เรื่องที่ ๒๓ พระเปลี่ยนสีได้ตามกำลังบุญ
เรื่องนี้ คุณสมบูรณ์ จันทร์สง เป็นผู้เล่าว่า เธอรับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุมาเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ ทราบมาจากบางคนว่าบางครั้งกรอบองค์พระไม่แน่นนัก อาจหักได้ ถ้าเจ้าของทำให้แกว่งไปมาแรงๆ เธอจึงรีบนำองค์พระไปให้ช่างหุ้มพลาสติกสีใสๆ เพื่อให้เห็นองค์พระชัด พร้อมกับพระของขวัญชนิดเดียวกันของคุณสมจิต ซึ่งเป็นพี่สาว
กระทั่งถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑ เวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น. สังเกตเห็นองค์พระเปล่งแสงสีชมพูออกจากรูปพญานาคด้านหลัง และสีชมพูยังได้สะท้อนไปทั่วทั้งกรอบพลาสติก ทำให้กลายเป็นหุ้มองค์พระด้วยพลาสติก สีชมพูอ่อนสวยงาม เจ้าตัวคิดว่าเป็นอานุภาพพิเศษขององค์พระ จึงยิ่งนั่งสมาธิและสวดมนต์บทสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ วันละหลายๆ เที่ยวพร้อมทั้งสังเกตดูความเปลี่ยนแปลง
ปรากฏว่าวันใดนั่งสมาธิมาก สวดมนต์มาก สีชมพูจะเข้มมากเป็นพิเศษชัดเจน วันใดปฏิบัติธรรมน้อย สีจะจางซีดลงเป็นอัศจรรย์
เรื่องนี้หากไม่นึกถึงอานุภาพในแง่ความศักดิ์สิทธิ์ อาจเป็นไปได้ที่องค์ พระของคุณสมบูรณ์มีเนื้อสิทธิธาตุ อันเป็นธาตุสีแดงปนอยู่มาก เมื่อถูกความ ร้อนหรือพลังงานบางอย่าง ธาตุสีแดงอาจปล่อยไอระเหยตัวสีออกมาในอากาศ ทำให้เป็นสีชมพูขังอยู่ข้างในกรอบพลาสติก พลอยเห็นพลาสติกเป็นสีชมพูตามไปด้วย
ส่วนเรื่องสีชมพูเข้มหรืออ่อน ตามการปฏิบัติตนของเจ้าของในเรื่อง นั่งสวดมนต์ทำสมาธิมากหรือน้อยนั้น คงเป็นทำนองเดียวกัน อำนาจจิตที่มีเป็นกุศลย่อมทำให้เกิดพลังงานชนิดหนึ่ง มีกระแสแรงพอที่จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทำนองเดียวกัน
เรียกว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นคุณสมบัติพิเศษของเนื้อธาตุที่เป็น ส่วนผสมขององค์พระมหาสิริราชธาตุ อันนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน
อย่างไรก็ดี ผู้ที่เป็นเจ้าของพระมหาสิริราชธาตุทุกคน จะพบความจริงอยู่ข้อหนึ่งว่า องค์พระที่ตนเองได้รับไปนั้น มีลักษณะและคุณสมบัติตาม ผู้เป็นเจ้าของ รายไหนรายนั้น เช่นผู้มีทรัพย์มาก ฐานะการเงินดี องค์พระ มักมีเนื้อคำแก้วมณีค่อนข้างมากกว่าธาตุอื่น บางทีมองเป็นแผ่นทองเต็มเป็นปื้น ผู้ใดเป็นคนเข้มแข็ง ไม่ย่อท้อต่อชีิวิต พบอุปสรรคใดๆ เป็นนักสู้ตัวฉกาจอยู่เสมอ องค์พระของเขามักมีเนื้อธาตุพญาเหล็กเพชรดำค่อนข้างมากกว่าธาตุอื่น ส่วนผู้ทำสิ่งใดมักประสบความสำเร็จอยู่ตลอด มักมีเนื้อสิทธิธาตุค่อน ข้างมาก เหมือนได้พระเป็นสีแดงทั้งองค์
มีเจ้าของบางรายพบคุณสมบัติเฉพาะตนยิ่งกว่านั้น เช่น รายอุบาสิกา ถวิล (บุญทรง) วัติรางกูล ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เขียนบทความธรรมะเป็นธรรมทานแก่ผู้คน ปรากฏว่าองค์พระที่ท่านได้รับไป มีธาตุทั้ง ๓ อย่างละเท่าๆ กันตามที่ตัวจริงของท่านเป็น แต่ที่พิเศษคือตรงนิ้วชี้มือขวาขององค์พระมีเงา สะท้อนเป็นประกายใสสว่างออกมาจุดเล็กๆ เห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อใช้กล้องขยายส่องดูจึงเห็นว่าหินบริเวณนิ้วพระหัตถ์นั้นเป็นสีขาว ใสเหมือนเนื้อเพชร อุบาสิกาถวิลยืนยันว่า ในการเขียนบทความต่างๆ ท่านไม่ได้ใช้ปากกา แต่ใช้นิ้วชี้มือข้างขวาเพียงนิ้วเดียวกดตัวอักษรบนเครื่องพิมพ์ไปตามข้อความที่คิดได้ โดยไม่มีต้นฉบับ นิ้วชี้มือขวาของอุบาสิกาถวิล สร้างผลงานมีค่าให้ผู้คน พระของขวัญมหาสิริราชธาตุจึงมีลักษณะนิ้วพระหัตถ์พิเศษ