคออยู่ ทุกเช้าก่อนที่หลวงพ่อจะไปเรียนหนังสือหลวงพ่อก็หยิบพระที่ห้อยคอเอามาใส่มือ แล้วก็สวดมนต์นอบน้อมต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
"นะโม ตัสะ ภะคะวะโต อะระหะโตสัมมาสัมพุทธัสะ" (3 จบ)
พอสวดมนต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อก็สัญญากับพระที่ห้อยคอว่า
1. วันนี้ข้าพเจ้าจะไม่ฆ่าสัตว์
2. วันนี้ข้าพเจ้าจะไม่ลักทรัพย์
3. วันนี้ข้าพเจ้าจะไม่ประพฤติผิดในกาม
4. วันนี้ข้าพเจ้าจะไม่พูดเท็จ
5. วันนี้ข้าพเจ้าจะไม่ดื่มสุรายาเมาหรือยาเสพติด
พอสัญญาครบทั้ง 5 ข้อแล้ว หลวงพ่อก็ออกจากบ้านไปเรียนหนังสือ เหมือนอย่างที่พวกหนูมาโรงเรียนอย่างนี้แหละ ทีแรก ๆ หลวงพ่อก็รักษาศีล 5 ได้ข้ามวันบ้าง ไม่ข้ามวันบ้างแต่ว่าผ่านไปได้ประมาณสักครึ่งปี หลวงพ่อก็รักษาศีล 5 ได้
หลวงพ่อรักษาศีลได้ครบถ้วนเรื่อยมาถึง 6 ปี แล้วหลวงพ่อก็ได้มาบวชอย่างที่คุณหนูเห็นนี่แหละ หลวงพ่อก็ทำมาอย่างนี้ คุณหนูคิดว่าพอจะทำได้ไหม ได้นะ
8. สรุปความสำคัญของศีล 5
มาถึงตรงนี้ หลวงพ่อขอทบทวนให้พวกเราฟังอีกเที่ยวหนึ่ง
ทำไมจึงไม่ให้ฆ่าสัตว์ เพราะว่าไม่ว่าใคร ๆ ก็รักชีวิตตนเอง
ทำไมจึงไม่ให้ลักทรัพย์ เพราะว่าใคร ๆ ก็อยู่เป็นสุขได้ด้วยสมบัติของเขา ถ้าเราไปลัก ไปทำลายทรัพย์สมบัติของเขามา เขาก็จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ หรืออยู่ได้ก็ต้องพบความยากลำบาก
ทำไมจึงไม่ให้ประพฤติผิดในกาม เพราะใคร ๆ ก็รักพี่น้องพวกพ้องของเขา
ทำไมจึงไม่ให้พูดเท็จ เพราะใคร ๆ ก็รักความจริงใจด้วยกันทั้งนั้น จึงไม่ควรพูดเท็จกับใคร
ทำไมจึงไม่ให้ดื่มเหล้า ไม่ให้เสพยาเสพติด เพราะว่าเมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะทำลายสติของเรา เมื่อสติของเราเสียหายไปแล้ว ศีลข้ออื่น ๆ ก็พร้อมที่จะขาดไปหมด
เพราะฉะนั้น คุณหนู ๆ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ หลวงพ่อขอฝากเอาไว้ ถ้าหนูอยากจะเป็นคนดีต่อไปในภายภาคหน้า ศีลทั้ง 5 ข้อ หนูต้องรักษาเอาไว้ให้ดี"
หวังว่าเรื่องที่เล่าสู่กันฟังนี้ พอจะเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนลูกให้รักษาศีล 5 ได้บ้าง และนั่นก็หมายความว่า หากลูกมีศีล 5 เป็นปกติ บ้านเมืองของเราก็จะมีคนดีเพิ่มขึ้นอีกคนอย่างแน่นอน ความภูมิใจใดเล่า จะเทียบเท่ามีลูกเป็นคนดีมีศีลธรรม
*----------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หนังสือ PD 001 หลักการสร้างความสุขในครอบครัว
หนังสือเรียน หลักสูตร Pre-Degree