เรื่องที่ ๖๑ เปลี่ยนแปลงคนให้มีสัมมาทิฐิ
คุณรานี บุนนาค เล่าว่า เมื่อได้ยินพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านแนะนำว่า ผู้ได้รับพระมหาสิริราชธาตุไปแล้ว ควรไปให้ช่างทำกรอบพลาสติก เพราะพระของขวัญองค์นี้เป็นสุขุมาลชาติ ถูกกระทบกระแทกบ่อยๆ อาจชำรุดเสียหาย คุณรานีจึงชวนลูกชาย ลูกสาว และหลานสาวไปที่ร้านทำกรอบพระ
ผู้เป็นช่างชื่อคุณวิรัช อินทรประเสริฐ เมื่อเห็นองค์พระมหาสิริราชธาตุ บอกกับคุณรานีว่า พระแบบนี้เคยทำกรอบใส่ให้หลายองค์แล้ว "พอคุณเดินผ่านมา ผมรู้ทันทีว่า คนมีบุญมาให้ผมใส่กรอบองค์พระอีกแล้ว ขณะที่ช่างเริ่มลงมือทำกรอบ คุณรานีได้เล่าเหตุการณ์ปาฏิหาริย์เมื่อวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ที่ได้พบมาให้ช่างฟัง ช่างพูดขึ้นว่า "ผมก็เป็นนักปฏิบัติธรรมเหมือนกันครับ แต่ผมเคารพครูบาอาจารย์ของผมมั่นคง ใครชวนไปปฏิบัติอย่างอื่น ไม่สำเร็จ"
ช่างพูดทำนองป้องกันตนเอง ไม่ให้คุณรานีและลูกหลานชวนไปปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกาย
คุณรานีจึงเริ่มอธิบายว่า "การปฏิบัติธรรมหรือนั่งสมาธิ เริ่มต้นได้ถึง ๔๐ วิธี ปฏิบัติแบบไหนใน ๔๐ วิธีนี้ก็ได้ ที่เหมาะสมกับอุปนิสัยใจคอของตน"
ลูกสาวคุณรานีกล่าวย้ำคำพูดของผู้เป็นมารดาว่า "พระเดชพระคุณหลวงพ่อของเราสอนไว้ว่า ในการปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งเป็นการเริ่มต้นใน ๔๐ วิธีนี้ หากเอาใจกำหนดไว้ไม่ถูกที่ตั้ง จะไม่มีทางเข้าถึงพระธรรมกายในตัวเป็นอันขาด ต้องกำหนดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายเหนือสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วไม่พบพระธรรมกาย จะตัดอาสวกิเลสไม่ได้ ศูนย์กลางกายตรงนี้แหละ คือทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา เป็นทางสายเอกสายเดียวเรียกว่าเอกายนมรรค เรื่องการปฏิบัติธรรมโดยกำหนดใจไว้ที่ศูนย์กลางกายนี้ เป็นวิธีที่หายสาบสูญไปนานมาก ตั้งแต่หลังพุทธกาลเพียง ๕๐๐ ปี หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านเพิ่งค้นเจอใหม่อีกครั้ง
พวกฤาษีชีไพรดาบสทั้งหลาย หรือแม้เหล่าพุทธสาวกอย่างเราๆ หากไม่รู้จักเอาใจไว้่ที่ศูนย์กลางกาย ก็ไม่สามารถตัดอาสวกิเลสได้ ทำได้อย่างมากเพียงให้กิเลสสงบชั่วคราว และทำอภิิญญาจิตบางอย่าง เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์ ระลึกชาติได้ รู้ใจผู้อื่น แต่จะไปถึงระดับสิ้นอาสวกิเลส เข้าพระนิพพานทำไม่ได้ ได้อย่างมากแค่ตายแล้วไปเกิดเป็นอรูปพรหมเท่านั้น
ส่วนการทำวิปัสสนา เราไม่สามารถทำวิปัสสนาด้วยสติปัญญาของระดับกายเนื้อมนุษย์ได้ เพราะมีกิเลสหุ้มดวงปัญญาอยู่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อของเราสอนว่า การทำวิปัสสนาต้องใช้ธรรมจักษุ ตาของกายธรรมเป็นตารู้รอบ ต้องใช้ปัญญาระดับนั้นเป็นอยู่เหนือจิต การเอาจิตพิจารณาในมหาสติปัฏฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม ต้องใช้ปัญญาระดับกายธรรม ไม่ใช้ปัญญาแค่กายมนุษย์หรอกค่ะ" ทั้งคุณรานีและลูกสาวช่วยกันอธิบาย กระทั่งคุณวิรัชพูดว่า "ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายพูดเก่งทุกคน"
อย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านี้คงกระทบใจคุณวิรัชอยู่บ้าง ตรงที่ว่าปัญญาของกายมนุษย์ทำวิปัสสนาไม่ได้ เพราะคุณวิรัชก็ใช้ปัญญามนุษย์นี่แหละทำสติปัฏฐาน ๔ พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม ของกายคุณวิรัชเองหลายปีมานานเต็มที ยังไม่ปรากฏว่าเกิดการสิ้นกิเลส หรือได้ความสามารถพิเศษอย่างอื่น ได้แค่เชื่อมั่นว่า ตนเองทำจิตตภาวนาเป็น และอธิษฐานให้มีผู้มาขอความช่วยเหลือ และประสบความสำเร็จบ้างเป็นบางราย
คุณวิรัชเงียบเสียงไปแล้วก็จริง แต่ไม่ใช่เงียบเพราะเห็นด้วย เงียบเพราะไม่ทราบจะหาเหตุผลอะไรมาคัดค้าน ไม่รู้จักเรื่องกายต่างๆ ที่ซ้อนอยู่ภายในกายมนุษย์ ในใจของคุณวิรัชคงจะคิดอะไรที่ไม่สมควร เช่นโต้เถียงคัดค้านคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อยู่กระมัง จึงมีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น คือไม่สามารถล้อมกรอบองค์พระได้สำเร็จ พลาสติกจะยับย่นเหมือนถูกไฟลนทุกครั้งที่วางองค์พระลงไป จะแก้ไขอย่างไร อย่างไร จนเหงื่อไหลไคลย้อย ก็แก้ไม่ตก ในที่สุดคุณรานีเห็นช่างหลับตาทำสมาธินิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ออกจากสมาธิแล้วจึงลงมือทำได้สำเร็จ
ช่างเล่าว่า "ผมขอสารภาพ ผมเป็นคนดื้อ เมื่อกี้ผมฟังคำแนะนำจากพวกคุณแล้ว ไม่ยอมเชื่อนึกคัดค้าน หลวงพ่อสดหรือหลวงพ่อองค์นี้ก็ไม่ทราบ (พร้อมกับก้มมองที่พระมหาสิริราชธาตุ) ทำโทษผม ทำให้ผมใส่กรอบท่านไม่ได้ ทั้งที่ผมก็เคยใส่กรอบพระอย่างนี้มาหลายองค์แล้ว ผมเลยต้องทำสมาธิตั้งใจขอขมาท่าน แล้วจึงทำได้สำเร็จนี่แหละครับ ผมบอกท่านว่า นี่เป็นอาชีพของผม ขอให้ผมทำสำเร็จ จึงทำได้ แหมศักดิ์สิทธิ์จริงๆ "
ลูกสาวคุณรานีเห็นว่าช่างมีจิตใจอ่อนลง จึงคุยเพิ่มเติมให้กำลังใจว่า "การปฏิบัติธรรมโดยกำหนดใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย นี่ง่ายที่สุดเลยค่ะ ตรงที่สุดด้วย เด็กๆ ก็ปฏิบัติได้ หลวงพ่อท่านสอนให้เราเอาใจไปไว้ที่องค์พระในตัวเราเลย เพราะพระอยู่ที่ศูนย์กลางกายเราอยู่แล้ว ไปไหนมาไหนจะอยู่อิริยาบถใดก็ตาม นึกถึงท่านให้ตลอดเวลา ถ้าเกรงจิตใจจะฟุ้งไปเรื่องอื่น ก็ภาวนาในใจว่า สัม-มา-อะ-ระ-หัง สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง ซึ่งเป็นพระนามหนึ่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่องในใจเหมือนพุทธานุสติไงคะ"
ช่างตอบอย่างยอมรับมากขึ้นว่า "อย่างนั้นหรือครับ ทึกทักเอาก่อนเลยหรือว่า มีองค์พระอยู่ที่นั่น แล้วท่อง สัมมาอะระหัง เท่านั้นใช่ไหม คำนี้ผมฟังแล้วขนลุกเลย" พูดตอบพร้อมกับชี้ให้ดูขนที่แขนของเขาลุกตั้ง
เมื่อทำกรอบใส่องค์พระเรียบร้อย ลูกค้าทั้ง ๔ คนจะลากลับ ช่างพูดว่า "คืนนี้ผมจะเริ่มปฏิบัติธรรมตามที่พวกคุณแนะนำ" พร้อมทั้งให้ชื่อ นามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์
รุ่งเช้า คุณรานีและลูกชายไปหาช่าง ให้ใส่กรอบพระเพิ่มอีก ๖ องค์ พบหน้ากันช่างพูดว่า "เมื่อคืนตอนยังไม่หลับ ผมท่อง สัมมาอะระหัง ตลอดเลยครับ"
สัปดาห์ถัดมา ลูกสาวคุณรานีโทรศัพท์ไปเพื่อบอกว่าจะนำองค์พระไปให้คุณวิรัชใส่กรอบอีก ฝ่ายนั้นบอกว่า ตอนนี้ทุกวันพฤหัสบดีตอนเย็น ได้ไปนั่งปฏิบัติธรรมที่ศูนย์กัลยาณมิตร บ้านของคุณหมออภิวัฒน์ ที่ซอยอยู่เย็น
ต่อมาอีกสัปดาห์หนึ่ง คุณรานีโทรศัพท์ชวนคุณวิรัชไปวัด ในวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ได้รับคำตอบแบ่งรับแบ่งสู้ แต่เล่าว่า "เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วมา ฝนตกตอนเย็น ผมยังขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าสายฝนไปปฏิบัติธรรมที่ศูนย์เหมือนเช่นเคย ไม่ให้เสียสัจจะของตนเองที่ตั้งใจไว้" ทุกคนในครอบครัวของคุณรานีพากันอนุโมทนาและขออนุญาตนำเรื่่องของคุณวิรัชมาลงในหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ซึ่งคุณวิรัชไม่ขัดข้อง
น่าชื่นใจที่ครอบครัวของคุณรานี บุนนาค เป็นครอบครัวสัมมาทิฏฐิ มีอัธยาศัยเหมือนกัน ชอบประกอบบุญกุศล ไม่มีใครขวางใคร การดำเนินชีวิตภายในครอบครัวจึงราบรื่นสงบสุข ทุกคนมีสุขภาพจิตดี โดยเฉพาะคุณรานี มีลูกชาย ลูกสาว และหลานมาเข้าวัดพร้อมบุพพการี คุณรานีย่อมมีความสุขใจมาก ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
คุณวิรัชช่างทำกรอบพระพลาสติก ทำงานไม่ได้ เมื่อวางองค์พระลงไปที่แผ่นพลาสติก แล้วแผ่นพลาสติกกลับยับย่นเหมือนถูกไฟลน นั่นแหละอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ความคิดอกุศลต่อต้านคัดค้านคำสอนของหลวงพ่อ ก็เหมือนมีใจไม่เคารพในพระธรรมอันบริสุทธิ์ บาปจึงเกิดขึ้น บาปทำให้จิตใจเร่าร้อนไม่เป็นสุข พระมหาสิริราชธาตุสร้างขึ้นด้วยธาตุมีฤทธิ์พิเศษ สามารถซึมซับเอาความร้อนในจิตใจคนที่อยู่ใกล้ในเวลานั้น จึงเกิดปฏิกิริยาขึ้นที่เนื้อแผ่นพลาสติก
ด้วยเหตุนี้ คุณวิรัชจึงต้องพบกับอานุภาพขององค์พระมหาสิริราชธาตุ จนเหน็ดเหนื่อยเหงื่อไหลไคลย้อยแก้ไขไม่ตก เมื่อรู้สำนึกผิดที่คิดอกุศลล่วงเกินทั้งพระธรรม ทั้งพระสงฆ์อย่างหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คิดขอขมาโทษขึ้นมา ตอนนี้จิตเป็นกุศลแล้ว จิตมีสภาพเย็น ปัญหาก็จบลง
การที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อแนะนำว่า "ถ้าจะให้เพิ่มพูนอานุภาพ ต้องสวดสรรเสริญท่านทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง นึกถึงท่านบ่อยๆ ผูกสมัครรักใคร่ในองค์ท่าน พูดจาโต้ตอบกันเหมือนมนุษย์พูดกันอย่างนี้แหละ พูดไปคุยไป แล้วก็น้อมท่านไว้ตรงกลางกาย อายตนะเสียงทิพย์จะได้ก้องไปถึงผู้ผลิตพระของขวัญ ท่านจะได้ส่งผังสำเร็จลงมาซ้อนในกลางตัวเรา บันดาลความปรารถนาของเราให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์" จึงเป็นความจริงที่สุด ใจของผู้อ่อนน้อมในพระรัตนตรัย เป็นใจเย็นที่ส่งผ่านองค์พระไปยังพระนิพพานได้