จากวันเข้าถึงธรรม ถึงวันอยู่วัดปากน้ำ
ตามรอย จะขอเสนอหลักฐานจากบันทึกชีวประวัติของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ในที่ต่างๆ อ้างอิง เพื่อเทียบเคียงเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่เมื่อท่านเข้าถึงธรรม จนถึงมาอยู่วัดปากน้ำ โดยอาศัยข้อมูลดังนี้
๑. จากประวัติหลวงพ่อวัดปากน้ำ เทศน์โดยหลวงพ่อวัดปากน้ำ
".....ได้อุปสมบทในต้นเดือนแปดของ พ.ศ. ๒๔๔๙ ได้อยู่จำพรรษาในวัดนั้น รวมอยู่ที่วัดอุปสมบทนั้น เดือนเศษๆ เท่านั้น ออกจากวัดที่อุปสมบทนั้นแล้ว ก็ตรงมา อยู่จำพรรษาในวัดพระเชตุพน ทีเดียว......." อีกตอนหนึ่ง กล่าวว่า
".......จึงได้กราบลาเจ้าคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (เข้ม) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพน ไปจำพรรษาวัดบางคูเวียง ใน พรรษาที่ ๑๒ "
๒. จากประวัติหลวงพ่อวัดปากน้ำ เขียนโดย สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณ สิริมหาเถระ) สมัยดำรงสมณศักดิ์ เป็น พระธรรมวโรดม
".....เจ้าคุณพระมงคลเทพมุนี ( สด)ท่านเกิดวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๗ ตรงกับวันศุกร์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖ ....." อีกตอนหนึ่ง กล่าวว่า
".....เดือนกรกฎาคม ๒๔๔๙ ต้นเดือน ท่านได้อุปสมบทเวลานั้น อายุย่างเข้า ๒๒ ปี บวช ณ วัดสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี...."
๓. เทศนาเรื่อง โอวาทปาฏิโมกข์ แสดงเมื่อ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๗ โดยหลวงพ่อวัดปากน้ำ
".....สมภารผู้เทศน์นี้ได้มาจำพรรษา อยู่วัดปากน้ำนี้ ๓๗ พรรษา แล้ว..."
๔. จากหนังสือ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ของมูลนิธิธรรมกาย พิมพ์ครั้งที่ ๑ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๘
"......ตราบกระทั่งท่านมาจำพรรษา ณ วัดโบสถ์บน บางคูเวียงและวัดนี้เอง อยู่ระหว่างกลางพรรษาพอดีท่านเริ่มปรารภความเพียรในใจแต่เช้าตรู่ ก่อนออกบิณฑบาต
เราบวชมานานนับได้ ๑๒ พรรษา เข้านี้แล้ว วิชชาของพระพุทธเจ้า เรายังไม่ได้บรรลุเลย......"
ในหน้า ๔๐ ได้กล่าวว่า...
เมื่อท่านบวชแล้ว ๑๒ พรรษาท่านก็ได้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ที่สูญหายไปจากโลก นี้นับพันปี.......
ตามหลักฐานที่ปรากฏ พอสรุปได้ว่า
ท่านเกิดเมื่อ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๒๗
บวชเมื่อ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๙ ต้นเดือน
บรรลุธรรม กลางพรรษาที่ ๑๒
อยู่วัดปากน้ำ ถึง ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๗ นับได้ ๓๗ พรรษา
เราค้างข้อมูลที่ได้มาเท่านี้ก่อน...
มาพิจารณาดูพรรษา ที่ท่านบรรลุธรรมจะตรงกับปี พ.ศ.อะไร
บวชเมื่อ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๙ ปีนี้ นับเป็นพรรษาที่ ๑
พ.ศ.๒๔๕๐ - พ.ศ.๒๔๕๙ นับเป็นพรรษาที่ ๒-๑๑
พ.ศ.๒๔๖๐ นับเป็น พรรษาที่ ๑๒
ตรงกับปี พ.ศ.๒๔๖๐ ในพรรษาที่ ๑๒ ท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดโบสถ์บน บางคูเวียง
ขอให้ดูปีที่ท่านมาจำพรรษาที่วัดปากน้ำบ้าง
หลวงพ่อแสดงเทศนา เมื่อ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๗ ถ้าจะนับ ๓๗ ตามพรรษา คือ ผ่านช่วงเข้าพรรษา นับเป็น ๑ ก็จะได้ปีที่ท่านจำพรรษาที่วัดปากน้ำ ตรงกับปี พ.ศ.๒๔๖๐ ซึ่งแย้งกับข้อมูลข้างต้นว่า ปี พ.ศ.๒๔๖๐ ท่านจำพรรษาที่วัดโบสถ์บน
แต่ถ้านับว่า ๓๗ พรรษา คือ ๓๗ ปี ครบ ๓๗ โดยปีแล้ว ก็จะได้ว่าตรงกับ พ.ศ. ๒๔๖๑ หลังจากที่ท่านบรรลุธรรมแล้ว
พอจะสรุปตามข้อมูลที่กล่าวข้างต้นได้ว่า
หลวงพ่อวัดปากน้ำ ได้บรรลุธรรมในพรรษาที่ ๑๒ ตรงกับปี พ.ศ.๒๔๖๐
หลังจากนั้น ปี พ.ศ.๒๔๖๑ จึงมาจำพรรษาที่วัดปากน้ำ เป็นพรรษาที่ ๑๓ ของท่าน
พรรษาที่ ๑ จำพรรษาที่ วัดสองพี่น้อง
พรรษาที่ ๒-๑๑ จำพรรษาที่ วัดพระเชตุพน
พรรษาที่ ๑๒ จำพรรษาที่ วัดโบสถ์บน บางคูเวียง
พรรษาที่ ๑๓ มรณภาพ จำพรรษาที่ วัดปากน้ำ
เหตุการณ์หลังจากบรรลุธรรมแล้ว จนถึงเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ (ประมาณ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๑)
๑. จากประวัติหลวงพ่อวัดปากน้ำ เขียนโดย หลวงพ่อวัดปากน้ำ
"....จนถึงออกพรรษารับกฐินแล้ว ก็ลาสมภารวัดบางคูเวียงไปสอน ที่วัดบางปลา ราว ๔ เดือน......"
๒. จากประวัติหลวงพ่อวัดปากน้ำ เขียนโดยสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณ สิริมหาเถระ) สมัยดำรงสมณศักดิ์เป็น พระธรรมวโรดม
".....เมื่อมีความรู้พอสมควร ได้ออกจากวัดพระเชตุพน ไปจำพรรษาต่างจังหวัด เพื่อเผยแพร่ธรรมวินัยตามอัธยาศัยของท่าน แต่ส่วนมาก แนะนำทางปฏิบัติ การเทศนาท่านใช้ปฏิภาณ
แหล่งสุดท้ายได้ไปอยู่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี ......ประชาชนได้เข้าปฏิบัติกันมาก
สมัยนั้น การปกครองประเทศจัดเป็นมณฑล เจ้าเมืองสุพรรณบุรี และ สมุหเทศาภิบาล เกรงว่าจะเป็นการมั่วสุมประชาชน วันหนึ่งสมุหเทศาภิบาล มณฑลนครชัยศรี ได้พบกับสมเด็จพระวันรัต (ติสฺสทตฺตเถร) วัดพระเชตุพน เวลานั้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอภาษีเจริญ ได้ปรารภ ถึงเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ไปทำพระกรรมฐานที่นั้น จะเป็นการไม่เหมาะสมแก่ฐานะ ขอให้ทางคณะสงฆ์พิจารณาเรียกกลับ หลวงพ่อวัดปากน้ำ จึงจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุมาด้วยความเคารพในการปกครอง แล้วมาอยู่วัดสองพี่น้อง จังหวัดเดียวกัน
สมเด็จพระวันรัต (ติสฺสทตฺตเถร) วัดพระเชตุพน ได้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ในยุคนั้นวัดปากน้ำเป็นพระ อารามหลวงวัดหนึ่งในอำเภอนั้นว่างเจ้าอาวาสลง พระคุณท่านหวังจะอนุเคราะห์หลวงพ่อวัดปากน้ำให้มีที่อยู่เป็นหลักฐาน หวังเอาตำแหน่ง เจ้าอาวาสผูกหลวงพ่อไว้วัดปากน้ำ เพื่อไม่ให้เร่ร่อนไปโดยไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ครั้งแรกท่านได้พยายามปัดไม่ยอมรับหน้าที่ แต่ครั้นแล้วก็จำต้องยอมรับด้วยเหตุผล
พ.ศ. ๒๔๕๙ ราวปีนั้น วันเดือนจำไม่ได้ท่านได้จากวัดพระเชตุพนไปสู่วัดปากน้ำในฐานะเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ....."
สรุปได้ว่า หลังออกพรรษาปี พ.ศ.๒๔๖๐ คือประมาณเดือน พ.ย.๒๔๖๐ หลวงพ่อจากวัดบางคูเวียง (วัดโบสถ์บน) ไปสอนที่วัดบางปลา ราว ๔ เดือน คือถึงประมาณเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๖๑
หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏชัดว่าท่านไปอยู่ที่ไหนในเวลาใด ถ้าจะสรุปรวมเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วง เดือนมีนาคม-กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๑ ก็จะได้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ หลวงพ่อไปอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แล้วมาอยู่วัดสองพี่น้อง กลับมาอยู่วัดพระเชตุพน ได้รับคำสั่งแล้วจึงเดินไปเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ประมาณกลางปี พ.ศ.๒๔๖๑ ท่านไปจำพรรษาที่ ๑๓ ที่วัดปากน้ำ
หลักฐานที่เสนอนี้ ก็เพื่อจะทำประวัติของหลวงพ่อให้สมบูรณ์ หากท่านผู้อ่านมี หลักฐานอื่น หรือข้อคิดเห็นไม่ควรประการใดช่วยเสนอแนะมายังผู้เขียน เพื่อจะได้ช่วย กันทำประวัติของหลวงพ่อให้สมบูรณ์ต่อไป
หมายเหตุ ข้อมูลที่ขัดแย้ง
๑. จากประวัติหลวงพ่อวัดปากน้ำ เขียนโดยสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริ มหาเถร)สมัยดำรงสมณศักดิ์ เป็น พระธรรมวโรดม
......พ.ศ.๒๔๕๙ ราวปีนั้น วันเดือนจำไม่ได้ท่านได้จากวัดพระเชตุพน ในฐานะ เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ.......
ข้อมูลขัดแย้งข้อนี้ควรตกไป เนื่องจากเป็นข้อมูลโดยประมาณว่า ราวปีนั้น ซึ่งที่ควรจะเป็น คือ พ.ศ.๒๔๖๑
๒. จากประวัติหลวงพ่อปากน้ำ เขียนโดย พระภาวนาโกศลเถร (วีระ คณุตฺตโม)
.....พระคุณท่านได้ปวารณา พรรษาที่ ๑๓ ที่วัดสองพี่น้อง...
หากจะยึดข้อมูลจากประวัติที่เขียนโดยหลวงพ่อ และเทศนาของท่านกับประวัติที่ เขียนโดยสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นหลักฐานเก่ากว่า ก็ควรตัดหลักฐานชิ้นนี้ออกไป
๓. จากหนังสือ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ของมูลนิธิธรรมกาย พิมพ์ เมื่อธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๖ หน้า ๓๑ ความว่า...
.....จึงได้ไปจำพรรษาที่วัดโบสถ์บน ในพรรษาที่ ๑๑ นั่นเอง.....
ข้อความตอนนี้แย้งกับหลักฐานที่กล่าวมาข้างต้นว่า จำพรรษาที่วัดโบสถ์บน ในพรรษาที่ ๑
หน้า ๓๔ ความว่า...
....ในพรรษาที่ ๑๓ ท่านได้พาภิกษุที่ได้ธรรมแล้ว ไปจำพรรษา ที่วัดสองพี่น้อง.....
ข้อความตอนนี้พ้องกับหลักฐานประวัติหลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่เขียนโดยพระภาวนาโกศลเถร (วีระ คณุตฺตโม)
๔. จากหนังสือ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ของมูลนิธิธรรมกาย พิมพ์ครั้งที่ ๑ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๘ หน้า ๔๙ ความว่า...
.....ย้อนระลึกถึงวันเพ็ญ เดือนสิบ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๕๙ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญท่านได้ปฏิบัติธรรมทุ่มเทชีวิตเป็นเดิมพัน ณ อุโบสถ์ วัดโบสถ์บน บางคูเวียง จ.นนทบุรี......
ถ้าคำนวณตามหลักฐานที่กล่าวข้างต้นแล้ว ก็ควรจะสรุปได้ว่า พระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดปากน้ำได้บรรลุธรรม ในปีพุทธศักราช ๒๔๖๐ ในพรรษาที่ ๑๒ นั่นเอง