ทกฺขํ คหปตํ สาธุ สํวิภชฺชญฺจโภชนํ
อหาโส อตฺถลาเภสุ อตฺถพฺยาปตฺติ อพฺยโถ ฯ
สำหรับคฤหัสถ์ ความขยันเป็นความดีชั้นต้น
ได้โภชนาหารแล้วแบ่งปันไป เป็นความดีชั้นสอง
ได้ลาภผลแล้วไม่ระเริงใจ เป็นความดีชั้นสาม
ถึงความวิบัติก็ไม่เดือดร้อนใจ เป็นความดีชั้นที่สี่
(ขุ.ชา. ๒๗/๒๔๘)
สำหรับผู้ครองเรือน มีความดี ๔ ระดับ
ที่จะยังความสุขให้ได้ในปัจจุบันนี้
ความดีแรกที่ทุกคนต้องมี คือ ความขยัน
ความเกียจคร้านเป็นทางวิบัติ เป็นทางมาแห่งความสูญสิ้น
ความขยันเป็นความเจริญ เป็นทางมาแห่งโภคทรัพย์ทั้งหลาย
จนมีภาษิตที่ลือเลื่องว่า “ไม่มีความยากจนในหมู่คนขยัน”
แต่ความขยันเป็นเพียงความดีขั้นต้นเท่านั้น
การรู้จักแบ่งปัน รู้จักเจือจาน เป็นความดีขั้นที่ ๒
เพราะเหตุว่า “หา” ว่ายากแล้ว “ให้” ยิ่งยากกว่า
เมื่อถึงคราวมั่งคั่งร่ำรวยได้ลาภยศ ก็ไม่หลงระเริง
ไม่ดูถูกเหยียดหยามมนุษย์ ไม่ประมาทในทรัพย์
นี้เป็นความดีขั้นที่ ๓ ของผู้ครองเรือน
เมื่อถึงคราวตกต่ำยากจน พจญภัยพิบัตินานา
ก็ไม่หวนไห้จนเกินเหตุ ไม่ตัดพ้อชะตาฟ้าดิน
จิตใจหนักแน่นพร้อมก้าวเดินต่อไปอย่างมุ่งมั่น
ด้วยตระหนักดีว่า “ชีวิตมีขึ้นมีลง แต่จิตใจต้องมั่นคงตลอดเวลา”
นี้เป็นความดีขั้นที่ ๔ ของผู้ครองเรือน
ขอขอบคุณ หนังสือ ส่องธรรม ล้ำภาษิต เล่ม ๒
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไร ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมาย