เรื่องที่ ๑๑๑ ช่วยดับไฟไหม้ได้ทัน
ใกล้จะถึงเวลา ๖ ทุ่ม มีคนมากดกริ่งที่หน้าร้าน และเคาะประตูเรียกเสียงดังโครมคราม จึงออกไปดู เพื่อนบ้านตะโกนบอกว่า
ไฟไหม้ห้องที่ติดอยู่กับห้องของคุณทวีชัย จึงวิ่งออกไปดู เห็นทั้งควันทั้งเปลวไฟพุ่ง ออกมาทางหน้าต่างบ้านที่อยู่ติดกัน
คุณทวีชัยรีบวิ่งขึ้นไปปลุกทุกคนในบ้านให้ตื่นขึ้นหนีไฟ ต่างพากันออกจากบ้านไปยืนที่ถนน โดยไม่ได้นำสิ่งมีค่าอะไรติดตัวออกไปเลย เวลานั้นคุณทวีชัยเกิดนึกถึงเอกสารสำคัญต่างๆ ในห้องนอนชั้น
สอง จึงรีบวิ่งกลับขึ้นไป เมื่อเปิดประตูห้องนอนก็มีควันไฟคลุ้งเต็มไปหมด หายใจแสบจมูกมาก
ทันใดนั้นนึกถึงพระมหาสิริราชธาตุที่ตัวเองคล้องอยู่ที่คอ จึงเรียกเสียงดังๆ ว่า "ช่วยลูกด้วย ช่วยลูกด้วย พระมหาสิริราชธาตุช่วยลูกด้วย หลวงพ่อสดช่วยลูกด้วย" พอเรียกให้ท่านช่วย อาการแสบจมูกก็หายไป คุณทวีชัยรีบหยิบเอกสารสำคัญ ตลอดจนเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ในตู้ออกมา ซึ่งในเวลานั้นกลับหายใจได้เป็นปกติไม่แสบจมูกเลย
ลูกชายรีบตะโกนเรียกพ่อให้ออกจากบ้านด้วยความเป็นห่วง คุณทวีชัยออกมาดูไฟ เห็นไหม้ที่ชั้นสองของบ้านต้นเพลิง และลามขึ้นไปที่ชั้นสาม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเริ่มมาถึงแล้ว กำลังดับเพลิงกันอยู่
คุณทวีชัย นึกถึงพระมหาสิริราชธาตุ และหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตลอดเวลา "หลวงพ่อช่วยด้วย หล
วงพ่อช่วยด้วย อย่าให้ไฟไหม้บ้านผม อย่าให้ถูกฉีดน้ำจนทรัพย์สินเสียหายหมด ถ้าไฟไหม้บ้านผม เวลาผมชวนใครทำบุญสร้างพระ ใครจะ
เชื่อผม เขาก็จะย้
อนถามว่า คุณทำบุญสร้างองค์พระ ได้พระมหาสิริราชธาตุแล้ว คุยว่าศักดิ์สิทธิ์นักไม่ใช่หรือ แล้วนี่อะไร พระไม่เห็น
ภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตั้งบูชาอยู่ คุณทวีชัยอธิษฐานจิตตลอดว่า "หลวงพ่อต้องช่วย พระมหาสิริราชธาตุต้องช่วย" ยืนเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอยู่นานถึง ๒ ชั่วโมง ไฟดับลง รถดับเพลิงกลับไปกันหมดแล้ว
เมื่อมาสำรวจความเสียหาย เป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก ในบ้านไม่มีสิ่งใดเสียหายเลย ฝาผนังด้านที่ติดบ้านต้นเพลิงก็อยู่ในสภาพปกติ ไม่เปลี่ยนสีเพราะความร้อน น้ำที่รถดั
บเพลิงฉีดก็ไม่เข้ามาเปียกในบ้าน มีเพียงละอองดำๆ ติดอยู่ที่ผ้าม่านหน้าต่าง และทางฝาห้องเล็กน้อย นอกนั้นอยู่ในสภาพเรียบร้อยปกติ
ตรงกันข้ามกับบ้านที่ติดกับบ้านต้นเพลิงอีกด้านหนึ่ง กระจกบานเกร็ดแตกละเอียดทุกบาน มีน้ำเปียกนอง ข้าวของเสียหาย ทำความสะอาดกันทั้งอาทิตย์ก็ยังไม่เรียบร้อย ส่วนบ้านต้นเพลิงไหม้หมดทั้งชั้นที่ ๒ และชั้นที่ ๓
สารวัตรตำรวจที่มาดูแลตรวจสถานที่ ยังพูดด้วยความแปลกใจว่า บ้านคุณทวีชัยได้รับความเสียหายน้อยม
าก เหมือนอยู่ห่างกับบ้านต้นเพลิงสัก ๓-๔ หลัง
วันรุ่งขึ้นเมื่อเพื่อนบ้านทราบว่า บ้านของคุณทวีชัยไม่มีอะไรเสียหายจึงพากันแปลกใจ ซึ่งภายหลังมีคนมาเล่าให้ฟังว่า
เมื่อตอนไฟไหม้ เขามองเห็นหลวงพ่อองค์หนึ่งมาเดินอยู่แถวหน้าบ้านของคุณทวีชัย เดินกลับไปกลับมา จากนั้นมีพวกแม่ค้าขายของฝั่งตรงข้ามมาบอกอย่างเดียวกันอีกหลายคนว่า ขณะไฟกำลังลุกไหม้ และรถดับเพลิงยังมาไม่ถึง มีหลวงพ่อองค์หนึ่งมาเดินวนเวียนอยู่หน้าบ้านคุณทวีชัย ท่านมองขึ้นมองลงที่ตัวบ้าน หลวงพ่อองค์นั้นรูปร่างค่อนข้างล่ำสัน เดินหลังค่อมนิดๆ ห่มจีวรสีเหลืองกลางๆ ไม่อ่อน ไม่เข้ม เดินเท้าเปล่า ไม่ใส่รองเท้า
คุณทวีชัยฟังคำบอกเล่าของคนเหล่านั้นแล้ว ขนลุกทั้งตนเองและคนในครอบครัว
เพราะคุณทวีชัยยืนอยู่ห่างจากหน้าบ้านไปราว ๑๐ เมตร ไม่มีใครมองเห็นพระภิกษุ ยิ่งผู้เล่ามาบอกว่า ท่านเดินอ้อมไปด้านหลังบ้านแล้วหายไปเลย ก็ยิ่งน่าแปลกใจยิ่งขึ้น เพราะขณะเดินอ้อม ท่านต้องผ่านจุดที่คุณทวีชัยยืนอยู่ เป็นไปได้อย่างไรที่มองไม่เห็นพระองค์นั้น ผู้เล่ายังพูดต่อไปว่า หลวงพ่อองค์นั้นท่านมองแต่บ้านของคุณทวีชัย ไม่มองบ้านอื่นเลย แต่ไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปทัก
คุณทวีชัยมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่ไฟไหม้บ้านที่อยู่ติดกัน แต่ไม่ลามไปถึงบ้านของคุณทวีชัย เป็นเพราะอานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ และหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ช่วยไว้อย่างแน่นอน