ใจใสไปดี
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
ทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม จะต้องเดินทางไปสู่ปรโลกด้วยกันทุกคน ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธได้เลย แม้ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม ซึ่งปรโลกนั้นมีทางไปอยู่ ๒ ทาง คือ สุคติกับทุคติ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ถ้าใจผ่องใสไม่เศร้าหมอง สุคติเป็นที่ไป ถ้าใจเศร้าหมองไม่ผ่องใส ทุคติเป็นที่ไป” ช่วงสุดท้ายของชีวิตใครก็ช่วยเราไม่ได้ ความใสกับความหมองเราต้องทำด้วยตัวของเราเอง คนอื่นได้แค่คอยชี้แนะคอยเป็นกำลังใจให้เท่านั้น
เราไม่ควรเอาชีวิตของเราไปเสี่ยงโดยการเลี่ยงการกระทำความดีตอนที่ยังแข็งแรงอยู่ แล้วก็ไปหวังพึ่งน้ำบ่อหน้า ไปแสวงหาความใสตอนใกล้จะถึงวันสุดท้ายของชีวิต อย่าประมาทนะลูกนะ มีบุคคลจำนวนน้อยแค่บางคนเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ถึงเปอร์เซ็นต์ที่โชคดี ดังนั้นเราอย่าเสี่ยงเลย เพราะถ้าพลาดพลั้งไป ชีวิตในปรโลกนั้นยาวนานเป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน เป็นหลายๆ ล้านปี เป็นกัปเป็นมหากัป ในเมืองมนุษย์ยาวนานมาก เพราะฉะนั้นอย่าไปเสี่ยงนะลูกนะ
เวลาชีวิตในโลกมนุษย์แค่ประเดี๋ยวเดียว เราต้องแยกให้ออกว่า เรื่องอะไรด่วนควรจะเร่งรีบทำ เรื่องอะไรสำคัญสำหรับชีวิต บุญนี้เป็นเรื่องด่วนต้องเร่งรีบทำ ธรรมะเป็นเรื่องสำคัญ ต้องทำให้ได้ทุกวัน อย่าให้ความเกียจคร้านประมาทชะล่าใจ หรือการทำมาหากิน ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความเหนื่อยความเพลีย เรื่องอะไรเหล่านี้มาเป็นข้อขัดขวางหนทางการแสวงหาความใส คือ ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว เราสามารถเลื่อนเวลาของการปฏิบัติธรรมออกไปได้ แต่เราไม่สามารถผัดผ่อนเวลากับพญามัจจุราชซึ่งเขามีกำลังมาก ใครๆ ก็ไม่อาจไปสู้รบปรบมือกับเขาได้นะลูกนะ
ที่ผ่านมาไม่นานนี้ มีเพื่อนสหธรรมิกเพื่อนนักเรียนอนุบาลฝันในฝัน ผู้นำบุญหลายๆ ท่านต่างก็ทยอยเดินทางไกลไปสู่ปรโลกแล้วบางคนไปด้วยอาการปกติ และเจ็บไข้ได้ป่วยกันไป บางคนไปด้วยอุบัติเหตุ แต่ก็มีบางคนไป ด้วยเหตุที่ไม่ควรเลย เพราะวิบากกรรมมาบีบคั้นให้ต้องรีบเดินทางไป
เราคงนึกไม่ถึงว่า อดีตที่ผ่านมาในภพชาติก่อนๆ เราเคยทำบาปอกุศลไว้มากน้อยเพียงใด ซึ่งมันเป็นระเบิดเวลาของชีวิต ซึ่งแต่ละคนมีกันคนละหลายๆ ลูกทีเดียว พูดง่ายๆ คือนับลูกไม่ถ้วน คอยเรียงคิวรอวันเวลาที่จะระเบิดอยู่ภายในตัวของเรา และยิ่งไปกว่านั้นชีวิตในปัจจุบันนี้ เราก็มีเรื่องที่ทำพลาดพลั้งไปเมื่ออกุศลเข้าสิงจิต เพราะฉะนั้นอย่าประมาทชะล่าใจ หมั่นฝึกฝนอบรมใจของเราให้หยุดนิ่งให้ใสเข้าไว้ ให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวให้ได้อย่างน้อยก็ให้ได้ดวงธรรมใสๆ ติดอยู่กลางกายตลอดเวลา ก็พอจะเป็นเครื่องอุ่นใจว่า ชีวิตของเราจะปลอดภัยในปรโลก ในสังสารวัฏแต่ให้ปลอดภัยที่สุดคือ ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว เพราะนอกจากจะปลอดภัยในปรโลก ในสังสารวัฏแล้วเรายังมีความสุขในโลกสวรรค์อีกยาวนาน
การจะไปสู่สุคติโลกสวรรค์อย่างมีความสุขได้นั้น เราก็ต้องประกอบเหตุให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งทาน ศีล ภาวนา อดีตที่ผิดพลาดก็ให้ดีดทิ้งไป ลืมมันไปให้หมด ปัจจุบันก็หมั่นฝึกฝนอบรมใจ สั่งสมบุญบารมีทั้งทาน ศีลภาวนา ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป อย่างนี้ถึงจะเรียกว่า ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท และมีคุณค่าเมื่อถึงวันสุดท้ายของชีวิตใจจะได้ใสๆ เดินทางไกลไปสู่ปรโลกได้อย่างปลอดภัยและมีชัยชนะนะลูกนะ