เรื่องที่ ๓๕๙เพชณฆาตฟ้าผ่า
สายฟ้าผ่าเปรี้ยง! ลงมายังบริเวณที่คุณแม่นั่งอยู่ สิ่งของที่อยู่บริเวณนั้น แตกเสียหายพังพินาศทันที
คุณสมนึก สุเจริญลาภ และลูกสาว น้องเชอรี่
|
คุณสมนึก สุเจริญลาภ อยู่ที่จังหวัดชลบุรี เล่าว่า ตนเองเริ่มเข้าวัดตอนธุดงค์ปีใหม่ ปี พ.ศ.๒๕๓๗ ประทับใจมาก เพราะการตัดสินใจมาอยู่ธุดงค์ครั้งนี้ ทำให้ตนเองได้วิถีชีวิตที่ดีงามจากการได้มาอยู่ธุดงค์ปีใหม่ เพื่อให้สิ่งดีๆ สำหรับชีวิต ตามคำชวนของกัลยาณมิตรชุมพล มั่นจิต ตลอดระยะเวลาการอบรม ๓ วัน ที่ได้มาพักกายพักใจ ในบุญสถานแห่งนี้ ทำให้มีโอกาสได้ศึกษาธรรมปฏิบัติเบื้องต้น สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี โดยการรักษาศีลเป็นประจำ หมั่นให้ทานเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน และฝึกสมาธิ เพื่อให้จิตใจได้พักผ่อน พบความสุขที่เกิดจากความสงบที่เปี่ยมไปด้วยพลังเบิกบานพร้อมที่จะเผื่อแผ่ความรู้สึกนี้ไปยังคนรอบด้านขณะเดียวกันก็ได้มีโอกาสสำรวจข้อบกพร่องของตนเองเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข
เมื่อคุณสมนึกมีครอบครัวก็ได้นำหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาจากวัดพระธรรมกายมาประพฤติปฏิบัติในการครองเรือน ทำให้ครอบครัวมีแต่ความสุขและอบอุ่น คุณสมนึกและคุณศรีวรรณเข้าวัดพระธรรมกายเป็นประจำเลยทำให้ลูกสาวชื่อน้องเชอรี่ พลอยได้เข้าวัดสั่งสมบุญพร้อมคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่อยู่ในท้อง และทั้งสองไม่ลืมที่จะทำหน้าที่ของลูกกตัญญูได้พาคุณพ่อคุณแม่ของคุณศรีวรรณได้สั่งสมบุญติดตัวด้วย โดยได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้ท่านทั้งสองโดยการจารึกชื่อท่านไว้ใต้ฐานพระ โดยเฉพาะคุณแม่สร้างให้ท่านแล้วถึง ๔ องค์ เพราะ คุณแม่ท่านรักบุญ มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ตักบาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิเป็นประจำ
ครอบครัวของคุณสมนึก
(จากซ้าย ภรรยาคุณสมนึก, น้องเชอรี่, คุณแม่ของคุณสมนึก, คุณสมนึก) |
ครอบครัวธรรมกายของคุณสมนึกและคุณศรีวรรณพบกับอานุภาพบุญที่ีคอยปกป้องและรักษาให้รอดปลอดภัยอย่่างอัศจรรย์
เมื่อช่วงเดือน ตุลาคม ๔๑ ปลายปีที่แล้ว คุณศรีวรรณ ได้พาลูกสาวคือน้องเชอรี่ ตอนอายุประมาณ ๗-๘ เดืือน ไปเยี่ยมคุณแม่ที่บ้านสวนที่อำเภอศรีราชา อากาศในวันนั้นร้อนอบอ้าวท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆก้อนใหญ่ ดำทมึน เริ่มมีพายุร้อนพัดเข้ามาเป็นช่วงๆ และทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงฟ้าผ่่่าคะนอง เปรี้ยงปร้าง ต้นไม้ใหญ่ในสวนลู่ไปตามกระแสพายุ ประกายสายฟ้าแลบเป็นระยะๆ เมื่อคลื่นแม่เหล็กบนท้องฟ้ามากระทบกัน ฝนเริ่มลงเม็ดบางครั้งต้องสะดุ้ง เสียงฟ้าผ่าลงมาจากที่ไกลๆ ขณะนั้นคุณศรีวรรณกำลังนั่งป้อนข้าวให้น้องเชอรี่ และกลัวลูกจะร้อนจึงนำพัดลมมาเปิดใกล้ๆ ตัว ส่วนคุณแม่ทานข้าวเสร็จแล้วจึงนำจานไปล้างที่ชานนอกบ้าน มีโอ่งน้ำมังกรใบโตๆ เรียงรายบรรจุน้ำอยู่ นั่งล้างจานข้างโอ่ง ฟ้ายังคงคะนองอยู่แต่ก็ชินสำหรับชาวสวนชนบท แม่นั่งล้างจานใกล้จะเสร็จอยู่เหลือแค่ล้างน้ำเปล่าครั้งสุดท้าย แล้วเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น สายฟ้าผ่าเปรี้ยง! ลงมาบริเวณที่คุณแม่นั่งอยู่ สิ่งของที่อยู่บริเวณนั้นแตกเสียหายพังพินาศ แม้กระทั่งเสาปูนต้นขนาด ๘"x๘" ถูกสายฟ้าฟาดแตก ปูนหลุดกระเด็นออกจากต้นเสาถึง ๒ ต้น โอ่งมังกรที่บรรจุน้ำไว้ แตกเป็นรูๆ ทันที สายฟ้าวิ่งเป็นลูกไฟตรงเข้าไปหาคุณแม่ที่นั่งอยู่ มันดิ่งลงมาจากอากาศ พุ่งตรงลงที่กลางศีรษะ ขณะที่ลูกไฟพุ่งลง คุณแม่บอกว่า ร้อนไปหมดทั้งตัว นึกในใจว่าผมต้องไหม้แน่ๆ หูอื้อ ตกใจ รีบวิ่งพาตัวเองให้พ้นบริเวณนั้น ส่วนคุณศรีวรรณเองกำลังนั่งป้อนข้าวกับลูกน้อย เพชรฆาตฟ้าผ่าก็ไม่ละเว้น วิ่งตรงไปหาสื่อทันที ในตัวของเธอได้ห้อยพระมหาสิริราชธาตุกรอบทองพญานาคด้วยสร้อยคอทองคำ วินาทีนั้น ลูกไฟวิ่งเข้ามา ความร้อนผ่านตัวเธอ พัดลมที่ตั้งอยู่ด้านหลังติดกับตัวเธอช็อด ระเบิดพังเสียหาย ประกายไฟแตกกระจาย คุณศรีวรรณ บอกว่าตนเองรู้สึกร้อนด้านหลัง บริเวณที่นั่ง ชิดพัดลมมาก เหตุการณ์สงบลง พอกับคุณแม่วิ่งมาถึงเธอและลูกน้อยพอดี สำรวจดูตัวเอง ทุกคนปลอดภัย ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น และเป็นที่น่าแปลกใจ น้องเชอรี่ในวัย ๗-๘ เดือนกลับไม่มีอาการตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังคงนั่งอยู่เป็นปกติ พอหันไปสำรวจข้าวของพังเสียหาย แบบไม่น่าเชื่อยังมีผลพวงจากลูกไฟลูกนี้ ทำให้กระสอบบรรจุอาหารสัตว์ ถึงกับลุกไหม้พอดี คุณศรีววณหันไปพบจึบดับไฟได้ทัน ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นนึกถึงอานุภาพของบุญกุศลที่ครอบครัวได้ตั้งใจทำไว้ มิเช่นนั้นอาจจะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในบ้านก็ได้ เพราะธรรมดาพลังกระแสไฟฟ้าที่ผ่าลงมาทุกคนคงทราบว่าแรงขนาดที่จะเอาชีวิตของผู้ที่อยู่ใกล้ได้เสมอแต่นี่เป็นเพราะบุญครองจึงทำให้ทุกคนในบ้านปลอดภัย
- บริเวณที่คุณแม่คุณศรีวรรณ มาล้างจานแล้ว
ฟ้าผ่าลงมา - เสาขนาด ๘"x๘" ที่ถูกฟ้าผ่าจนปูนแตกกระเด็น จะสังเกตเห็นบริเวณที่แตก ซึ่งปัจจุบันได้นำปูนมาซ่อมแล้ว |
|
สำหรับคุณสมนึกเอง เล่าว่าตนเองมักจะแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ แคล้วคลาดอย่างอัศจรรย์
ครั้งที่ ๑ คุณสมนึกได้ขับรถมาจากสัตหีบกำลังจะไปพัทยา ขณะขับมาถึงที่หน้าโรงแรมแอมบาสเดอร์นาจอมเทียน ซึ่งที่หน้าโรงแรมนี้จะมีที่ยูเทิร์นอยู่ที่ทางหน้าโรงแรม รถที่มาจากพัทยาก็สามารถเลี้ยวยูเทิร์นเข้าโรงแรมได้ทันทีแต่จะต้องรอให้รถทางสายเอกไปก่อน ตอนนั้นรถของคุณสมนึกอยู่ที่เลนซ้าย แล้วอยู่ๆ รถเก๋งคันหนึ่งที่มาจากทางพัทยาก็เลี้ยวเข้าโรงแรมอย่างรวดเร็วและกระชั้นชิดกับรถคุณสมนึกมาก โดยไม่ดูรถคันที่มาทางเอกเลย คุณสมนึกตกใจมากเพราะนึกว่าต้องชนกลางคันแน่ คุณสมนึกเหยียบเบรคทันที เสียงของล้อรถบดกับท้องถนน เสียงดังเอี้ยด..ยาว ได้ยินไปทั่วบริเวณสร้างความตกใจให้คนอยู่บริเวณหน้าโรงแรมอย่างมาก ขณะที่เบรคนั้นพวงมาลัยที่จับอยู่นั้นก็ประคองให้มั่นเพราะกลัวว่าถ้าหักพวงมาลัยรถต้องคว่ำทันทีแน่เพราะมาเร็ว ในวินาทีนั้นคุณสมนึกคิดว่าต้องชนแน่แล้วอยู่ๆ รถก็แฉลบไปในเลนขวาโดยผ่านท้ายรถที่ตัดหน้าไปเพียงหวุดหวิดแบบเส้นยาแดงผ่าแปดทีเดียวโดยที่คุณสมนึกก็ไม่รู้ว่าแฉลบไปได้อย่างไร ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้คุณสมนึกแคล้วคลาดมาอย่างอัศจรรย์ ยกรถของคุณสมนึกเหวี่ยงข้ามรถคนนั้นไปเลย จึงไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ เลย
รถที่คุณสมนึกขับในวันเกิดเหตุ
ที่สามารถรอดมาได้อย่างอัศจรรย์ |
ครั้งที่ ๒ ในระยะเวลาห่างจากครั้งแรกไม่กี่วันคุณสมนึกพร้อมทั้งภรรยาและลูก กำลังเดินทางกลับบ้านโดยคุณสมนึกเป็นคนขับ ตอนนั้นขับอยู่ที่เลนขวาด้วยความเร็วประมาณ ๑๒๐ กม. มองดูที่กระจกหลังที่เลนซ้ายเห็นรถกระบะ และหกล้อซึ่งเป็นรถไอศครีมวิ่งตามหลังมา ด้วยความเร็วเช่นกันส่วนรถไอศครีมขับปาดไปปาดมาซึ่งคุณสมนึกก็มองดูอยู่ตลอด ซักพักเห็นรถไอครีมเร่งความเร็วเพื่อจะแซงรถกระบะโดยหักขับมาทางขวาด้วยความเร็วสูง ขณะที่มาทางขวาด้วยความเร็วก็เจอรถคุณสมนึกอยู่ข้างหน้าซึ่งขณะนั้นรถไอศครีมได้แซงรถกระบะมาประมาณ ๒ เมตร และหน้ารถไอศครีมก็จะชนกับรถคุณสมนึก รถไอศครีมจึงเลี้ยวหักหลับไปทางซ้ายอย่างแรง ขณะนั้นรถไอศครีมเสียการทรงตัวเพราะหักเลี้ยวอย่างแรงทำให้รถพลิกคว่ำทันทีตัวรถที่ลากกับพื้นถนนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รถไอศรีมพลิกคว่ำทางขวาซึ่งขณะที่ตัวถังด้านขวาของรถไอศรีมขูดกับถนน แซงรถของคุณสมนึกไปเลย ครอบครัวคุณสมนึกอยู่ในรถตกใจมาก แต่โชคดีที่ขณะที่รถไอศครีมพลิกคว่ำทางซ้ายธรรมดารถไอศครีมจะต้องแฉลบเข้ามาแบบทางเลนขวาที่คุณสมนึกขับอยู่และอาจจะปะทะชนรถคุณสมนึกได้ แต่ครั้งนี้ก็อัศจรรย์ขณะที่รถพลิกคว่ำก็ดูเหมือนมีอะไรผลักรถไอศครีมลงข้างทางไปทางซ้ายและไถลลงไปที่ข้างถนน เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความอัศจรรย์ใจให้แก่คุณสมนึกเป็นอย่างมากที่รอดมาอย่างหวุดหวิดอีกครั้งเพราะขณะที่รถไอศครีมคว่ำก็เฉียดฉิวกับตัวถังของรถคุณสมนึกมาก ซึ่งเขาบอกว่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารอดได้อย่างไร