โอวาทปาฏิโมกขคาถา
บทนี้เป็นพระดำรัสที่พระพุทธเจ้าตรัสในวันเพ็ญเดือน ๓ มาฆบูชา (จาตุรงคสันนิบาต)
(นำ) (หันทะ มะยัง โอวาทะปาฏิโมกขะคาถาโย ภะณามะ เส.)
(เชิญเถิด เราทั้งหลาย มาสวดโอวาทปาฏิโมกข์คาถากันเถิด.)
(รับ) สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง, การไม่ทำบาปทั้งปวง ;
กุสะลัสสูปะสัมปะทา,
การทำกุศลให้ถึงพร้อม ;
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง,
การชำระจิตของตนให้ผ่องใส;
เอตัง พุทธานะสาสะนัง.
ธรรม ๓ อย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา,
ขันติ คือความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง ;
นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา,
ผู้รู้ทั้งหลาย กล่าวพระนิพพานว่าเป็นธรรมอันยิ่ง ;
นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี.
ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย.
สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต,
ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย ;
อะนูปะวาโท อะนูปะฆาโต,
การไม่พูดร้าย, การไม่ทำร้าย ;
ปาติโมกเข จะ สังวะโร,
การสำรวมโนปาติโมกข์ ;
มัตตัญญุตา จะ ภัตตัส๎มิง,
ความเป็นผู้รู้ประมาณโนการบริโภค ;
ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง,
การนอน การนั่ง ในที่อันสงัด ;
อะธิจิตเต จะ อาโยโค,
ความหนั่นประกอบในการทำจิตให้ยิ่ง ;
เอตัง พุทธานะสาสะนัง.
ธรรม ๖ อย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.