โอวาทหลวงพ่อทัตตชีโว
เนื่องในพิธีบุพเปตพลี ครั้งที่
วันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖
ณ หอฉันคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
บุคคลที่หาได้ยากในโลก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า บุคคลที่หาได้ยากในโลกนี้ มี ๒ ประเภท คือ
๑. บุพการี
คือ ผู้ทำอุปการะก่อน ผู้ทำความดีส่งเสริมช่วยเหลือผู้อื่นก่อน เต็มใจที่จะทำความดีให้แก่ผู้อื่นก่อน นี้เป็นบุคคลผู้หายากในโลก คือเขาไม่ได้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือมา ไม่ได้สัญญาอะไร แต่ก็ยินดีจะทำความดีให้แก่ผู้อื่นก่อน
เหมือนกับคุณพ่อคุณแม่ของเรา ตั้งแต่เกิดมาเราก็ไม่เคยสัญญากับท่านเลยว่า โตขึ้นเราจะเลี้ยงท่านตอบแทน ลูกจะเลี้ยงหรือไม่เลี้ยงท่านก็ตาม แต่ท่านก็จะเลี้ยงลูกอย่างสุดความสามารถของท่าน ถ้าคุณพ่อคุณแม่รอให้ลูกมาเลี้ยงก่อน แล้วท่านจึงจะเลี้ยงกลับ เราคงตายกันหมดโลก นั่นคือ หัวใจของคุณพ่อคุณแม่
ถ้าหากมีแต่คนที่รอให้คนอื่นมาทำความดีกับตัวเองก่อนแล้วจึงค่อยตอบแทนคุณ รออยู่อย่างนั้น ต่างคนต่างรอ ไม่มีใครทําความดีกับใคร โลกนี้คงแห้งแล้งหนักหนาสาหัสทีเดียว
๒. ผู้มีความกตัญญูกตเวที
คือ ผู้รู้อุปการะที่เขาทำแล้วและตอบแทน บุคคลผู้ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูสนับสนุนจากใครแล้ว ไม่ลืมพระคุณ ตั้งใจตอบแทนคุณเต็มที่ บุคคลอย่างนี้หาได้ยาก
คนส่วนมากเมื่อได้รับอุปการะจนได้ดิบได้ดีแล้ว มักจะลืมพระคุณผู้อุปการะ ลืมว่าตัวเองได้ดีมาอย่างไร บางทียังพาลนึกเกลียดญาติที่เคยอุปการะเขามาเสียด้วยซ้ำ คิดว่าตัวเองได้ดีมาด้วยตัวเอง หาได้นึกถึงพระคุณของท่านไม่ ซึ่งถ้าบุคคลในโลกเป็นอย่างนี้กันหมด วันหนึ่งก็จะไม่มีใครทำดีให้ใครก่อนอีกเหมือนกัน
ลูกที่ดีต้องคำนึงถึงพระคุณของพ่อแม่ แล้วหาทางตอบแทนพระคุณท่านในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ คนเช่นนี้นับวันจะหายาก และผู้ที่หายากยิ่งขึ้นไปอีกคือ ผู้ที่ตอบแทนพระคุณท่านเมื่อท่านละโลกไปแล้ว
