ข้อคิดจากชาดก
มกสชาดก
ชาดกว่าด้วยความเบื้องต้น
สถานที่ตรัสชาดก
.....หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแคว้นมคธ
สาเหตุที่ตรัสชาดก
ครั้งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระภิกษุทั้งหมู่หนึ่งเสด็จเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในแคว้นมคธ ตลอดทางที่เสด็จผ่านนั้นพระองค์ทอดพระเนตรเห็นชายชาวบ้านทั้งหลาย ต่างนอนซมอยู่ตามพื้นบ้าน บางคนกำลังพอกยาหรือให้ลูกให้ภรรยาทำแผลให้ แต่ละคนมีบาดแผลเหมือนถูกธนูบ้าง ถูกมีดบ้าง บางคนก็เขียวช้ำเหมือนถูกฟาดด้วยท่อนไม้ ดูราวกับได้รับบาดเจ็บมาจากการรบทัพจับศึก
มีพวกชาวบ้านไม่กี่หลังคาเรือนเท่านั้นที่มิได้มีบาดแผลหรือเจ็บป่วยเลย พวกเขาได้ชวนกันถวายทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุ เมื่อพระพุทธองค์ทรงรับภัตตาหารแล้ว ได้ตรัสถามถึงความเจ็บป่วยของชาวบ้านเหล่านั้น อุบาสกทั้งหลายจึงกราบทูลว่า
“ พวกเขาเข้าไปตัดไม้ในป่า ถูกฝูงยุงรุมกัดอยู่เสมอ จึงชวนกันถืออาวุธเข้าไปไล่ฆ่ายุง แต่กลับเป็นว่าต่างคนต่างถูกอาวุธของพวกเดียวกันได้รับบาดเจ็บกลับมา พระพุทธเจ้าข้า ” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “ มิใช่แต่บัดนี้หรอกนะ ที่อันธพาลคิดว่าจะประหารยุงแต่กลับประหารกันเอง แม้เมื่อชาติก่อนนั้นก็เคยมีมาแล้ว ” ชาวบ้านเหล่านั้นจึงกราบทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องราวแต่หนหลัง พระพุทธองค์จึงตรัสเล่าดังนี้
เนื้อหาชาดก
ณ หมู่บ้านหนึ่งในเขตชนบทชายแดน แค้วนกาสี ชายชาวบ้านทุกคนมีฝีมือในการก่อสร้าง ทำเครื่องเขียน และแกะสลักไม้เป็นอย่างมาก วันหนึ่ง ขณะที่ช่างไม้หัวล้านคนหนึ่งกำลังขะมักเขม้นถากไม้อยู่นั้น ยุงตัวหนึ่งได้บินมาเกาะที่กลางหัวที่ล้านเลี่ยนราวกับกระโหลกทองแดงคว่ำของเขา แล้วใช้ปากอันแหลมคมของมัน แทงลงไปกลางหัวล้านนั้นทันที
ช่างไม้หัวล้านสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจบวกกับความโกรธในขณะนั้น ทำให้เขารู้สึกว่าความเจ็บจี๊ดนั้นเป็นความเจ็บปวดที่แสนสาหัสราวกับถูกหอกแหลมๆ ปักลงมาเต็มที่ เขาจึงทนนั่งคอแข็งไม่ขยับตัวเพราะกลัวยุงจะบินหนีไปเสีย พลางร้องสั่งลูกชายซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ ว่า
“ ลูกเอ๊ย .. ไอ้ยุงวายร้ายมันกำลังเจาะกบาลพ่ออยู่ เจ็บยังกะถูกหอกแทง เอ็งรีบมาจวกมันให้ตายทีเถอะ ” ลูกชายได้ฟังดังนั้น จึงบอกว่า “ พ่อนั่งนิ่งๆ นะ เดี๋ยวฉันจะจวกมันให้ขาดสองท่อนเลย ” ว่าแล้วลูกชายก็คว้าขวานที่วางอยู่แถวๆ นั้น แล้วย่องเข้ามาทางด้านหลัง ตาจองเขม็งไปที่ยุงที่เกาะนิ่งอยู่บนหัวล้านพ่อ แล้วเงื้อขวานฟันฉัวะลงไปเต็มแรง
พอสิ้นเสียงฉัวะ หัวล้านของช่างไม้ก็แบะออกเป็น ๒ เสี่ยง ทั้งเลือดทั้งมันสมองกระเด็นแตกกระจาย ช่างไม้ก็ตายคาที่อยู่ตรงนั้นเอง
ในขณะนั้น มีพ่อค้าผู้หนึ่งกำลังหาซื้อของอยู่แถวนั้นพอดี บังเอิญแวะเข้าไปพักอยู่ในโรงช่างไม้พอดี เมื่อเห็นลูกช่างไม้เงื้อขวานขึ้นฟันหัวพ่อ ก็ร้องห้ามแต่ไม่ทันการ จึงได้แต่ยืนดูศพของช่างไม้ด้วยความสลดใจ แล้วรำพึงว่า
“ มีศัตรูที่มีปัญญา ยังดีเสียกว่ามีมิตรที่โง่เขลา ลูกโง่ของช่างไม้คิดว่าจะฆ่ายุงกลับฟันหัวพ่อเสียเป็นสองเสี่ยง ”
ประชุมชาดก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประชุมชาดกว่า พ่อค้าที่เห็นเหตุการณ์ ได้มาเป็นพระองค์เอง
ข้อคิดจากชาดก
๑. การที่เราคิดจะฆ่าผู้อื่น แต่แล้วกลับกลายเป็นการฆ่าตัวเองนั้น แม้ในปัจจุบันก็มีเช่น การที่เราใช้ยาฆ่าแมลง ฉีด พ่น เพื่อฆ่ามด ยุง แลงสาบ ตั๊กแตน หนอน ฯลฯ นั้น แม้ฆ่าได้บ้างแต่พิษของยาฆ่าแมลงที่ตกค้างอยู่ตามเสื้อผ้า บ้านเรือน ผัก ผลไม้ และยังคงส่งผลร้ายให้ตนได้รับสารพิษนั้นทีละเล็กทีละน้อย เป็นการฆ่าตัวตายผ่อนส่งโดยไม่รู้ตัว
๒ . แม้เรื่องการหาเงินตราเข้าประเทศ นักการเมืองบางคนท่านเสนอให้นำอบายมุข เป็นต้นว่าบ่อนการพนัน หรือการบันเทิงเริงรมย์ มาเป็นเครื่องล่อชาวต่างชาติ โดยไม่คำนึงถึงว่าจะทำให้คุณธรรมความดีของคนหายไปอย่างไรบ้าง นับเป็นความคิดที่บ้องตื้นไร้ปัญญาอย่างยิ่ง
๓ . ผู้ที่ใช้คนบ้องตื้นทำงาน ควรระมัดระวังให้ดีเพราะเขาอาจจะทำความเสียหายร้ายแรงเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้
๔ . คนที่มีศัตรูเป็นบัณฑิตนั้น ยังดีเสียกว่ามีคนโง่เป็นมิตรเพราะเขายังเกรงอาญาแผ่นดิน ไม่ถึงกับฆ่าคนได้
นิทานชาดก
มกสชาดก
ชาดกว่าด้วยความเบื้องต้น