กำเนิดโลกและมนุษยชาติ

กระบิดิน

     เมื่อมนุษย์ดูถูกกันมากขึ้น นานเข้านับเป็นล้านๆๆ ปี ง้วนดินหมดคุณภาพ ไม่สามารถใช้เป็นอาหารได้ แต่ว่าพวกนี้สมัยที่เคยเกิดเป็นมนุษย์ก็ยังมีบุญ คือ เคยให้ทานมาดี ด้วยอำนาจบุญจากการให้ทานนั้นทำให้เกิดธรรมชาติขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง เขาเรียกว่า กระบิดิน มีลักษณะคล้ายๆ เห็ด ถ้าจะว่าไปพวกเห็ดเกิดขึ้นแล้วในยุคต้นกัป เกิดขึ้นมาเป็นอาหาร แต่เห็ดยุคนั้นไม่เหมือนเห็ดยุคเรา เห็ดยุคเราน่ะ ต้องปรุงต้องเคี้ยวกัน คุณค่าทางอาหารก็ไม่ได้มากเท่าไหร่นัก แต่เห็ดในยุคนั้นที่เรียกว่ากระบิดินนี่ เป็นเห็ดที่มีคุณค่าสูง สามารถใช้กินแทนง้วนดินได้เขาก็ใช้กินกันเป็นอาหาร แต่ว่าอย่างไรก็ตามเจ้ากระบิดินหรือเจ้าเห็ดตระกูลแรกที่เกิดขึ้นในโลกนี้ คุณภาพก็สู้ง้วนดินไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้น พอกินเข้าไปแล้ว ร่างกายชึ่งปกติก็ขุ่นอยู่แล้วเพราะกินง้วนดินก็ยิ่งขุ่นขึ้น ยิ่งแข็งขึ้นยิ่งหยาบขึ้นมาอีก โดยเฉพาะพวกพรหมที่เกิดในยุคต่อๆ มาไม่ได้กินง้วนดินกับเขาหรอก มาถึงก็มากินกระบิดินเลย งวดนี้กายยิ่งหยาบหนักเข้าไปอีก เมื่อหยาบหนักเข้าก็เลยมีการดูถูกกันมากยิ่งขึ้น ดูหมิ่นกันมากขึ้นเพราะผิวพรรณ มีการยกตนข่มท่านกันขึ้นมา

      นี่กิเลสของคนเป็นอย่างนี้ เพราะว่าพรหมน่ะยังไม่หมดกิเลส ยังมีนิสัยไม่ดีๆ ติดมา พอมีโอกาสได้ช่องมาเกิดเป็นคนเข้า ก็ดูถูกกันอย่างนี้ เพราะฉะนั้นพวกเราที่ยังไม่หมดกิเลสน่ะ อย่าเพิ่งไว้ใจตัวเองว่า วันนี้เราดีกว่าคนโน้นคนนี้แต่พรุ่งนี้อาจจะแย่ยิ่งกว่าก็ได้นะ ทำเป็นเล่นไป ในตอนนั้นจากพรหมมาเป็นคน แต่เราจากคนอาจไม่ได้เป็นพรหมนะ

        พวกพรหมที่มาเกิดขึ้นใหม่ มาถึงปุ๊บ ก็กินกระบิดินเลย พวกหนึ่งนี่ผิวพรรณยิ่งหยาบแย่ลงไป พวกที่กินง้วนดินมาแต่ก่อน พอมากินกระบิดินก็แย่ลงไปอีกเหมือนกัน แต่ว่าบุญใครบุญมัน แย่น้อยแย่มากไม่เท่ากัน ผิวพรรณก็แตกต่างกัน ก็ดูถูกกันต่อไป มลภาวะก็ยิ่งเกิดขึ้น บรรยากาศเป็นพิษมากขึ้น

เครือดิน

      มลภาวะเกิดขึ้นแล้ว กะบิดินก็เสื่อมคุณภาพไป ก็มีเครือดินเกิดขึ้นมาแทนที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ลักษณะคล้ายๆ กับผลมะพร้าว มันเกิดขึ้นมาจากดิน เคยจำไต้ว่าลักษณะนี้ โบราณของไทยน่ะเขาเรียกดินขนำเกิดขึ้นมาแต่ไม่ใช่ดินโป่งอย่างที่สัตว์ไปกินตามป่านะ คนละเรื่องกันอย่าไปปนกัน มนุษย์ยุคนั้นก็ได้กินเครือดินเป็นอาหารอีก

       เนื่องจากเครือดินคุณภาพทางอาหารหย่อนกว่า พอกินเครือดินเข้าไป ผิวพรรณก็ยิ่งหยาบ ยิ่งกร้าน ยิ่งกระด้าง แล้วตอนที่เกิดเครือดินน่ะ ไม่ใช่เกิดปุ๊บปั๊บขึ้นมาในโลกทันทีพวกที่บุญน้อยกว่าก็กินเครือดินไปเถอะ ง้วนดินย่านนั้นไม่มีเลย แต่พวกไหนบุญมาก บุญเก่ายังไม่หมด ก็ยังมีพวกกระบิดินบ้าง มีง้วนดินบ้างเล็กๆน้อยๆ ยังได้กินกันอยู่เพราะฉะนั้น พวกนั้นผิวพรรณก็ยังไม่โทรมไปเท่าไหร่ แต่พวกมากินเครือดินนี่แย่เลย การดูถูกกันก็ยิ่งมากขึ้นไปอีกการกระทบกระทั่งกันมากขึ้นไปอีก ในที่สุดมลภาวะนี้ก็คลุมไปทั้งโลก โลกที่เคยไหม้มาเป็นล้านๆๆ ปี จนกระทั่งดินน่ะสะอาด มีกลิ่นหอม กลิ่นหอมก็ชักจะหมดไป นี่เป็นอย่างนี้