หมอชีวก สรรเสริญพระพุทธคุณ

วันที่ 04 พย. พ.ศ.2558

หมอชีวก สรรเสริญพระพุทธคุณ

หมอชีวก สรรเสริญพระพุทธคุณ


               เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูทรงมีรับสั่งถามเฉพาะตนเช่นนั้น หมอชีวกโกมารภัจจ์ จึงได้โอกาสกราบทูลว่า
ขณะนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จประทับ ณ สวนอัมพวัน พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ 1,250 รูปครั้นเห็นจอมกษัตริย์ทรงรับฟังด้วยความสนพระทัย หมอชีวกจึงกล่าว รรเสริญพระพุทธคุณให้เป็นที่ปรากฏพร้อมบริบูรณ์ ทั้งพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระกรุณาธิคุณ ด้วยน้ำเสียงดังกังวานว่า

1. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นพระอรหันต์คือเป็นผู้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสอาสวะทั้งปวงแล้ว เป็นผู้ควรแนะนำสั่งสอนผู้อื่น ควรได้รับการเคารพบูชาอย่างยิ่ง

2. ทรงเป็นสัมมาสัมพุทโธ คือ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญาอย่างยิ่งสามารถตรัสรู้ธรรมด้วยพระองค์เอง

3. ทรงเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ถึงพร้อมด้วยวิชชา คือ มีความรู้แจ่มแจ้งในสรรพสิ่งต่าง ๆ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต ทั้งที่เป็นโลกียภูมิและโลกุตตรภูมิ ทรงเป็นผู้งามพร้อมด้วยจรณะ คือ ความประพฤติอันประเสริฐยิ่ง หาผู้ใดเสมอมิได้

4. ทรงเป็นสุคโต คือ ผู้เสด็จไปดีแล้ว ไม่ว่าจะทรงย่างก้าวไปที่ใด ก็มีแต่นำความผาสุกและความร่มเย็นไปถึงที่นั่น ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังทรงสามารถนำหมู่สัตว์ไปสู่หนทางพระนิพพาน ซึ่งสมบูรณ์ด้วยความสุขโดยส่วนเดียว ไม่มีความทุกข์เจือเลย

5. ทรงเป็นโลกวิทู คือ ทรงรู้แจ้งโลก ทรงรู้แจ้ง ภาวะอันเป็นคติธรรมดาของโลก ทรงเห็นความทุกข์ในวัฏสงสารอย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดรู้เห็นมาก่อน ทรงหยั่งรู้อัธยาศัยแห่งสัตว์โลกทั้งปวง ซึ่งเป็นไปตามอำนาจแห่งคติธรรมดาโดยถ่องแท้ เป็นเหตุให้ทรงดำเนินพระองค์เป็นอิสระ พ้นจากอำนาจครอบงำแห่งคติธรรมดานั้น และทรงเป็นที่พึ่งที่แท้จริงของสัตว์ทั้งหลาย ผู้ยังจมอยู่ในกระแสโลก

6. ทรงเป็นปุริสทัมมสารถิ คือ ทรงสามารถฝึกคนที่ควรฝึก โดยไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า ทรงเป็นนักฝึกคนชั้นเยี่ยม ด้วยเหตุที่ทรงรู้วาระจิตชาวโลก จึงทรงสามารถให้การฝึกที่เหมาะสมกับจริตอัธยาศัยของชาวโลกเหล่านั้น

7. ทรงเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เพราะเหตุที่ทรงถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติอันยอดเยี่ยม ในการแนะนำพร่ำสอน นำพาเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายให้ข้ามพ้นภัยในวัฏสงสาร ไปสู่แดนเกษมคือ อมตมหานิพพาน ทั้งมนุษย์และเทวดาจึงยอมรับและเคารพสักการะพระองค์อย่างสูงสุด

8. ทรงเป็นพุทโธ คือ ผู้ตื่นและเบิกบานแล้ว ทรงตื่นเองจากความเชื่อถือและข้อปฏิบัติทั้งหลาย
ที่ถือกันมาผิดๆ ทั้งทรงปลุกให้ผู้อื่นหลุดพ้นจากความหลงงมงายด้วย อนึ่ง เพราะไม่ติด ไม่หลง ไม่ห่วงกังวล
ในสิ่งใดๆ จึงมีพระราชหฤทัยเบิกบาน ชุ่มชื่น เป็นสุขอย่างที่สุด

9. ทรงเป็นภควา คือ ผู้จำแนกธรรมด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เอง จึงทรงสามารถจำแนกธรรมทั้งหมดที่พระองค์ตรัสรู้ออกเป็นหมวด เป็นหมู่ เป็นข้อ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา และเลือกปฏิบัติให้ถูกกับจริตอัธยาศัยของชาวโลก ไม่มีศาสดาใดในโลกสามารถทำได้เท่าพระองค์ หรือยิ่งกว่าพระองค์

 

             เมื่อสิ้นเสียงสรรเสริญพระพุทธคุณอันประเสริฐจากหมอชีวกโกมารภัจจ์แล้ว เหล่าอำมาตย์ราชบริพารทั้งหลายที่ชุมนุมกันอยู่ ณ มหาปราสาทชั้นบนนั้น ต่างนั่งนิ่งตะลึงงันด้วยความอัศจรรย์ใจ เพราะไม่คาดคิดว่าจะมีศาสดาองค์ใดถึงพร้อมด้วยคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ปานนั้น ครั้นแล้วหมอชีวกโกมารภัจจ์จึงกราบทูลอัญเชิญพระเจ้าอชาตศัตรู ให้เสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ สวนอัมพวันการที่พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงมีพระประสงค์ใคร่จักเสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งนั้นมีเหตุผลที่สำคัญหลายประการ คือ ทรงรู้สึกสำนึกพระองค์ว่าได้กระทำผิด ในการที่หลงเชื่อคำพระเทวทัตนักบวชทุศีลและอันธพาล จนถึงกับหลงทำการอันร้ายกาจ ปลงพระชนม์ชีพพระราชบิดาผู้ทรงธรรม ซึ่งเป็นกรรมใหญ่หลวงนัก นอกจากนี้พระองค์ยังถูกพระเทวทัต ล่อลวงด้วยกลอุบายหลายวิธี จนถึงกับเห็นผิดไปร่วมมือกับพระเทวทัตประทุษร้ายต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยทรงใช้พวกนายขมังธนูไปลอบยิงพระพุทธองค์ แม้ว่าไม่อาจทำอันตรายใดๆ ต่อพระบรมศาสดาได้ แต่ก็ถือว่าพระองค์ได้ทรงทำกรรมหนักยิ่งเหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ ได้ทรงสดับข่าวว่า พระเทวทัตผู้เป็นอันธพาลนั้น ถูกกรรมบันดาลให้ธรณีสูบลงไปใต้พื้นปฐพี เห็นประจักษ์แก่ตาคนทั้งหลายแล้ว อีกทั้งกิตติศัพท์อันชั่วช้าของพระองค์ที่ได้หลงคบกับพระเทวทัต ก็ระบือไปทั่วแว่นแคว้น ทำให้ทรงรำพึงว่า ถ้าไม่หาโอกาสไปขอขมาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นบรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายแล้ว พระองค์ก็จักได้รับโทษเช่นพระเทวทัตเป็นแน่แท้ ยิ่งทรงรำพึงไป ก็ยิ่งจินตนาการเห็นผลแห่งอนันตริยกรรมที่ทรงก่อไว้ จนไม่สามารถบรรทมหลับได้และไม่ทรงเห็นผู้ใดที่จะเป็นที่พึ่งได้เลยนอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

              ด้วยเหตุผลสำคัญดังกล่าว ประกอบกับได้ ดับคำ สรรเสริญพระพุทธคุณจากหมอชีวกโกมารภัจจ์จึงทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงมีพระราชประสงค์อย่างแน่วแน่ ที่จะเสด็จไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์จึงทรงตอบรับคำเชิญของหมอชีวกโกมารภัจจ์ทันที และทรงสั่งให้หมอชีวกโกมารภัจจ์จัดเตรียมขบวนช้างพระที่นั่งสำหรับเดินทางไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในค่ำคืนนั้นเอง

-----------------------------------------------

SB 304 ชีวิตสมณะ

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.013801733652751 Mins