เรื่องที่ ๒๕ บุญส่งผลทันตาเห็น
คุณบุญเหลือ หาขุนทด เป็นผู้มาทำบุญที่วัดพระธรรมกายครั้งแรกประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๗ เลื่อมใสทุกสิ่งทุกอย่างของวัด ศรัทธาในการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา และบุคลากรทุกประเภทของวัด เมื่อตนเองมีความจำเป็นไม่สามารถเข้ามาช่วยกิจการของวัดเต็มตัว ก็คิดอยากทำมาหากินให้ร่ำรวย ช่วยนำเงินมาบำรุงวัดก็ยังดี แต่เมื่อไม่สามารถรวยได้เร็วดังใจ มีทรัพย์น้อยก็ทุ่มสุดกำลังที่มี
เมื่อครั้งทางวัดประกอบพิธีเททองคำหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ คุณบุญเหลือเล่าว่า ได้มาร่วมงานด้วย นั่งใกล้สาธุชนท่านหนึ่ง ท่านผู้นั้นนำทองคำมาร่วมทำบุญมีน้ำหนักถึง ๕๐ บาท โดยบอกว่าไม่ต้องเขียนใบอนุโมทนา เพราะเป็นทองของท่านเอง
คุณบุญเหลือรู้สึกแปลกใจในความร่ำรวย จึงถามตรงๆ ว่า "พี่ทำงานอะไรหรือครับ จึงมีรายได้ซื้อทองทำบุญได้มากมายขนาดนี้"
แทนที่ฝ่ายนั้นจะตอบคำถามว่าทำอาชีพอะไร กลับย้อนถามคุณบุญเหลือว่า
"นี่คุณ..สงสัยว่าคงเพิ่งมาวัดนี้ละกระมังเนี่ย"
"ครับ เพิ่งมา" คุณบุญเหลือรับคำ อีกฝ่ายจึงว่า
"มิน่าเล่า จึงไม่รู้อะไร" แล้วกล่าวต่ออย่างหนักแน่น
![อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ พระดูดทรัพย์ เรื่องที่ ๒๕ บุญส่งผลทันตาเห็น](http://www.kalyanamitra.org/th/images/phramahasiri/phramahasiri325_01.jpg)
"ขอให้คุณมาวัดนี้บ่อยๆ นะ แล้วคุณจะเข้าใจเอง สำหรับตัวพี่ขอยืนยันกับคุณว่า เมื่อมาวัดนี้ตอนแรกๆ น่ะ มีเงินทำบุญครั้งละไม่เกินร้อยบาทหรอก แต่ไม่เคยย่อท้อ ตั้งใจทำบุญเรื่อยมา ถึงเวลานี้พี่รู้แล้ว ทำบุญที่วัดนี้หนึ่งเท่า ผลบุญส่งให้เกินสิบเท่า ทันตาเห็น จากที่เมื่อก่อนพี่ไม่มีอะไร เดี๋ยวนี้มีพอทำบุญด้วยทองคำครั้งหนึ่งหนักห้าสิบบาทนี่แหละ ถ้าเป็นเงินก็ครั้งละเป็นแสนเป็นล้าน พี่ก็มีทำ นี่นะ ถ้าพี่ไม่ได้มาทำบุญที่วัดนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตพี่จะเป็นอย่างไร ที่แน่ๆ คือคงจะจนอยู่อย่างเดิม"
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
คุณบุญเหลือจำคำบอกเล่าเหล่านั้นได้แม่นยำจนทุกวันนี้ เพราะนับแต่วันนั้นก็ทุ่มเททำบุญเรื่อยมา ทรัพย์หมดก็อธิษฐานจิตขอพรให้มีทรัพย์มาอีก รายได้เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดมาไม่ขัดสน ก่อนเข้าวัดปลูกบ้านได้เพียงชั้นบนชั้นเดียว ข้างล่างปล่อยว่างอยู่ ยังมีหนี้ธนาคารค่อนข้างมาก เวลานี้หมดหนี้สิน มีรถขับ มีทุกอย่างสะดวกสบายพอสมควรแก่ชีวิต ยังช่วยงานวัดเป็นประจำอยู่อย่างหนึ่ง คือจัดรถพาสาธุชนมาร่วมทุกงานบุญใหญ่ของวัด รวมทั้งทำบุญอย่างต่อเนื่อง ทรัพย์ไหลมาไม่มีขาดมือ
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
การทำบุญแต่ละครั้งที่ผ่านมา ทั้ง ๔ ปี ไม่มีความประทับใจที่ยิ่งใหญ่ครั้งใดเท่าการทำบุญครั้งที่ได้พระมหาสิริราชธาตุ เพราะมีเรื่องประหลาดใจแก่คุณบุญเหลือเอง ดังนี้
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
คุณบุญเหลือมีอาชีพขายประกัน จึงพอมีโอกาสปลีกตัวให้ว่าง ขึ้นไปปฏิบัติธรรมพร้อมหมู่คณะที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อนวันบวชอุบาสิกาแก้ว เวลานั้นทราบเรื่องการทำบุญสร้างพระที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์แล้ว ยังไม่คิดกระตือรือร้น เนื่องจากมีเงินเพียงเล็กน้อย ทั้งทราบว่าองค์พระมีจำกัด กว่าจะหาเงินได้พอก็คงหมดไปก่อน แม้รู้สึกเสียดายก็ต้องตัดใจเพราะไม่ทราบ จะทำอย่างไร
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
ขณะที่ปฏิบัติธรรมอยู่กับหมู่คณะครั้งนั้น ได้ยินเพื่อนๆ กัลยาณมิตรคุยกันถึงคุณสมบัติของเนื้อธาตุ และความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุ พร้อมทั้งได้เห็นภาพจากปกเทป รู้สึกชื่นชมว่าสวยงามมาก อยากได้ไว้บูชา เมื่อมีความหวังน้อยเพราะเงินขัดสน ก็ต้องขอทดลองเรื่องอธิษฐานจิต
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
เวลาปฏิบัติธรรม คุณบุญเหลือจึงนึกอธิษฐานว่า กลับจากปฏิบัติธรรม แล้วขอให้ขายประกันได้มากๆ ให้เป็นอันดับหนึ่งของฝ่ายและเป็นที่หนึ่งของสาย เพื่อจะได้เงินมาสร้างพระตามที่ต้องการ
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
พอวันที่ ๔ เริ่มปฏิบัติธรรมได้ดีขึ้น ไม่ปวดเมื่อยเหมือนทุกวัน แต่ยังนึกดวงแก้วหรือองค์พระไม่ออก คุณบุญเหลือจึงเปลี่ยนไปนึกถึงพระของขวัญต่างๆ ที่ได้รับไปจากทางวัดตลอดมาหลายชนิดหลายรุ่น ก็พอนึกได้ไม่ชัดเจนอะไร ท้ายที่สุดนึกถึงพระมหาสิริราชธาตุ ตามภาพที่เห็นจากปกเทป ทันทีทันใดพลันเห็นภาพพระของขวัญนั้นสว่างพรึ่บขึ้นกลางท้อง เป็นนิมิตที่ชัดเจนมาก สว่างใสหมดทั้งองค์ สักพักหนึ่งจึงหายไป
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
"ความรู้สึกบอกผมว่า พระมหาสิริราชธาตุนี้มีอานุภาพมาก เราคงมีบุญอยู่บ้าง ท่านจึงปาฏิหาริย์ให้เห็น ยังไงเสีย เราต้องพยายามสร้างพระแกนกลางเพื่อให้ได้ท่านมาไว้บูชา" คุณบุญเหลือปรารภกับตนเอง
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
ใจของคุณบุญเหลือจดจ่ออยู่กับภาพองค์พระตลอดมาเรื่อยๆ ด้วยความปรารถนาที่ตั้งใจไว้ กลับจากเชียงใหม่รีบหาเงินทันที พอไปทำงานที่บริษัทวันแรก บริษัทจ่ายสินไหมให้ลูกค้าที่มีปัญหาขาดผลบังคับ ซึ่งคุณบุญเหลือทำเรื่องขอผ่อนผันไว้ ทำให้ลูกค้าประทับใจ ขอทำประกันจ่ายล่วงหน้า ๓ ปี รวมทั้งมีลูกค้าส่วนหนึ่งนำเงินมาใช้หนี้ วันนั้นสามารถรวมเงินส่วนที่ตนเองมีสิทธิ์ได้หมื่นบาทเศษ ยังขาดเงินอีก ๒ หมื่นบาท คุณบุญเหลืออยากได้ให้ครบในเย็นวันนั้น พอดีมีเพื่อนรุ่นน้องเดินเข้ามานำพระมหาสิริราชธาตุของเขามาให้ดู ถามว่า "พี่ไม่อยากได้บ้างหรือ" คุณบุญเหลือยืนยันว่า "อยากได้มากจริงๆ แต่เพิ่งได้เงินมาเพียงหมื่นเดียว ขาดอยู่อีกตั้ง ๒ หมื่น"
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
เพื่อนนำพระมหาสิริราชธาตุของเขาวางลงในมือคุณบุญเหลือแล้วพูดว่า "พี่.. อธิษฐานขอพระท่าน" คุณบุญเหลือรับพระพนมไว้ในมือทำสมาธิชั่วครู่แล้วอธิษฐานด้วยเสียงดังๆ สี่ถึงห้าครั้ง
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
"ขอให้ผมได้เงินอีกสองหมื่นบาทวันนี้ เพื่อสร้างพระๆๆๆ"
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
เวลานั้นใกล้เวลาเลิกงานเต็มที ประมาณ ๒ ชั่วโมงต่อมา มีอดีตทีมงานคนหนึ่งมาหา ใช้หนี้ที่ยืมไป ๓ ปีแล้ว ๒ หมื่นบาทพอดี ความจริงเป็นหนี้ที่คุณบุญเหลือคิดว่าสูญแล้วแน่นอน คุณบุญเหลือได้เงินครบอย่างน่าอัศจรรย์แท้จริง เพราะเชื่อมั่นในอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุมาก จึงอยากชวนทุกคนที่ได้ทราบเรื่องทำบุญให้ได้ ให้มีพระของขวัญดีๆ ไว้บูชาประจำตระกูลทีเดียว แล้วตระกูลจะมั่งคั่งร่ำรวย อยู่ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไปแน่นอน คุณบุญเหลือยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า
![](http://www.kalyanamitra.org/images/spacer.gif)
"รีบทำบุญ อย่ารีรอต่อไปอีกเลย ขืนช้าอยู่อาจจะหมด แม้ท่านจะไม่มีเงินก็ขอให้ดูเรื่องของผมเป็นตัวอย่างนะครับ ขอเพียงตั้งความปรารถนาไว้ในใจอยู่เสมอๆ แล้วท่านจะเป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้ประสบอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ด้วยตนเอง เหมือนที่ผมได้ประสบมาแล้ว แม้งานในหน้าที่อาชีพของผมก็ได้เป็นที่หนึ่งทั้งฝ่ายและสายสมตามความปรารถนา กระทั่งได้ตำแหน่งเป็นผู้จัดการเขตไทยประกันชีวิตครับ"