ธัมมคารวาทิคาถา
บทสวดว่าด้วยการแสดงคารวะต่อพระธรรม
(นำ) (หันทะ มะยัง ธัมมะคาระวาทิคาถาโย ภะณามะ เส.)
(เชิญเถิด เราทั้งหลาย มาสวดธรรมคารวาทิคาถากันเถิด.)
(รับ) เย จะ อะตีตา สัมพุทธา เย จะ พุทธา อะนาคะตา, โย เจตะระหิ สัมพุทโธ พะหุนนัง โสกะนาสะโน,
พระพุทธเจ้าบรรดาที่ล่วงไปแล้วด้วย, ที่ยังไม่มาตรัสรู้ด้วย, และพระพุทธเจ้าผู้ขจัดโศกของมหาชนในกาลบัดนี้ด้วย ;
สัพเพ สัทธัมมะคะรุโน วิหะริงสุ วิหาติ จะ, อะถาปิ วิหะริสสันติ เอสา พุทธานะธัมมะตา.
พระพุทธเจ้าทั้งปวงนั้น ทุกพระองค์ เคารพพระธรรม, ได้เป็นมาแล้วด้วย, กำลังเป็นอยู่ด้วย, และจักเป็นด้วย, เพราะธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย, เป็นเช่นนั้นเอง.
ตัส๎มา หิ อัตตะกาเมนะ มะหัตตะมะภิกังขะตา, สัทธัมโม คะรุกาตัพโพ สะรัง พุทธานะสาสะนัง.
เพราะฉะนั้น บุคคลผู้รักตน หวังอยู่เฉพาะคุณเบื้องสูง, เมื่อระลึกได้ถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่, พึงทำความเคารพพระธรรม.
นะ หิ ธัมโม อะธัมโม จะ อุโภ สะมะวิปากิโน,
ธรรมและอธรรม จะมีผลเหมือนกันทั้งสองอย่าง หามิได้ ;
อะธัมโม นิระยัง เนติ ธัมโม ปาเปติ สุคะติง.
อธรรม ย่อมนำไปนรก, ธรรม ย่อมนำให้ถึงสุคติ.
ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง,
ธรรมแหละ ย่อมรักษา ผู้ประพฤติธรรมเป็นนิจ ;
ธัมโม สุจิณโณ สุขะมาวะหาติ,
ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ตน ;
เอสานิสังโส ธัมเม สุจิณเณ.
นี่เป็นอานิสงส์ ในธรรมที่ตนประพฤติติแล้ว.