พิธีบวชชี
สตรีผู้ประสงค์จะบวชชีทั้งแบบปลงผมและไม่ปลงผมพึงปฏิบัติดังนี้
- เตรียมชุดขาวแบบชี หรือนุ่งห่มไว้เลยก็ไดั
- นิมนต์พระสงฆ์ ๔ รูป ขึ้นไปพร้อมแจ้งวัตถุประสงค์
- ถวายสักการะพระสงฆ์ แล้วกล่าวคำขอบวชชี
คำขอบวชชี
เอสาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ, ปัพพัชชัง มังภันเต, สังโฆ ธาเรตุ อัชชะตัคเค ปาณุเปตัง, สะระณัง คะตัง.
คำแปล
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอถึงสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าแม้เสด็จดับขันธปรินิพพานนานแล้ว กับทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะที่พึ่งที่ระลึก ขอพระสงฆ์จงจำข้าพเจ้าไว้ว่าเป็นผู้บวชในพระธรรมวินัย ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิตตั้งแต่บัดนี้เป็นตันไป.
(กราบ ๓ ครั้งแล้วออกไปนุ่งห่มเครื่องแบบหรือชุดของแม่ชีกลับเข้าไปหาพระสงฆ์ กราบ ๓ ครั้ง แล้วอาราธนาศีล (ส่วนผู้ที่แต่งเครื่องแบบอยู่แล้ว ก็กล่าวคำอาราธนาศีลต่อไปได้เลย)
คำอาราธนาศีล
มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ.
ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ.
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ.
(ถ้าคนเดียวว่า อะหัง แทน มะยัง และ ยาจามิ แทน ยาจามะ)
คำให้ศีลบวชชี
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ)
ไตรสรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ.
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ.
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ.
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.
(พระว่า) ติสะระณะคะมะนัง นิฏฐิตัง.
(พึงรับว่า) อามะ ภันเต.
คำสมาทานศีล
๑. ปาณาติปาตา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.
(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์)
๒. อะทินนาทานา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.
(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย)
๓.อะพรัหมะจะริยา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.
(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากอสัทธรรม กรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์)
๔. มุสาวาทา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.
(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวงอำพรางผู้อื่น)
๕. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.
(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสุราและเมรัยเครื่องดองอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท)
๖. วิกาละโภชะนา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.
(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล)
๗. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนะ มาลาคันธะวิเลปะนะ ธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.
(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการฟ้อนรำขับร้อง การประโคมเครื่องดนตรีต่าง ๆ ดูการเล่นที่เป็นข้าศึกแก่กุศล การทัดทรงตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับดอกไม้ของหอม เครื่องทาเครื่องย้อม และผัดผิวให้งามต่าง ๆ)
๘. อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.
(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการนั่งนอนเหนือเตียง ตั่ง มีเท้าสูงเกินประมาณ และที่นั่ง ที่นอนอันสูงใหญ่ ภายในใส่นุ่นและสำลี อาสนะอันวิจิตรไปด้วยลวดลายงามด้วยเงินทองต่าง ๆ )
อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ. (๓ ครั้ง)
คำสรุปอานิสงส์ศีล
อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ,
สีเลนะ สุคะติง ยันติ, สีเลนะ โภคะสัมปะทา,
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ, ตัส๎มา สีลัง วิโสธะเย.
คำแปลสรุปอานิสงส์ศีล
ผู้ถึงสุคติ ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์และถึงนิพพาน ก็เพราะศีล เพราะฉะนั้น พึงชำระศีลให้บริสุทธิ์.
แม่ชีรับว่า สาธุ แล้วทราบ ๓ ครั้ง
ถ้ามีเครื่องไทยทานถวายพระก็ถวายตอนนี้ เมื่อพระว่า ยะถา วาริวะหา พึงกรวดน้ำ เมื่อพระว่า สัพพี พึงประนมมือรับพร
จบวิธีบวชชี