วิหารทานคาถา
ใช้สวดอนุโมทนา ในงานถวายโบสถ์, วิหาร, ศาลาการเปรียญ, โรงเรียน, กุฏิ เป็นต้น
สีตัง อุณหัง ปะฏิหันติ, เสนาสนะย่อมป้องกันเย็นและร้อน ;
ตะโต วาฬะมิคานิ จะ, และสัตว์ร้าย ;
สิริงสะเป จะ มะกะเส, งู ยุง ;
สิสิเร จาปิ วุฎฐิโย, ฝนที่ตั้งขึ้นในสิสิรฤดู (ฤดูหนาว) ;
ตะโต วาตาตะโป โฆโร, ลมและแดดอันกล้า ;
สัญชาโต ปะฏิหัญญะติ, เกิดขึ้นแล้ว ย่อมบรรเทาไป ;
เลณัตถัญจะ สุขัตถัญจะ ณายิตุง จะ วิปัสสิตุง,
วิหาระทานัง สังฆัสสะ อัคคัง พุทเธหิ วัณณิตัง,
การถวายวิหารแก่สงฆ์เพื่อเร้นอยู่ เพื่อความสุข เพื่อเพ่งพิจารณา
และเพื่อเห็นแจ้ง พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่าเป็นทานเลิศ ;
ตัส๎มา หิ ปัณฑิโต โปโส, เพราะเหตุนั้นแล บุรุษผู้เป็นบัณฑิต ;
สัมปัสสัง อัตถะมัตตะโน, เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ตน ;
วิหาเร การะเย รัมเม, พึงสร้างวิหารอันรื่นรมย์ ;
วาสะเยตถะ พะหุสสุเต, ให้ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพหูสูตอยู่เถิด ;
เตสัง อันนัญจะ ปานัญจะ วัตถะเสนาสะนานิ จะ,
ทะเทยยะ อุชุภูเตสุ วิปปะสันเนนะ เจตะสา,
อนึ่ง พึงถวายข้าวนํ้าผ้าเสนาสนะแก่ท่านเหล่านั้น
ด้วยนั้าใจอันเลื่อมใสในท่านผู้ซื่อตรง ;
เต ตัสสะ ธัมมัง เทเสนติ สัพพะทุกขาปะนูทะนัง
ยัง โส ธัมมะมิธัญญายะ ปะรินิพพาต๎ยะนาสะโวติ,
เขารู้ธรรมอันใดในโลกนี้แล้ว จะเป็นผู้ไม่มีอาสวะปรินิพพาน
ท่านย่อมแสดงธรรมนั้นอันเป็นเครื่องบรรเทาทุกข์ทั้งปวงแก่เขา ดังนี้ ;
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง, ขอสรรพมงคล จงมีแก่ท่าน ;
รักขันตุ สัพพะเทวะตา, ขอเหล่าเทวดาทั้งปวงจงรักษาท่าน ;
สัพพะพุทธานุภาเวนะ, ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง:
สะทา โสตถี ภะวันตุ เต. ขอความสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ท่านทุกเมื่อ.
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง, ขอสรรพมงคล จงมีแก่ท่าน ;
รักขันตุ สัพพะเทวะตา, ขอเหล่าเทวดาทั้งปวงจงรักษาท่าน ;
สัพพะธัมมานุภาเวนะ, ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมทั้งปวง ;
สะทา โสตถี ภะวันตุ เต. ขอความสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ท่านทุกเมื่อ.
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง, ขอสรรพมงคล จงมีแก่ท่าน ;
รักขันตุ สัพพะเทวะตา, ขอเหล่าเทวดาทั้งปวงจงรักษาท่าน ;
สัพพะสังฆานุภาเวนะ, ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งปวง ;
สะทา โสตถี ภะวันตุ เต. ขอความสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ท่านทุกเมื่อ.