ภูตคามวรรค สิกขาบทที่ ๓
คำแปลพระบาลีที่เป็นพุทธบัญญัติ
“เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะเป็นผู้กล่าวโทษ ในเพราะเป็นผู้ติเตียน”
เนื้อความย่อในหนังสือนวโกวาท
“ภิกษุติเตียนภิกษุอื่นที่สงฆ์สมมติให้เป็นผู้ทำการสงฆ์ถ้าเธอทำชอบติเตียนเปล่าๆ ต้องปาจิตตีย์”
อธิบายความโดยย่อ
คำว่า เป็นผู้กล่าวโทษ คือ ภิกษุผู้มุ่งกล่าวติเตียน มุ่งทำให้อัปยศมุ่งทำให้เก้อเขิน ซึ่งอุปสัมบันผู้อันสงฆ์สมมติให้เป็นผู้จัดเสนาสนะ เป็นผู้แจกอาหาร แจกยาคูแจกผลไม้แจกของเคี้ยว หรือแจกของเล็กน้อย
ภิกษุกล่าวโทษก็ดีติเตียนก็ดีซึ่งอุปสัมบันลักษณะนี้ต้องอาบัติปาจิตตีย์
เจตนารมณ์ของสิกขาบทนี้
สิกขาบทนี้ทรงบัญญัติไว้เพื่อป้องกันมิให้ภิกษุคิดหยุมหยิม หาเรื่องกล่าวโทษหรือติเตียนภิกษุผู้ทำหน้าที่โดยชอบธรรม โดยที่ตนได้รับการจัดและการแจกที่ไม่ดีไม่ถูกใจ จึงกล่าวโทษหรือติเตียนเลื่อนลอย
อนาปัตติวาร
ในสิกขาบทนี้ท่านแสดงภิกษุผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องอาบัติไว้คือ
(๑) ภิกษุกล่าวโทษหรือติเตียนภิกษุผู้ทำเพราะฉันทาคติโทสาคติโมหาคติภยาคติโดยปกติ
(๒) ภิกษุผู้วิกลจริต
(๓) ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติหรือภิกษุอาทิกัมมิกะได้แก่ พระเมตติยะและพระภุมมชกะ ในกลุ่มภิกษุฉัพพัคคีย์