ภิกษุติเตียนภิกษุอื่น ต้องปาจิตตีย์

วันที่ 28 ตค. พ.ศ.2565

ภูตคามวรรค สิกขาบทที่ ๓

ภูตคามวรรค สิกขาบทที่ ๓

คำแปลพระบาลีที่เป็นพุทธบัญญัติ
         “เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะเป็นผู้กล่าวโทษ ในเพราะเป็นผู้ติเตียน”

เนื้อความย่อในหนังสือนวโกวาท
      “ภิกษุติเตียนภิกษุอื่นที่สงฆ์สมมติให้เป็นผู้ทำการสงฆ์ถ้าเธอทำชอบติเตียนเปล่าๆ ต้องปาจิตตีย์”

อธิบายความโดยย่อ
      คำว่า เป็นผู้กล่าวโทษ คือ ภิกษุผู้มุ่งกล่าวติเตียน มุ่งทำให้อัปยศมุ่งทำให้เก้อเขิน ซึ่งอุปสัมบันผู้อันสงฆ์สมมติให้เป็นผู้จัดเสนาสนะ เป็นผู้แจกอาหาร แจกยาคูแจกผลไม้แจกของเคี้ยว หรือแจกของเล็กน้อย
      ภิกษุกล่าวโทษก็ดีติเตียนก็ดีซึ่งอุปสัมบันลักษณะนี้ต้องอาบัติปาจิตตีย์

เจตนารมณ์ของสิกขาบทนี้
      สิกขาบทนี้ทรงบัญญัติไว้เพื่อป้องกันมิให้ภิกษุคิดหยุมหยิม หาเรื่องกล่าวโทษหรือติเตียนภิกษุผู้ทำหน้าที่โดยชอบธรรม โดยที่ตนได้รับการจัดและการแจกที่ไม่ดีไม่ถูกใจ จึงกล่าวโทษหรือติเตียนเลื่อนลอย

อนาปัตติวาร
         ในสิกขาบทนี้ท่านแสดงภิกษุผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องอาบัติไว้คือ 
         (๑) ภิกษุกล่าวโทษหรือติเตียนภิกษุผู้ทำเพราะฉันทาคติโทสาคติโมหาคติภยาคติโดยปกติ
         (๒) ภิกษุผู้วิกลจริต
         (๓) ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติหรือภิกษุอาทิกัมมิกะได้แก่ พระเมตติยะและพระภุมมชกะ ในกลุ่มภิกษุฉัพพัคคีย์

 

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.038945798079173 Mins