ความตั้งใจในการเผยแผ่ วิชชาธรรมกาย
ในพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่หลวงพ่อมีต่อพวกเรานั้น อย่างหนึ่งก็คือความเมตตาของท่าน เมื่อท่านได้รู้เห็นธรรมแล้ว ไม่เก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่ยังสั่งสอนชี้แนะให้กับบุคคลที่มีอัธยาศัยพอที่จะบรรลุธรรม ได้รู้เห็นธรรมเช่นเดียวกับท่าน จากศิษย์รุ่นหนึ่งสู่ศิษย์อีกรุ่นหนึ่ง จากคนหนึ่งสู่อีกหลายๆ คน
จนกระทั่งมาถึงพวกเรา ที่ได้มีโอกาสสัมผัส ความสุขที่แท้จริง ก็ด้วยอาศัยความเมตตากรุณาของหลวงพ่อ ที่อยากจะให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้พ้นทุกข์ พ้นจากการเป็นบ่าวทาสของพญามาร มาเป็นฝ่ายพระที่มีแต่ความสุขที่แท้จริง
ตามรอย ในตอนนี้ จึงขอเสนอเรื่องราวในความตั้งใจเผยแพร่วิชชาธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ดังต่อไปนี้หลวงพ่อได้เขียนบันทึก เล่าถึงการเริ่มเผยแพร่ธรรมกายครั้งแรกว่า
"...เป็นของลึกถึงเพียงนี้ ใครจะไปคิดคาดคะเนเอาได้ พ้นวิสัยของความตรึกนึกคิด ถ้ายังตรึกนึกคิดอยู่ ก็เข้าไม่ถึง ที่จะเข้าถึงต้องทำให้รู้ตรึก รู้นึก รู้คิดนั้น หยุดเป็นจุดเดียวกัน
แต่พอหยุดก็ดับ แต่พอดับแล้วก็เกิด
ถ้าไม่ดับแล้วไม่เกิด ตรองดูเถิดท่านทั้งหลาย
นี่เป็นของจริง หัวต่อมีเป็นอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ถูกส่วนดังนี้ ไม่มีไม่เป็นเด็ดขาด
วิตกอยู่ดังนี้สักครู่ใหญ่ๆ ก็กลัวว่าความมีความเป็นนั้นจะเลือนไปเสีย จึงเข้าที่ติดไปใหม่ ราวสักสามสิบนาที ก็เห็นวัดบางปลาปรากฏเหมือนตัวเองไปอยู่ที่วัดนั้น แต่พอชัดดีก็รู้สึกตัวขึ้นมา
จึงมีความรู้สึกขึ้นมาว่า (ที่ว่า) จะมีผู้รู้เห็นได้ยากนั้นในวัดบางปลานี้จะต้องมีผู้รู้ผู้เห็นได้แน่นอน จึงมาปรากฏขึ้นบัดนี้
ต่อแต่นั้นมา ก็คำนึงที่จะไปสอนที่วัดนั้นอยู่เรื่อยๆ มา จนถึงออกพรรษา รับกฐินแล้ว ก็ลาสมภารวัดบางคูเวียง (วัดโบสถ์บน ต.บางคูเวียง) ไปสอนที่วัดบางปลาราว ๔ เดือน มีพระทำเป็น ๓ รูป คฤหัสถ์ ๔ คน
นี่เริ่มต้นแผ่ธรรมกายของจริง ที่แสวงหาได้มาจริง ปรากฏอยู่จนบัดนี้..."
กิจวัตรในการเผยแพร่ธรรมสมัยหลวงพ่ออยู่วัดปากน้ำเป็นอย่างไร "พระทิพย์ปริญญา" ได้เขียนเล่าไว้เมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๘๙ ในหนังสือ ชื่อ "ธรรมกาย" ดังนี้
จริยาของท่าน
๑. คุมภิกษุสามเณร ลงทำวัตร ไหว้พระในโบสถ์ทุกวัน วันละ ๒ เวลา คือ เช้าหนหนึ่ง เย็นหนหนึ่ง และได้ให้โอวาทสั่งสอนภิกษุสามเณรทั้ง ๒ เวลา
๒. วันพระและวันอาทิตย์ลงแสดงธรรมในโบสถ์เองเป็นนิจ
๓.ทำกิจกรรมอยู่ในสถานที่ ซึ่งจัดไว้เฉพาะเป็นกิจประจำวัน และควบคุมพระให้ ไปนั่งภาวนารวมอยู่กับท่านทั้งกลางวันและกลางคืนส่วนพวกชีก็ให้ทำกิจภาวนาเหมือนกัน
๔.ทุกวันพฤหัสบดี เวลา ๑๔.๐๐ น. ลงสอนการนั่งสมาธิ แก่ภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกาที่ศาลา ซึ่งข้าพเจ้าเคยเห็นมีภิกษุสามเณร ต่างวัด อุบาสก อุบาสิกา ต่างถิ่น มาเรียนกันเป็นจำนวนมากๆทุกวันพฤหัสบดีสอบถามได้ความว่า มีผู้ไปเรียนกันมาก แต่ต้นจนบัดนี้ ไม่ต่ำกว่า ๔ หมื่นแล้ว เพราะสอน มากว่า ๑๕ ปีแล้ว
๕. จัดให้มีครูสอนปริยัติในวัดนี้อีกแผนกหนึ่งด้วย
นอกจากจำเป็นจริงๆ แล้วท่านมักไม่ยอมออกจากวัด การสวดมนต์ ฉันเช้า ถ้าใครไปนิมนต์ มักจะถูกถามว่าให้พระอื่นไปแทนได้ไหมอย่างนี้ โดยมาก เพราะท่านชอบหมกมุ่นอยู่แต่กิจภาวนาโดยมาก
ออกรับแขกก็เป็นเวลา ตอนเพลครั้งหนึ่งที่ไปพบได้เสมอ ถัดจากนั้น ก็เวลา ๑๗.๐๐ น. อีกหนหนึ่ง ออกมานั่งพักผ่อนสนทนาปราศรัย
นอกจากนี้ท่านอยู่ในห้องภาวนา ซึ่งเรียกว่าโรงงาน ซึ่งใครไม่เข้าใจได้ยินคำว่าโรงงาน เลยเข้าใจเป็นอื่นไปก็มี......
ความตั้งใจในการเผยแพร่วิชชาธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำ มิได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะในประเทศไทย คนไทยเท่านั้น หลวงพ่อยังมีความปรารถนานำวิชชาธรรมกาย ไปยังต่างประเทศด้วย
หลวงพ่อได้พูดถึงการส่งพระไปเผยแพร่ยังต่างประเทศ ไว้ในเทศนาของท่าน เมื่อ วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๗ ดังนี้
"...พระฝรั่งวิลเลี่ยมเป็นศาสตราจารย์ ในลอนดอน เป็นผู้มาบวชในโบสถ์วัดปากน้ำ ผู้เทศน์นี้เป็นอุปัชฌาย์ ได้สั่งสอนให้พระวิลเลี่ยม ซึ่งเป็นฝรั่งนั้นได้บรรลุธรรมจริงอย่างนี้ ที่เห็นจริงอย่างนี้นี่แหละ จะเอาไปประกาศในลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะไปวันที่ ๘ นี้ นี่วันนี้วันที่ ๗ แล้วบุ๊คเรือ บินไว้เสร็จแล้ว.....ไปไม่ใช่ไปเลย ไปถ้าถึงปีหรือสมควรแก่เวลาเท่านั้น แล้วก็จะกลับมาอีก นำเอาฝรั่งมาบวชอีก จะตั้งศาสนาในลอนดอนให้ได้ ให้เป็นวัดไทยจริงๆ กัน
นี่เป็นข้อสำคัญอย่างนี้นะ เรื่องวิชชาธรรมกาย วัดปากน้ำนะ จะเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ในศาล ในยุโรปทีเดียว........." อีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๗ ถัดจากการเทศน์ครั้งที่แล้วมาได้ ๑๑ วัน หลวงพ่อได้พูดถึงการเผยแพร่ในต่างประเทศอีกว่า
"...ฝรั่งมังค่ายังเข้ามาเล่าเรียนศึกษา แล้วเอาไปประกาศ เวลานี้กำลังไปประกาศอยู่ นี้มานำเอาธรรมวัดปากน้ำไปประกาศ เหมือนอาจารย์ที่ไปสอนอยู่วัดจันทร์ปะขาวนั่นแหละ ไปประกาศธรรมอย่างนั้นแหละ
เวลานี้ไปประกาศอยู่ประเทศอังกฤษโน่น ต่อแต่นี้ไม่ช้าเท่าใดจะส่งไปญี่ปุ่นอีกองค์หนึ่ง มีวิชชาแบบเดียวกัน จะส่งไปญี่ปุ่นอีกองค์หนึ่งให้ไปประกาศพุทธศาสนาแบบเดียวกัน
ในประเทศไทยนี่มากองค์ บ้านของใครจะประกาศอย่างไร ให้ประกาศออกไป อย่านิ่งเสีย อุตส่าห์เอาใจใส่พระพุทธศาสนา
เมื่ออยู่วัดไหนจะได้รุ่งโรจน์โชตนาการ พวกชาวบ้านร้านตลาดทั้งหลาย อุบาสก อุบาสิกา จะได้รู้จักพุทธศาสนาจริง..."
ขณะที่หลวงพ่อเทศน์นี้ท่านมีอายุถึง ๗๐ ปี แล้ว ถัดมาเพียง ๒ ปี หลวงพ่อก็อาพาธ และได้มรณภาพ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ในขณะที่การเผยแพร่ไปยังต่างประเทศยังไม่สำเร็จตามที่ท่านตั้งความปรารถนาไว้
จวบจนปัจจุบัน การเผยแพร่วิชชาธรรมกายเริ่มเป็นที่รู้จักกันในหลายๆ ประเทศมีฝรั่งและชนชาวชาติต่าง ๆ เข้าใจวิธีปฏิบัติธรรมวิชชาธรรมกาย ได้เข้าถึงธรรม ได้รู้จักความสุขที่แท้จริงเพิ่มมากยิ่งๆ ขึ้น
หลาย ๆท่านอยากรู้จักหลวงพ่อวัดปากน้ำ อยากจะศึกษาวิชชาธรรมกายให้ยิ่งๆ ขึ้นไปพวกเราผู้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่สืบต่อมาทาง คุณยาย อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง มาในยุคที่มีพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เป็นผู้นำ เราจะทำความปรารถนาที่หลวงพ่อวัดปากน้ำต้องการเผยแพร่วิชชาธรรมกายให้เป็นผลสำเร็จ
เรากำลังสร้างวิหารประดิษฐาน รูปหล่อทองคำของหลวงพ่อ ที่แสดงประวัติชีวิตให้อนุชนในรุ่นหลังๆ ได้รู้จักผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
เรากำลังสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ เจดีย์แห่งพระรัตนตรัย ซึ่งจะเป็นสถานที่รวมผู้ปฏิบัติธรรมทั่วโลก
เรากำลังสร้าง "ศูนย์กลางพระธรรมกายแห่งโลก" ที่จะเป็นสถานที่สำหรับ ให้ผู้ที่ต้องการศึกษาวิชชาธรรมกายได้เข้ามาศึกษาให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
ในพื้นที่ ๒,๐๐๐ ไร่ ของศูนย์กลางพระธรรมกายแห่งโลก จะเป็นการสืบต่อมโนปณิธานของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่จะเผยแพร่วิชชาธรรมกายไปให้ได้ทั่วโลกตามที่ท่านปรารถนา