สรุปโอวาทที่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมที่ ๑๓๓
หายสงสัยด้วยตัวของเราเอง : เราต้องดูให้แจ่มแจ้ง อย่าไปติดสัญญา ความทรงจำที่เราเคยศึกษามา รู้ญาณเราจะขยายกว้างมากขึ้น เราจะเกิดความมั่นใจ และหายสงสัยด้วยตัวของเราเอง เราจะเกิดความปลาบปลื้มปีติและภาคภูมิใจ เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นความสงสัยทั้งปวงของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไป ธรรมะก็คือความบริสุทธิ์ ความสว่าง พราหมณ์ก็คือผู้ฝึกฝนทำหยุดนิ่ง เพียรก็คือทำหยุดนิ่ง เพ่งก็คือหยุด เมื่อนั้นพราหมณ์ย่อมหายสงสัย
หยุดความอยาก : หยุดความอยาก เพราะความอยากเป็นสมุทัยบ่อเกิดแห่งความทุกข์ แม้อยากจะเห็นธรรมะ ซึ่งจิตเป็นกุศลธรรมก็ตาม แต่เจือไปด้วยโมหะ คือ ความรู้ที่ยังไม่สมบูรณ์เพราะฉะนั้น ประสบการณ์ภายในจึงไม่มีอะไรใหม่ให้ดู เพราะเรามีความอยากเข้าไปเจืออยู่ โดยไม่รู้ตัว เพราะเรารู้ว่า ถ้าเห็นธรรมะแล้วดี จะไปนรกสวรรค์ได้ ไปศึกษาเรื่องราวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปรู้ไปเห็นได้ เราเลยอยากได้มากเกินไป เพราะอยากแท้ ๆ จึงทำให้แย่อยู่ทุกวันนี้ เพราะฉะนั้น ต้องหยุดอย่างเดียว ไม่มีอะไรใหม่ หรือแม้มีอะไรใหม่ ก็ต้องหยุดเฉย ๆ ไม่มีอะไรใหม่ให้เราดู เราก็นิ่งเฉย ๆ ช่างมัน ไม่ได้แปลว่า เรานั่งแล้วสูญเปล่า ไม่ก้าวหน้า นั่นเราคิดไปเอง
คุณครูไม่ใหญ่