บทสวดมนต์หลังทำวัตรเย็น
(เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน)
ชุมนุมเทวดา
(ถ้าจะสวดเจ็ดตำนานใช้)
สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง
ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตูติ
ผะริต๎วานะ เมฅตัง สะเมตตา ภะทันตา
อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ.
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ผู้มีเมตตา จงแผ่ไมตรีจิต ด้วยคิดว่า
ขออานุภาพพระปริตร จงรักษาพระราชาผู้เป็นเจ้าแห่งนรชน
พร้อมด้วยราชสมบัติ พร้อมด้วยพระราชวงศ์ พร้อมด้วย
เสนามาตย์ แล้วอย่ามีจิตฟุ้งซ่าน ตั้งใจสวดพระปริตร.
(ถ้าจะสวดสิบสองตำนานใช้)
สะมันตา จักกะวาเฬสุ อัต๎ราคัจฉันตุ เทวะตา,
เทวดาในรอบจักรวาลทั้งหลาย จงมาประชุมกันในสถานที่นี้ ;
สัทธัมมัง มุนิราชัสสะ สุณันตุ สัคคะโมกขะทัง,
จงฟังซึ่งพระสัทธรรม อันให้สวรรค์และนิพพาน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเจ้าแห่งมุนี ;
(ต่อจากนี้ใช้เหมือนกันทั้งเจ็ดตำนานทั้งสิบสองตานาน)
สัคเค, ข้าพเจ้าขออัญเชิญหมู่เทวดา ซึ่งสิงสถิตอยู่ในฉกามาพจรสวรรค์ ;
กาเม, อยู่ในกามภพ ;
จะ รูเป, อยู่ในรูปภพ คือ โสฬสมหาพรหม ;
คิริสิขะระตะเฏ, อีกทั้งเทพยเจ้าซึ่งสิงสถิตอยู่ในภูผาห้วยเหว และคูหายอดคืรี ;
จันตะลิกเข วิมาเน, อยู่ในอากาศวิมานมาศมณเฑียรทอง ;
ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม, สิงสถิตอยู่ในเกาะแก้วเมืองหลวง และพระนศรใหญ่น้อย ;
ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต,
สิงสถิตอยู่ในเคหสถานบ้านน้อยและเมืองใหญ่ทั่วทุกชนบท ;
ภุมมา, ซึ่งสิงสถิตปรากฏในโรงศาลพระภูมิเจ้าที่ ;
จายันตุ เทวา, ข้าพเจ้าขออัญเชิญให้เร่งรีบเข้ามาในเวลาวันนี้ ให้พร้อมกัน ;
ชะละถะละวิสะเม, อีกทั้งเทพยเจ้าซึ่งสิงสถิตอยู่ในห้วยหนองคลองบึงบางแม่นํ้าใหญ่ ไพรพฤกษาทุกหย่อมหญ้าลดาวัลย์, ที่เสมอกันก็ดี ไม่เสมอกันก็ดี ;
ยักขะคันธัพพะนาคา, ใช่แต่เท่านั้นเมื่อไร มีอีกทั้งยักษา คนธรรพ์ ครุฑ นาคา ;
ติฏฐันตา, อีกทั้งเทพยเจ้าซึ่งสิงสถิตอยู่ในสถานใด ๆ ;
สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง, ข้าพเจ้าขออัญเชิญเข้ามายังสำนักแห่งนักปราชญ์ อาจสำแดงธรรม ;
สาระโว เม สุณันตุ, ดูก่อนสัตบุรุษพุทธบริษัททั้งหลายเอ๋ย ถึงเวลาฤกษ์งามยามดี ;
*ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา. ข้าพเจ้าขออัญเชิญให้เข้ามาสดับตรับฟังพระสัทธรรมพร้อมกัน ดูก่อนท่านผู้ประเสริฐยอดยิ่งกว่ามนุษย์และเทวดา ข้าพเจ้าขออัญเชิญมาร่วมประชุมให้พร้อมเพรียงกันในสถานที่นี้เถิด.
นมการสิทธิคาถา
บทนี้ใช้สวดนมัสการพระรัตนตรัย
(นำ) (หันทะ มะยัง นะมะการะสิทธิคาถาโย ภะณามะ เส.)
(เชิญเถิด เราทั้งหลาย มาสวดนมการสิทธิคาถากันเถิด.)
(รับ) โย จักขุมา โมหะมะลาปะกัฏโฐ,
ท่านพระองค์ใด มีพระปัญญาจักษุขจัดมลทิน คือโมหะเสียแล้ว ;
สามัง วะ พุทโธ สุคะโด วิมุตโต, ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจัา โดยลำพังพระองค์เอง เสด็จไปดีพ้นไปแล้ว ;
มารัสสะ ปาสา วินิโมจะยันโต, ปาเปสิ เขมัง ชะนะตัง วิเนยยัง,
ทรงเปลื้องชุมนุมชนอันเป็นเวไนยจากบ่วงแห่งมาร นำให้ถึงความเกษม ;
พุทธัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ, ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายนมัสการพระพุทธเจ้าผู้บวรพระองค์นั้น ;
โลกัสสะ นาถัญจะ วินายะกัญจะ, ผู้เป็นนาถะและเป็นผู้นำแห่งโลก ;
ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โทตุ, ด้วยเดชพระพุทธเจ้านั้น ขอความสำเร็จแห่งชัยชนะจงมีแก่ท่าน ;
สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ. และขออันตรายทั้งมวล จงลึงความพินาศ.
ธัมโม ธะโช โย วิยะ ตัสสะ สัตถุ, พระธรรมเจ้าใด เป็นดุจธงชัยแห่งพระศาสดาพระองค์นั้น ;
ทัสเสสิ โลกัสสะ วิสุทธิมัคคัง, สำแดงทางแห่งความบริสุทธิ์แก่โลก ;
นิยยานิโก ธัมมะธะรัสสะ ธารี, เป็นคุณอันนำยุคเข็ญ คุ้มครองชนผู้ทรงธรรม ;
สาตาวะโห สันติกะโร สุจิณโณ, ประพฤติดีแล้ว นำความสุขมา ทำความสงบ ;
ธัมมัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ, ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายนมัสการพระธรรมอันบวรนั้น ;
โมหัปปะทาลัง อุปะสันตะทาหัง, อันทำลายโมหะระงับความเร่าร้อน ;
ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ, ด้วยเดชพระธรรมเจ้านั้น ขอความสำเร็จแห่งชัยชนะจงมีแก่ท่าน ;
สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ. และขออันตรายทั้งมวล จงถึงความพินาศ.
สัทธัมมะเสนา ถุคะตานุโค โย, พระสังฆเจ้าใด เป็นเสนาประกาศพระสัทธรรม ดำเนินตามพระศาสดา ผู้เสด็จไปดีแล้ว ;
โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะเชตา, ผจญเสียซึ่งอุปกิเลสอันลามกของโลก ;
สันโต สะยัง สันตินิโยชะโก จะ, เป็นผู้สงบเองด้วย ประกอบผู้อื่นไว้โนความสงบด้วย ;
ส๎วากขาตะธัมมัง วิทิตัง กะโรติ, ย่อมทำพระธรรม อันพระศาสดาตรัสดีแล้วให้มีผู้รู้ตาม ;
สังฆัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ, ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายนมัสการพระสังฆเจ้าผู้บวรนั้น ;
พุทธานุพุทธัง สะมะสีละทิฏฐิง, ผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า มีศีลและทิฏฐิเสมอกัน ;
ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ, ด้วยเดชแห่งพระสังฆเจ้านั้น ขอความสำเร็จแห่งข้ยขนะจงมีแก่ท่าน ;
สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ. และขออันตรายทั้งมวล จงถึงความพินาศ เทอญ.