ตโยธัมมชาดก ชาดกว่าผู้มีธรรม ๓ ประการ

วันที่ 01 ธค. พ.ศ.2565

ข้อคิดจากชาดก ตโยธัมมชาดก ชาดกว่าผู้มีธรรม ๓ ประการ

ข้อคิดจากชาดก
ตโยธัมมชาดก
ชาดกว่าผู้มีธรรม ๓ ประการ

 

สถานที่ตรัสชาดก

.....เวฬุวันมหาวิหาร แคว้นมคธ

 

สาเหตุที่ตรัสชาดก

        ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล ขณะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับ ณ เวฬุวันมหาวิหาร พระพุทธองค์ได้สดับคำปรารภของบรรดาพระภิกษุสงฆ์ ถึงการที่พระเทวทัตพยายามจองล้างจองผลาญพระพุทธองค์ ด้วยประการต่างๆ อยู่อย่างไม่ลดละ

        พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปรารถนาจะปลอบใจพระภิกษุทั้งหลาย ให้คลายความวิตกกังวลห่วงใยในพระองค์ และเลิกใส่ใจในการกระทำของพระเทวทัต เพราะพระเทวทัตมิได้ตามจองล้างจองผลาญพระองค์ เฉพาะในชาตินี้เท่านั้น แม้ในชาติก่อนๆ ก็ได้พยายามทำร้ายพระองค์มาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่เคยทำได้สำเร็จเลยสักครั้ง

         พระบรมศาสดาจึงทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณอันเป็นเครื่องหยั่งรู้ภพชาติในอดีต แล้วนำ ตโยธัมมชาดก มาตรัสเล่าแก่พระภิกษุสงฆ์ ดังนี้

 

เนื้อหาชาดก

        .....ครั้งหนึ่งในอดีตกาล ณ ป่าหิมพานต์ มีลิงจ่าฝูงตัวหนึ่ง มีนิสัยใจคอโหดเหี้ยม ขี้หวาดระแวง กลัวลิงตัวอื่นจะมาแย่งตำแหน่งจ่าฝูงไปจากตน แม้แต่ลูกของมันเอง มันก็ยังไม่ไว้ใจ ดังนั้น หากนางลิงตัวใดมีครรภ์แก่ คลอดลูกออกมาเป็นตัวผู้ มันจะรี่เข้าขบกัดอวัยวะเพศเสียให้ขาด ลูงลิงบางตัวถึงกับตาย บางตัวก็พิการไม่สามารถสืบพันธุ์ หรือตั้งตัวเป็นใหญ่เสมอมันได้เลย

         วันหนึ่ง นางลิงตัวหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองตั้งท้อง นางเกรงว่าหากลูกในท้องเป็นตัวผู้ ลูกก็จะถูกทำร้ายถึงตายได้ นางบังเกิดความรักความห่วงใยลูกของนางอย่างท่วมท้น ด้วยความรักลูก นางจึงตัดสินใจหลบหนีออกจากฝูง ข้ามไปอยู่ที่ภูเขาอีกลูกหนึ่งตามลำพัง

        ต่อมาไม่นาน นางลิงก็คลอดลูกออกมาเป็นตัวผู้ นางรักใคร่ทะนุถนอมลูกของนางยิ่งนัก นางเฝ้าเลี้ยงดู อรมสั่งสอนลูกอย่างดี จนกระทั่งลูกลิงเจริญวัยขึ้นตามลำดับ มีร่างกายล่ำสันแข็งแรง มีความเฉลียวฉลาดมาก ถึงแม้จะอยู่กันตามลำพังแม่ลูกไม่ปะปนกับฝูงลิงใด ลูกลิงก็รู้ตัวว่า ตนควรจะมีพ่อเช่นเดียวกับสัตว์อื่นๆ

        วันหนึ่ง ลูกลิงจึงเข้าไปรบเร้าถามแม่ลิงว่า

        “ แม่จ๋า พวกสัตว์อื่นๆ เขามีทั้งแม่ ทั้งพ่อ แต่ฉันไม่เห็นมีพ่อเลย พ่อของฉันอยู่ที่ไหนจ๊ะ”

        แม่ลิงจึงเล่าเรื่องราวแต่หนหลังทั้งหมดให้ลูกลิงฟัง พร้อมกับกล่าวย้ำว่า

         “ พ่อของลูกมีจิตใจเหี้ยมโหด และขี้ระแวงมาก ระแวงกระทั่งลูกของตัว เพื่อความปลอดภัยของลูก ลูกอย่าไปหาพ่อเลยนะจ๊ะ”

        แต่ลูกลิงไม่นึกหวั่นเกรงอันตรายจากพ่อของตนเลย จึงเฝ้าอ้อนวอน ขอให้แม่ลิงพาตน กลับฝูงเดิมเพื่อพบพ่อ

 

        “ แม่จ๋า ฉันอยากพบพ่อจ๊ะ พ่อคงไม่ทำอะไรฉันหรอก ฉันเห็นพ่อสัตว์อื่นๆ เขาก็รักลูกของเขา พ่อคงไม่ทำร้ายฉันหรอกจ๊ะ”

        แต่แม่ลิงคัดค้านว่า “ แม่รู้จักพ่อของเจ้าดีนะลูก ลูกอย่าไปหาพ่อเลย เพราะถ้าลูกเป็นอะไรลงไป แม่คงขาดใจตายแน่ๆ “

        ลูกลิงยังคงอ้อนวอนต่อไปว่า “ แม่จ๋า เดี๋ยวนี้ฉันเติบโตเป็นลิงหนุ่มแล้ว ถ้าหากพ่อจะทำอะไรฉัน ฉันคงเอาตัวรอดได้หรอกนะจ๊ะแม่”

        แม่ลิงฟังลูกรบเร้าอ้อนวอน ประกอบกับเหตุผลต่างๆ ที่ยกขึ้นมาอ้าง นางก็ใจอ่อน ยอมพาลูกกลับไปหาพ่อลิง

        เมื่อลิงจ่าฝูงเห็นลูกของตนเป็นตัวผู้ ก็ขุ่นใจทันที คิดในใจว่า

        “.. เจ้าตัวนี้ แหม… ตัวมันโตเสียด้วยซี เมื่อมันโตขึ้น มันจะต้องแย่งตำแหน่งจ่าฝูงไปจากเราแน่นอน รูปร่างของมันก็ดูล่ำสัน แข็งแรง เราจะกำจัดมันง่ายๆ เหมือนลูกตัวอื่นๆ คงไม่ได้..”

        พ่อลิงจึงแสร้งทำอุบาย แสดงอาการดีอกดีใจ เดินเข้าไปใกล้ แล้วกล่าวทักทายลูกด้วยถ้อยคำอันอ่อนหวานว่า

        “ ลูกเอ๋ย.. เจ้าไปอยู่ที่ไหนเสียตั้งนาน เข้ามาให้พ่อกอดให้ชื่นใจหน่อยเถอะ”

        ว่าแล้วพ่อลิงก็ดึงตัวลูกเข้ามากอดไว้แนบอกอย่างถนัดถนี่ มันรวบรวมพละกำลังทั้งหมดบีบรัดลูกลิงจนแน่น หมายจะให้กระดูกหักแหลกละเอียดทั้งตัว ตายคาวงแขนของมันในบัดนั้น

 

        ลูกลิงรู้สึกผิดปกติในแรงกอดรัดของผู้เป็นพ่อ ประกอบกับเคยได้รับคำบอกเล่าถึงความเหี้ยมโหดของพ่อมาก่อนแล้ว จึงเข้าใจเจตนาในการกอดนั้นทันที แต่เนื่องจากยังไม่เคยซาบซึ้งในความสัมพันธ์ฉันพ่อลูกมาก่อนเลย อีกทั้งยังได้รับคำบอกเล่าเรื่องของพ่อจากแม่แต่ในทางร้ายๆ ดังนั้น แทนที่ลูกลิงจะดิ้นรนออกจากวงรัดของพ่อ มันกลับกอดรัดตอบ ด้วยพละกำลังอันมหาศาลยิ่งกว่า
 

        พ่อลิงถึงกับเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัว ราวกับกระดูกจะแตกหักไปเสียเดี๋ยวนั้น มันเกิดสังหรณ์ใจว่า ต่อไปลูกลิงตัวนี้จะต้องฆ่ามันแน่ มันจึงรีบคลายวงแขนออก เปลี่ยนแผนใหม่ทันที โดยกล่าวแก่ลูกอย่างชื่นชมว่า

        “ลูกรัก พ่อทดลองกำลังของเจ้าดูแล้ว เห็นว่ากำลังวังชาเจ้าแข็งแรงดีเหลือเกิน สมควรจะได้รับตำแหน่งจ่าฝูงแทนพ่อ เดี๋ยวนี้พ่อก็แก่แล้ว จะได้พักผ่อนเสียที”

        พ่อลิงสรรเสริญเยินยอลูกของตนอีกมากมาย พร้อมทั้งกล่าวว่า

        “พ่อจะทำพิธีต้อนรับเจ้าให้อย่างเอิกเกริก และจะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นหัวหน้าคุมฝูงลิงเสียเลยในวันนี้ แต่การที่เจ้าจะคุมบริวารได้นั้น เจ้าจะต้องไปเก็บดอกกุมุท ๓ ดอก ดอกอุบล ๓ ดอก และปทุมอีก ๕ ดอก ที่กำลังบานจากสระใหญ่ข้างหน้าโน้น มาใช้ในพิธีให้ครบเสียก่อน” 

        ลูกลิงรับคำ แล้วรีบไปที่สระน้ำนั้นทันที แต่ด้วยนิสัยช่างสังเกต จึงไม่ด่วนผลีผลามลงไปเก็บดอกบัวในสระ ลูกลิงเดินสำรวจดูรอบๆ ของสระก่อน ก็เห็นว่า ที่บริเวณรอบๆ สระนั้น มีแต่รอยเท้าสัตว์เดินลงไปในสระ ไม่มีรอยเดินขึ้นเลย จึงคิดว่า ในสระนี้ต้องมีผีเสื้อน้ำอาศัยอยู่แน่นอน ลูกลิงคิดว่า

        “พ่อของเราฆ่าเราไม่ได้ จึงลวงเรามาให้ผีเสื้อน้ำฆ่า เราจะไม่ลงไปในสระ ให้เป็นเหยื่อของผีเสื้อน้ำหรอก แต่เราก็จะเก็บดอกบัวให้ได้!!!…”

        ลูกลิงคิดพลางเดินพลาง เพื่อหาส่วนที่แคบที่สุดของสระ เมื่อพบแล้ว ลูกลิงกระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ แล้วเหวี่ยงตัวข้ามสระไปอีกฝั่งหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็ฉวยดอกบัวในสระติดมือไปอีก ๒ ดอกด้วย

        ลูกลิงเก็บดอกบัวด้วยวิธีนี้ จนกระทั่งได้ดอกบัวกองเต็มไปทั้งสองฝั่ง จากนั้นก็รวบรวมมากองรวมไว้ด้วยกัน

        ฝ่ายผีเสื้อน้ำซึ่งอาศัยอยู่ในสระ เห็นความฉลาดของลูกลิงก็นึกสรรเสริญอยู่ในใจ และคิดต่อไปว่า

        “…ผู้มีสติปัญญาฉลาดหลักแหลม ดังอัจฉริยบุรุษเช่นนี้ เรายังไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยในชีวิต น่าที่จะขึ้นไปสนทนาวิสาสะด้วยสักครั้ง..”

        คิดแล้วจึงโผล่ขึ้นจากสระน้ำ ตรงเข้าไปหาลูกลิงแล้วกล่าวสรรเสริญว่า

        “ท่านผู้เจริญ ในโลกนี้บุคคลใดมีธรรม ๓ ประการ คือ ทักขิยะ ความเพียรอันมั่นคง สุริยะ ความกล้าหาญ และปัญญา คือความฉลาดรอบรู้ในอุบาย บุคคลผู้นั้น ย่อมล่วงพ้นศัตรูได้ ชะรอยท่านจะมีธรรมเหล่านี้อยู่อย่างครบถ้วน น่าสรรเสริญจริงๆ”

        ผีเสื้อน้ำกล่าวชมเชยลูกลิง แล้วถามต่อไปว่า

        “ท่านวานรผู้เป็นใหญ่ ท่านเก็บดอกบัวเหล่านี้ไปทำไมหรือ?”

        “พ่อของเราจะแต่งตั้งเราเป็นจ่าฝูงลิงทั้งหลาย จึงให้เรามาเก็บดอกบัวนี้ไป” ลูกลิงตอบ พร้อมกับลงจะเก็บดอกบัว

        “เดี๋ยวก่อนท่าน!!” ผีเสื้อน้ำร้องห้าม

        “ผู้มีปัญญาอย่างท่าน อย่างต้องหอบดอกบัวเหล่านี้เองเลย ข้าจะช่วยหอบไปส่งให้”

ว่าแล้วผีเสื้อน้ำก็หอบดอกบัวตามหลังลูกลิงไป

        ลิงจ่าฝูงผู้เป็นพ่อ เห็นลูกลิงเดินมาแต่ไกล ซ้ำยังมีผีเสื้อน้ำหอบดอกบัวตามหลังมาอีกด้วย มันตกใจมาก คิดว่า ลูกลิงจะชักนำผีเสื้อน้ำมาฆ่าตน ด้วยความหวาดกลัวถึงขีดสุด มันถึงกับหัวใจแตกสลายสิ้นชีวิตลงในทันทีนั้นเอง

        บรรดาลิงที่เป็นบริวารทั้งหมด เห็นเหตุการณ์โดยตลอด จึงต่างพากันชื่นชมในคุณสมบัติอันเลิศล้ำของลูกลิง แล้วพร้อมใจกันยกย่อง แต่งตั้งให้เป็นจ่าฝูงของพวกตนสืบต่อไป
 

ประชุมชาดก

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดง ตโยธัมมชาดก จบแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า

ลิงจ่าฝูงผู้เป็นพ่อ ได้มาเป็นพระเทวทัต

ลูกลิง ได้มาเป็นพระองค์เอง

 

ข้อคิดจากชาดก

        ๑.วิสัยแม่โดยทั่วไป ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ย่อมรักลูกยิ่งกว่าชีวิต เพียงเริ่มรู้ว่าลูกถือกำเนิดในครรภ์ แม้ไม่ทันได้เห็นหน้า ก็ตั้งใจทะนุถนอมด้วยความรัก

ดังนั้น ผู้เป็นลูกทุกคนจึงควรคิดถึงบุญคุณของแม่ให้มาก และคิดตอบแทนคุณท่านให้เต็มที่ อย่ารอเวลา ถึงแม้จะยังเป็นเด็ก ไม่สามารถทดแทนบุญคุณท่านได้เต็มที่ อย่างน้อยที่สุด ก็อย่าทำความเสื่อมเสียให้ท่านช้ำใจ

        ๒. ในยุคใดที่โลกขาดคุณธรรมความดี ขาดความกตัญญูกตเวทีโดยสิ้นเชิงแล้ว ในยุคนั้น คนจะมีสภาพไม่ต่างกับสัตว์เดียรัจฉาน ในที่สุดก็เกิดสงครามฆ่าล้างโลกกัน

ชาดกเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้ตระหนักถึงคุณธรรม ความกตัญญูกตเวที มนุษย์สมัยนี้มีบางพวกเริ่มเข่นฆ่ากันในระหว่าง พ่อ แม่ ลูก จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ย่อมเป็นสัญญาณเตือนให้ระลึกว่า ประวัติศาสตร์โลกอาจซ้ำรอยได้

        ๓. คนที่มีคุณธรรมล้ำเลิศ คือ มีความเพียร ขยันขันแข็ง มีความกล้าหาญ และมีสติปัญญาฉลาดหลักแหลม ย่อมหาเพื่อนได้ไม่ยาก แม้คนที่เคยเป็นศัตรู ก็อยากกลับใจมาเป็นมิตร

        ๔. คนอันธพาล เป็นนักเลง เกเรไปเรื่อยๆ ถึงแม้โชคดี ไม่มีใครทำร้าย สักวันหนึ่งก็ต้องตายเพราะเหลี่ยมคมของตนเอง ดังสุภาษิตที่ว่า “ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว”

 

 

นิทานชากด, ตโยธัมมชาดก, ชาดกว่าผู้มีธรรม ๓ ประการ, ลิง, ยักษ์น้ำ, การ์ตูน
นิทานชาดก
ตโยธัมมชาดก
ชาดกว่าผู้มีธรรม ๓ ประการ

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.017284250259399 Mins