เรื่องที่ ๓ ทำความศักดิ์สิทธิ์ให้ แม้มิใช่เจ้าของ
เรื่องนี้ คุณจารีรัตน์ พิทยานุคุณ ภรรยาของ คุณประธาน พิทยานุคุณ กรรมการผู้จัดการบริษัทแสงสยามอินดัสเตรียล จำกัด เป็น ผู้เล่าให้ฟังว่า
เธอและสามีทราบข่าวการทำบุญสร้างพระที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์มาตั้งแต่ต้น ทั้งสองคนเต็มใจทำบุญในเรื่องนี้มาก แต่มีเรื่องขัดข้องตรงที่สามีของเธอป่วย ระบบประสาทบางส่วนของร่างกายมีปัญหา โดยเฉพาะมืือมีอาการเกร็ง ไม่สามารถจับปากกาเซ็นชื่อเบิกเงินจากธนาคาร บางครั้งพยายามเซ็นชื่อสำเร็จ ลายเซ็นกลับไม่เหมือนเดิม กระทั่งทางธนาคารไม่ยอมจ่ายเงินให้ อ้างว่าลายเซ็นไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้กับทางธนาคาร ทั้งสองสามีภรรยาจึงยังหาทางแก้ไขไม่ได้ ในใจก็คิดเกรงว่าองค์พระจะหมดไปเสียก่อน
ครั้นวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๔๑ มีเพื่อนผู้ชอบชักชวนผู้คนทำบุญท่านหนึ่งชื่อ คุณสุปราณี ชนะโรค แวะมาเยี่ยมที่บ้าน โดยสวมสร้อย คอแขวนพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุของเธอมาด้วย ในขณะที่คุณจารีรัตน์กับคุณสุปราณีคุยกัน คุณจารีรัตน์สนใจองค์พระที่ห้อยคออีกฝ่ายมาก จ้องมองไม่วางตา
คุณสุปราณีเห็นดังนั้น จึงถอดออกจากคอ ใส่ให้ในมืออีกฝ่ายเพื่อได้ชื่นชมใกล้ๆ คุณจารีรัตน์เล่าว่า "พอดิฉันได้รับองค์พระมาไว้ในอุ้งมือเท่านั้น รู้สึกถึงความอัศจรรย์ขององค์พระทันที ร่ายกายของดิฉันเย็นยะเยือก ใจมีปีติแผ่ไปทั่วร่างกายตั้งแต่สันหลังถึงต้นคอ มีน้ำตาไหล พรากออกมาเต็มหน้า ดิฉันมององค์ท่านอย่างพินิจพิจารณา เป็นวัตถุธาตุพิเศษที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต เมื่อจดจำได้แม่นยำดีแล้ว ใส่ท่านไว้ในอุ้งมือพนมอธิษฐานจิต ขณะนั้นดิฉันสัมผัสได้ว่ามีแสงสว่างเกิดขึ้นกลางองค์พระ ตอนแรกเป็นจุดกลมเล็กนิดเดียวแล้วค่อยๆ กว้างขึ้น ดิฉันจึงอธิษฐานจิตกับพระท่านว่า ขอให้คุณประธานผู้เป็นสามีหายจากอาการเจ็บป่วย ให้ลูกๆ หลานๆ คุณแม่ พี่ๆ น้องๆ อยู่เย็นเป็นสุข ทันใดนั้นแสงสว่างที่เป็นกลมๆ ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ทำให้รู้สึกปีติดีใจมาก คิดปรารถนาทำบุญสร้างองค์พระแกนกลาง เผื่อมีสิทธิ์เป็นเจ้าของพระมหาสิริราชธาตุบ้าง จะสร้างสัก ๒ องค์"
คุณจารีรัตน์เล่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นให้สามีฟัง พร้อมทั้งชักชวนสามีให้ทดลองไปเบิกเงินที่ธนาคารกันอีกครั้ง เผื่อจะสำเร็จ จะได้รับไปทำบุญสร้างองค์พระแกนกลางตามที่ตั้งใจ ผู้เป็นสามีก็เห็นดีด้วย ขณะนั้นเหลือเวลาอีกเพียงครึ่งชั่วโมงธนาคารก็จะปิดทำการ ระยะทางจากบ้านซอยสุขุมวิท ๗๗ ไปธนาคารกสิกรไทย สาขาสวนสยาม ค่อนข้างไกลและรถติดมาก คุณจารีรัตน์ใช้วิธีอธิษฐานจิตกับพระมหาสิริราชธาตุอีกครั้ง ขอให้ไปทันและเบิกเงินได้สำเร็จ ต้องการทำบุญขณะที่ใจมีศรัทธาเต็มเปี่ยม เชื่อว่าได้บุญมาก
ในที่สุดเดินทางไปถึงทันเวลาพอดี เมื่อพนักงานธนาคารให้คุณประธานเซ็นชื่อในใบเบิกเงิน เป็นเรื่องแปลกมาก เพราะเขียนได้คล่องนิ้วไม่แข็งเกร็ง ลายเซ็นไม่ผิดจากเก่า เจ้าตัวก็บอกภรรยาว่า ครั้งนี้ปากกาลื่นไหลคล่องมาก ทางธนาคารอนุมัติให้เบิกได้
รุ่งขึ้นทั้งคู่จึงพากันไปทำบุญสร้างพระแกนกลางที่วัดทันที
ปาฏิหาริย์ขององค์พระในเรื่องนี้ ที่เป็นแสงสว่างให้คุณจารีรัตน์สัมผัสได้ ก็คงเป็นพลังบุญที่ซ้อนทับทวีอยู่ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปาฏิหาริย์ให้คุณจารีรัตน์พบ เหมือนตามเจ้าของบุญให้ไปรับพระของขวัญของตนเองเสียที ยังมีความอัศจรรย์เรื่องสุขภาพของผู้เป็นสามี สามารถใช้งาน นิ้วมือได้ตามปกติ
นี่ขนาดพระมหาสิริราชธาตุองค์นั้นตนเองไม่ใช่เจ้าของ เพียงแค่ขอยืมมาไว้ในมือแล้วอธิษฐาน บังเกิดผลสำเร็จให้ในทันที
โดยปกติแล้วของศักดิ์สิทธิ์ที่มีอำนาจพิเศษต่างๆ นั้น มีที่มา ๓ อย่างคือ
๑.เป็นด้วยสิ่งของนั้นมีคุณสมบัติในตัวของตัวเองโดยธรรมชาติ เช่น มีพลังงาน หรือกระแสพลังบางอย่าง เช่น แม่เหล็ก เหล็กไหล ปรอท หรือแม้แต่พระมหาสิริราชธาตุ
๒.เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยผู้มีฤทธิ์ทางจิตบันดาลให้เป็นเช่น ผู้บรรลุการปฏิบัติธรรมขั้นสูง ใช้อำนาจสมาธิบรรจุคุณสมบัติพิเศษเข้าไว้ในสิ่งของ เช่น ของขลัง ของศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการปลุกเสกจากผู้มีฤทธิ์
๓.เกิดด้วยพลังใจของผู้มีศรัทธาอย่างแรงกล้าบันดาลให้เป็น เช่น ผู้ได้รับอันตรายร้ายแรง นึกถึงผู้ที่ตนเคารพนับถือมาก ตั้งใจอธิษฐานจิตร้องขอให้ได้รับการช่วยเหลือ สามารถประสบผลสำเร็จ
แต่สำหรับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุนั้น มีความพิเศษตรงที่เกิดขึ้นโดยมีองค์ประกอบครบทั้ง ๓ ข้อดังกล่าวแล้วคือ เนื้อธาตุบริสุทธิ์ มีพลังงานของตนเองประจำอยู่โดยธรรมชาติ พระเดชพระคุณหลวงพ่อตลอดจนพระภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกา ผู้สามารถปฏิบัติธรรมขั้นสูงสำเร็จ ร่วมกันอาราธนาบุญศักดิ์สิทธิ์จากพระนิพพานบรรจุไว้ และประการสุดท้าย ผู้เป็นเจ้าขององค์พระทุกคนมีใจศรัทธาเลื่อมใสอย่าง แท้จริง
ด้วยเหตุนี้พระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุจึงบันดาลสิ่งอัศจรรย์ ให้เห็นเป็นพิเศษมากกว่าธรรมดา