บ้านธรรมบาล
กุฏิคุณยายหลังใหม่ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ผืนใหม่ ๒,๐๐๐ ไร่ บริเวณใกล้หมู่บ้านปฏิบัติธรรมซึ่งอยู่ข้างโรงเรียน พระปริยัติธรรม ด้วยความเห็นชอบของทุก ๆ ฝ่าย ที่อยากให้คุณยายได้อยู่ในที่พักอาศัยอันเหมาะสม เอื้ออำนวยต่อสุขภาพร่างกายสังขารของท่านเมื่อย่างเข้าสู่ปัจฉิมวัย ด้วยความร่วมแรงร่วมใจ ร่วมปัจจัย ของลูกศิษย์ลูกหาที่ใกล้ชิดและผู้ใจบุญทั้งหลายที่ทราบข่าว จึงได้สำเร็จเป็นกุฏิหลังใหม่ขึ้นมา
เมื่อกุฏิหลังใหม่สร้างเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว หลวงพ่อธัมมชโย ได้ตั้งชื่ออันเป็นมงคลให้กุฏิหลังใหม่นี้ว่า "บ้านธรรมบาล" แปลว่า บ้านที่มีธรรมเป็นเครื่องคุ้มครอง และกำหนดให้เอา วันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๘ เป็นวันขึ้นกุฏิหลังใหม่ ซึ่งในวันนี้ พระเถระผู้ใหญ่ของวัดได้มาเจริญพระพุทธมนต์ คุณยายและเจ้าภาพได้ร่วมกันถวายภัตตาหารเพล ถวายดวงแก้วปัจจัยและไทยธรรม และได้มีการปล่อยปลาที่ท่าน้ำหน้ากุฏิหลังใหม่ด้วย
บ้านธรรมบาล หรือกุฏิคุณยายหลังใหม่นี้ ได้ออกแบบให้สอดคล้องกับลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ และการทำกิจวัตรประจำวันของคุณยายให้มากที่สุด
ลักษณะอาคารสร้างเป็นอาคารคอนกรีตแข็งแรง ยกพื้นเตี้ย ๆชั้นเดียว ๒ หลัง แต่ละหลังห่างกันเล็กน้อย มีระเบียงทางเดินและหลังคาเชื่อมติดกัน เพื่อให้มีพื้นที่ในชายคาสำหรับคุณยายได้เดินออกกำลังกายทางขึ้นกุฏิฝังที่พักของคุณยายไม่มีขั้นบันได แต่จะเทพื้นทำเป็นแบบลาดเอียง เพื่อสะดวกในการเดินและใช้รถเข็น จะมีที่จอดรถอยู่ติดทางขึ้นกุฏิ
ที่กุฏิหลังใหม่นี้จะมีรั้วโปร่ง ๆ และคูน้ำ ๒ ข้างกั้นเป็นอาณาบริเวณ เพื่อให้คุณยายได้มีความเป็นส่วนตัว และป้องกันการรบกวนจากบุคคลภายนอก
ด้านหน้ากุฏิจะเป็นคูน้ำกว้าง มีการทำท่าน้ำ และทำขั้นบันไดทางลงไป เพื่อให้คุณยายได้เดินลงไปปล่อยปลา หรือเลี้ยงปลาได้
บริเวณพื้นที่รอบ ๆ กุฏิ จะมีถนนวนรอบ เพื่อความสะดวกในการนำรถมาจอดรับส่งคุณยาย และยังได้ใช้เป็นทางเดินให้ท่านได้เดินออกกำลังกาย บริเวณพื้นที่ที่เหลือ จะมีต้นไม้น้อยใหญ่ทั้งหลายทั้งต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ เช่น ต้นทองกวาวดอก สีแสดสดใสและต้นไม้ใหญ่ที่ขุดล้อมเอามาปลูก มีต้นไม้หอมชนิดต่าง ๆ เช่น ต้นพุด ต้นโมก ต้นแก้ว ต้นบุนนาคต้นปีบ ต้นจันทน์ ต้นสัตบรรณ ฯลฯ
ต้นสัตบรรณนี้เป็นต้นไม้ใหญ่ช่วงหลัง ๆ ออกดอกทุกปีดอกเป็นช่อ สีขาวอมเขียวอ่อน ๆ กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่ที่เหลือจากนี้จะเป็นสนามหญ้าทั้งหมด ดูเขียวชอุ่มสดชื่นสบายตา
ตอนเช้า ๆ ประมาณ ๖ โมงกว่า ๆ อากาศกำลังสดชื่นปลอดโปร่ง พี่อารีพันธุ์จะพาคุณยายลงมาสูดอากาศบริสุทธิ์และเดินออกกำลังกายรอบ ๆ กุฏิตามทางเดินข้างล่าง คุณยายจะเดินสลับกับการหยุดยืนพักทำท่ากายบริหาร พี่อารีพันธุ์จะทำท่ากายบริหารให้คุณยายดูพร้อมไปกับการนับ คุณยายก็จะนับและทำตามท่ากายบริหารส่วนใหญ่เป็นท่าแกว่งแขนเบา ๆท่ายกแขนชูเหนือศีรษะ ยกขึ้นยกลง เสร็จแล้วท่านก็จะค่อย ๆ เดินต่อไป ระหว่างเดินท่านก็จะดูความเรียบร้อยบริเวณรอบ ๆ กุฏิรวมไปถึงต้นไม้ต่าง ๆ ไม่ว่าต้นไม้ต้นไหนออกดอกออกผล โดยเฉพาะดอกไม้ที่มีสีสดใสท่านจะมองเห็นและชี้ชวนให้ดู พร้อมทั้งถามว่า ดอกอะไร บางครั้งท่านจะกลับมาพร้อมด้วยดอกลั่นทม ที่ร่วงอยู่ตามพื้น ดอกชงโค สีชมพูอมม่วงของต้นที่อยู่หลังบ้านหรือไม่ก็ผลมะยมของต้นที่อยู่ข้างรั้ว ตามปกติคุณยายท่านจะ เดินวนรอบกุฏิ ๑ รอบใหญ่ แล้วขึ้นมานั่งพักก่อนที่จะรับประทานอาหารเช้า แต่ถ้าคุณยายไม่เหนื่อยมากท่านจะเดินถึง ๒ รอบ
หลังจากรับประทานอาหารเช้าหรือเพลเสร็จ นั่งพักสักครู่หนึ่ง คุณยายก็จะออกมาเดินย่อยอาหารอีก แต่เป็นการเดินรอบ ๆ บริเวณระเบียงกุฏิข้างบน ซึ่งจะทำเป็นระเบียงรอบตัวอาคาร มีราวสเตนเลสล้อมรอบระเบียง
บ้านธรรมบาลนี้จะอยู่ในทำเลที่อยู่ใกล้พระเณรมากเพราะอยู่ติดกับโรงเรียนพระปริยัติธรรม ถัดไปทางทิศเหนืออีกหน่อยหนึ่งก็เป็นธุดงค์พระ เวลาพระเณรท่านเดินไปฉัน หรือเดินไปรับบิณฑบาตทั้งขาไปและกลับท่านก็จะเดินเป็นกลุ่มเป็นแถวตามแนวทิวสนผ่านกุฏิคุณยาย ที่กุฏิคุณยายจะมีหน้าต่างและประตูเป็นกระจก เมื่อเปิดม่านออกจะเห็นรอบนอกได้อย่างชัดเจน รวมทั้งบรรยากาศที่มีพระเณรเดินผ่านไปมา คุณยายท่านจะชอบมองพระเณรที่เดินผ่านไปมาสายตาของคุณยายดีมาก แม้พระเณรท่านเดินอยู่ไกล ๆ อีกฟากหนึ่ง คุณยายท่านก็มองเห็นมาแต่ไกลท่านมักพนมมือยกไหว้ หรือไม่ท่านก็ค่อย ๆเอานิ้วชี้นับพระเณรที่เดินผ่านไปทีละรูปว่ามีกี่รูป คุณยายชอบการนับมาก
ตอนเช้าบางวัน คุณยายท่านจะออกมาใส่บาตรที่ตรงประตูรั้วหน้ากุฏิ อาหารที่ใส่เป็นพวกขนมหรือของแห้ง เวลาคุณยายใส่บาตรท่านจะค่อย ๆ หย่อนของใส่ลงไปในบาตรด้วยความสำรวมระวังและเคารพในทาน คุณยายท่านจะเป็นผู้เคารพในการทำทานทุก ๆ อย่างท่านทำให้ดูและยังได้เมตตา สอนว่า "จะทำบุญทำทานอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ให้จบอธิษฐานทุกครั้ง" และหนึ่งในคำอธิษฐานที่ข้าพเจ้ามักจะได้ยินคุณยายอธิษฐานอยู่เสมอ ๆ และบ่อย ๆ คือ "ขอให้ปราศจากคนพาลไปทุกภพทุกชาติ ตราบเข้าสู่พระนิพพาน"
เมื่อหย่อนของใส่ลงในบาตรเสร็จ คุณยายท่านก็จะยกมือไหว้พระแต่ละรูปด้วยความเคารพ จนพระรูปสุดท้ายเดินผ่านไปคุณยายจึงค่อยลดมือลง พระที่ท่านมารับบาตรจากมือคุณยาย ท่านคงปีติไม่น้อยทุกรูปเดินมาอย่างสำรวมระวัง มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคุณยาย ค่อย ๆ น้อมก้มตัวเล็กน้อยเปิดฝารับบาตรจากคุณยาย ลักษณะท่าทางและสายตาของพระแต่ละรูป เหมือนจะบอกว่า "ขอให้คุณยายได้บุญกับพระเยอะ ๆ" พระบางรูปพอคุณยายใส่บาตรเสร็จแล้ว ก็ให้พรคุณยาย มีคำให้พรหลายอย่างแต่ที่เหมือนกันทุกรูปคือ "ขอให้คุณยายมีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาว"
เพราะที่กุฏิคุณยายอยู่ติดกับโรงเรียนพระปริยัติธรรมจึงมักเห็นสามเณรน้อยเดินผ่านไปมา จุดเด่นของสามเณรที่ดึงดูดสายตาคุณยายอีกอย่างคือ กลุ่มสามเณรไปทางไหน เสียงเจียวจ๊าวหยอกล้อกันมักตามมา และสามเณรมักทำงานกันอย่างสนุกสนาน ขยันขันแข็ง แม้จะมีพระพี่เลี้ยงคอยเข้มงวด กวดขันในเรื่องต่าง ๆ แต่ก็ยังคงมีเสียงที่บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นลักษณะของผู้ที่เยาว์วัย
คุณยายท่านเมตตาและเอ็นดูต่อสามเณรช่วงที่ท่านแข็งแรง ถ้ามีโอกาสท่านจะนำช็อคโกแลต ลูกอม หรือไอศครีมไปถวายสามเณรที่โรงเรียนพระปริยัติธรรมด้วยตัวท่านเอง ในช่วงวันเด็กซึ่งทางโรงเรียนพระปริยัติธรรมเรียกว่า "วันสามเณร" สามเณรท่านจะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในบางทีคุณยายยังได้มีโอกาสเอาของไปถวาย และกล่าวถ้อยคำเล็ก ๆ น้อย ๆ กับสามเณรที่อาคารแก้วดวงธรรม ทุกปีท่านจะส่งของรางวัลไปร่วมให้สามเณรได้จับฉลากกัน
เวลาท่านนำของไปถวายสามเณรน้อยเหล่านั้น ดูคุณยายท่านมีความสุขท่านจะยิ้มกว้างเห็นฟัน แววตาของท่านมีความแจ่มใสเบิกบานเป็นประกาย คำที่ท่านมักพูดและบอก เตือนสามเณรอยู่เสมอคือ "เณรอย่า ซนนะ เดี๋ยวจะถูกเฆี่ยนเอา"
แววตาที่เบิกบานแจ่มใสเป็นประกายของท่านทำให้ ข้าพเจ้านึกมองย้อนไปถึงภาพชีวิตของท่านในวัยเด็ก เมื่อครั้งยังเป็นเด็กหญิงชาวนา อยู่กับธรรมชาติและท้องทุ่ง คุณยายเป็นเด็กที่ร่าเริง เบิกบาน แจ่มใสสนุกสนาน ซุกซน จนในบรรดาพี่น้องทั้งหลาย คุณยายถูกพ่อตีมากที่สุด แม้เวลาผ่านมานาน แต่แววตาที่ร่าเริง เบิกบาน แจ่มใสของคุณยายไม่ได้จางหายไป ยิ่งช่วงที่ท่านอายุมากขึ้น ๆ ก่อนจะถึงช่วงท้ายของชีวิต ยิ่งรู้สึกว่าท่านเป็นผู้สูงอายุที่เบิกบาน แจ่มใสและอารมณ์ดี เวลาพูดคุยกับผู้ใดใบหน้ามักมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะน้อย ๆ
ในช่วงตอนเย็น ๆ พอแดดร่มลมตกแล้ว คุณยายท่านจะลงมาเดินออกกำลัง ยืดเส้นยืดสายรอบกุฏิข้างล่างอีก บางวันท่านก็เดินลงไปที่ท่าน้ำข้างหน้าเพื่อนั่งเลี้ยงปลา ช่วงหลังคุณยายท่านไม่ค่อยมีแรง เดินไปได้ไม่ไกลก็เหนื่อย จึงใช้การนั่งรถเข็นแต่ท่านก็ยังแวะเวียนมาเลี้ยงปลาอยู่เสมอ อุปัฏฐากมักเข็นรถคุณยายไปใกล้ ๆ ริมฝังน้ำ แล้วช่วยกันบิขนมปังเลี้ยงปลาก้อนโต ให้เป็นชิ้นขนาดพอดีส่งให้ท่านโยนลงไปเลี้ยงปลา โดยส่งขนมปังใส่มือข้าง ซ้ายของท่านบ้าง ข้างขวาบ้าง เพื่อเป็นการให้ท่านออกกำลังกายไปในตัวด้วย
คุณยายท่านจะโยนขนมปังกระจายไปตามจุดต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ตรงไหนยังไม่ได้ แม้ไกลท่านก็พยายามออกแรงเพื่อที่จะโยนขนมปังให้ไปถึง และยังชวนให้พวกเราช่วยกันโยนขนมปังลงไปเลี้ยงปลาด้วย คงเหมือนน้ำใจของคุณยายที่มีความเมตตาสงสาร และเผื่อแผ่ไปให้กับทุก ๆ คน
ในช่วงตอนเย็น ที่ท่านลงมาเดินออกกำลังกายรอบ ๆ บริเวณกุฏิ บางครั้งจะเห็นสามเณรช่วยกันพัฒนารอบ ๆ โรงเรียนพระปริยัติธรรมด้วยความขยันขันแข็ง สลับไปกับการหยอกล้อกันบ้างในบางโอกาสสามเณรบางรูปกวาดเศษใบไม้บางรูปดายหญ้าถอนหญ้าใกล้กับบริเวณข้างรั้ว และเลยไปถึงหน้าประตูรั้วกุฏิคุณยายไปด้วยทุกครั้ง เวลาคุณยายเดินผ่านสามเณรก็มักหยุดมองดูคุณยายด้วยความสนใจ ต่อมาได้มีการ จัดเตรียมหาไอศครีมมาแช่ตู้เย็นไว้ วันไหนถ้าคุณยายผ่านไป เห็นสามเณรกำลังช่วยกันทำงานอยู่ท่านก็ถวายไอศครีมแก่สามเณร
มีอยู่ครั้งหนึ่งในช่วงเย็น ขณะนั้นคุณยายไม่ค่อยมีแรงต้องนั่งรถเข็น เวลาคุณยายนั่งรถเข็นต้องมีอุปัฏฐากติดตามอย่างน้อย ๒ คน คนหนึ่งเป็นคนเข็นรถ อีกคนหนึ่งคอยเดินไป พร้อมกับคุณยาย ให้ท่านเห็นหน้าและคอยพูดคุยกับท่านบ้าง พาท่านออกกำลังกายบ้าง รถเข็นคุณยายผ่านมาทางประตูรั้วข้างหน้า เห็นสามเณรน้อยกำลังช่วยกันกวาดใบไม้อยู่ตรงบริเวณรั้ว รถเข็นคุณยายไปหยุดจอดอยู่ตรงลานถนนแถว ๆ ประตูรั้ว แล้วประตูรั้วซึ่งปกติปิดไว้ได้ถูกเปิดออก เพื่อให้สามเณรได้เข้ามา ข้าพเจ้าวิ่งขึ้นไปเอาช็อคโกแลตมาให้คุณยายสามเณรทั้งหมดมายืนเข้าแถว บางรูป สวมรองเท้า บางรูปมาแบบเท้าเปล่า
ข้าพเจ้ามองเห็นแววตาที่แจ่มใสเมตตา เอ็นดูที่คุณยายมีต่อสามเณรท่านจะเอาช็อคโกแลตซึ่งมีหลากหลายรูปแบบเป็นถุง เป็นแท่ง เป็นกล่องตามแต่ที่มี ถวายสามเณรทีละรูปแล้วยกมือไหว้ จนครบทุกรูป ขณะเดียวกันข้าพเจ้าก็มองเห็นความปีติใจของสามเณรที่มีในอิริยาบถต่าง ๆ กัน บางรูปยิ้มกว้าง บางรูปจ้องมองดูคุณยายตาแทบไม่กระพริบ บางรูปรับของจากคุณยายเสร็จแล้วก็ยืนหลับตาพริ้ม
แต่ที่ประทับใจข้าพเจ้ามาก คือ พอรับช็อคโกแลตจากคุณยายเสร็จครบทุกรูปแล้วสามเณรรูปเล็ก ๆ วัยกำลังซุกซนได้ซุบซิบปรึกษาหารือกันเล็กน้อย ก่อนที่จะยืนเรียงแถวกันอย่าง เป็นระเบียบเรียบร้อย รูปที่สวมรองเท้าอยู่ก็ถอดรองเท้าออกสามเณรน้อยประมาณ ๑๐ รูป พร้อมใจกันยกมือพนม และสวดมนต์ให้พรเป็นภาษาบาลีบทยาวอย่างตั้งอกตั้งใจ
คุณยายซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น พนมมือรับพรจากเหล่า สามเณรด้วยใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม ข้าพเจ้าได้แต่นึกในใจว่า อะไรหนอที่ทำให้สามเณรน้อยรูปเล็ก ๆ วัยกำลังซุกซน รู้จักคิด รู้จักทำ โดยไม่มีพระพี่เลี้ยง หรือสามเณรรุ่นพี่รูปโตคอยบอกคอยกำกับ คงเป็นเพราะกระแสแห่งความเมตตาปรารถนาดีและความเคารพของคุณยายที่มีต่อสามเณรเหล่านี้กระมัง ที่ทำให้สามเณรน้อยเหล่านั้นซาบซึ้งใจ จึงรู้จักคิดหาวิธีที่จะตอบแทนคุณ อยากให้คุณยายได้บุญเยอะ ๆ เทือกเถาเหล่ากอของ สมณะรูปน้อย ๆ นี้ จึงได้น้อมนำเอาบทสวดอำนวยพร ที่กลั่นมาจากใจใสๆ ของทุก ๆ รูปมอบแด่คุณยาย
นอกจากนี้คุณยายยังเป็นขวัญและกำลังใจให้กับพระเณรที่เรียนบาลีทุกรูปช่วงใกล้จะสอบ คุณยายมักจะมีปากกาลูกอม ช็อคโกแลตไปถวายพระเณร ลูกอมและช็อคโกแลตส่วน ใหญ่ได้มาจากญาติโยมที่นำมาถวายคุณยาย เหมือนจะรู้ใจคุณยายว่าท่านจะเก็บช็อคโกแลตหรือลูกอมไว้ถวายสามเณร ดังนั้นเวลาไปไหนมาไหนสาธุชนเหล่านั้นจึงมักมีลูกอม หรือช็อคโกแลตแบบแปลก ๆ มาถวายคุณยายทั้งจากเมืองนอก เมืองไทย ใครเอามาถวายคุณยายก็เก็บ ๆ ไว้ จึงได้เป็นจำนวนมาก รวบรวมมาถวายพระเณรทุกรูปได้อย่างทั่วถึง
ปากกาก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ปากกาธรรมดา เพราะปากกาชุดที่นำไปถวายนี้ ถูกวางไว้ที่หัวเตียงคุณยายหลายวัน ก่อนที่จะนำไปถวายพระเณร ให้ท่านเอาไปใช้ในการเขียนสอบ
แม้เมื่อพระภิกษุสามเณรท่านประสบความสำเร็จในการเล่าเรียนสอบได้ .ป.ธ. ๙ คุณยายก็ยังมีของไปถวายเพื่อแสดงมุทิตาจิต พร้อมทั้งอวยพรด้วยคำอวยพรที่ทำให้พระ ป.ธ. ๙ ที่ไปรับของจากท่านในวันนั้นต้องยิ้มกว้างว่า "ให้ท่านได้เป็น เจ้าคุณกันทุกรูปเลยนะ"
ชีวิตของคุณยายเต็มเปี่ยมไปด้วยการเป็นผู้ให้
ผู้ให้...ย่อมเป็นที่รัก
ไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งไหน...
คุณยายจึงเป็นที่รัก และเป็นที่รวมใจของทุกคน
ไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งไหน...
คุณยายคือขวัญและกำลังใจของทุกคน"