วิธีการหลับตา

วันที่ 23 กค. พ.ศ.2557

 

 

วิธีการหลับตา

 

         การหลับตามีวัตถุประสงค์ไม่ให้เห็นภาพภายนอก ซึ่งจะพลอยทำให้ใจของเราฟุ้ง เหมือนเรา ปิดฉากปิดม่านของตา โดยมีวิธีการดังนี้


         1. หลับตาของเราเบาๆ คล้ายกับเวลาที่เรานอนหลับ โดยปิดผนังตาเพียงเบาๆ


         2. อย่าเม้มตาแน่น อย่าบีบหัวตา และอย่ากดลูกนัยน์ตา หลับตาสักครึ่งลูก ปรือๆ บายๆ หรือหลับตาประมาณ 80-90%


         3. การวางเปลือกตาให้เป็น ถ้าถูกส่วนแล้ว จะเป็นแค่แตะไม่ถึงกับติด แค่สัมผัส เบาๆเหมือนปรือๆ ตา ถ้าหลับตาไม่เป็น ไปบีบเปลือกตา แบบคนทำตาหยี จะทำให้ปวดศีรษะ มึนศีรษะ แล้วไม่ได้ผล


     4. ลืมไปเลยว่าเรามีลูกนัยน์ตา ถ้าหลับตาได้อย่างนี้ จะทำให้เราเห็นภาพภายในได้  ในการหลับตา มีนักปฏิบัติสมาธิบางท่านไม่เข้าใจการปฏิบัติ โดยหลับตาแล้วบีบหัวตา ปิดเปลือกตาจนสนิทแน่น เพื่อที่จะไปเค้นให้เห็นภาพนิมิตได้ชัดเจน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหัวคิ้ว มีความรู้สึกคล้ายๆมีแม่เหล็กติดไว้คนละขั้ว คือ คิ้วขมวดเข้าหากัน และจะเป็นสาเหตุของอาการมึน ตึงศีรษะ ปวดตา ตึงต้นคอได้ทำให้นักปฏิบัติธรรมยิ่งนั่งก็ยิ่งหน้าตาแก่ลงไปทุกวัน และทำให้เกิดอาการล้า จนรู้สึกไม่อยากปฏิบัติสมาธิต่อไปทั้งนี้ก็เพราะว่าทำผิดวิธี


         นอกจากนี้ในการหลับตา นักปฏิบัติบางท่านก็พยายามใช้สายตามองลงไปในกลางท้อง เพื่อให้เห็นภาพนิมิตในกลางท้องชัดเจน ซึ่งพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ได้ให้ข้อแนะนำไว้ว่า


        "เริ่มต้นตั้งแต่ปรับลูกนัยน์ตา ต้องอยู่ในองศาเดิม อย่ากดลงไป โฟกัสไปที่ศูนย์กลางกาย อย่างนี้ไม่ถูกคือพยายามที่จะโฟกั ยิ่งกดลูกนัยน์ตา ยิ่งเครียด ยิ่งเพ่ง คิ้วจะขมวดเข้าหากัน แล้วก็เหนื่อยไม่ได้ผลอะไรเพราะจิตมันหยาบ


    ความจริงเราไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร เหมือนเราเดินไป ตาเรามองไปข้างหน้า แต่เราสามารถรู้ได้ว่าคนข้างๆ ผู้หญิงหรือผู้ชาย โดยทั้งๆ ที่เรามองเหมือนไม่ได้มอง ก็เลยยังมองอยู่ แต่มองด้วยจิตสำนึกด้วยสำนึกลึกๆ มองผ่านอย่างนั้น ทั้งๆ ลูกนัยน์ตาอยู่ในองศาที่มองไปหน้า ดูคน ดูแผ่นป้าย ดูรถรา แต่เรารู้ว่าข้างๆ มีคนอยู่ ผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า มองอย่างนั้น มองผ่านๆ


       เพราะฉะนั้น เวลาเราหลับตา อย่ากดลูกนัยน์ตา ถ้าเราไม่ฟังผ่าน หรือฟุ้งจนลืมฟัง คำๆ นี้จะมีความหมายมาก คือลูกนัยน์ตาจะอยู่ที่เดิม อยู่ในระดับที่เหมือนเรามองไปข้างหน้า แต่เราปิดแล้วก็ทำความรู้สึกของใจด้วยสำนึกที่ละเอียดอ่อน มองเหมือนไม่ได้มอง แต่ว่าไม่ได้มองก็เหมือนมองคล้ายๆ มีละอองดาวเล็ก หรือเพชรใสๆ ที่มีคุณค่าอย่างมหาศาลมากจนกระทั่งเราไม่กล้าที่จะไปแตะต้องไปสัมผั มันมีคุณค่ามากเหลือเกิน คือเราไม่สามารถไปแตะต้องได้ถึง จึงได้แต่มองผ่านๆ"


       ในเรื่องของการหลับตานี้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ไม่ควรมองข้ามเพราะนักปฏิบัติบางท่านติดอยู่ที่ตรงนี้ บางทีเป็นสิบปี ยี่สิบปี ทำให้รู้สึกว่าปฏิบัติแล้วไม่ได้อะไร เพราะฉะนั้นเราจึงควรหมั่นสังเกตและค่อยๆ ฝึกปฏิบัติกันต่อไป

 

 

 

จากหนังสือ DOU

วิชา MD102 สมาธิ 2 หลักการเจริญสมาธิภาวนา

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.037710384527842 Mins