แค่พบกันยังไม่ใช่วาสนา
เคยได้ยินคำกล่าวทำนองว่า “คนจะพบกันได้ต้องมีวาสนาต่อกัน ถ้าไม่มีวาสนา เดินสวนกันทุกวัน ก็ไม่มีทางรู้จักกันได้ แต่ถ้ามีวาสนาต่อกัน แม้อยู่คนละซีกโลก ก็โคจรมาพบกันจนได้” ฉันฟังแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะใช่เสมอไปนะ เพราะกับบางคนยิ่งคบชีวิตยิ่งแย่ ถ้ามีวาสนาต่อกันชีวิตก็ต้องดีขึ้นซิ แต่ก็ไม่ได้สนใจ ปล่อยผ่านไป
จนกระทั่งได้ฟังพี่ที่ฉันเคารพท่านหนึ่งพูดว่า “แค่พบกันยังไม่ใช่วาสนา แต่การทำดีต่อกัน นั่นแหละคือ วาสนา” รู้สึกว่าคำพูดนี้โดนใจกว่าเยอะเลยค่ะ
พอมาค้นความหมายในพจนานุกรม พบว่าสิ่งที่พี่เขาพูดสอดคล้องกับความหมายของคำว่า“วาสนา” มากกว่าคำกล่าวที่ฉันเคยได้ยินมาจากที่อื่นจริงๆ ด้วย
พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายว่า “วาสนา คือ บุญบารมี กุศลที่ทําให้ได้รับลาภยศ เช่น เด็กคนนี้มีวาสนาดี เกิดในกองเงินกองทอง มักใช้เข้าคู่กับคำ บุญ หรือ บารมีเป็น บุญวาสนา หรือ วาสนาบารมี เช่น เป็นบุญวาสนาของเขาเขาเป็นคนมีวาสนาบารมีมาก” ฉันจึงขอเสริมจากที่พี่เขาพูดอีกนิดว่า ถ้าอยากมีวาสนาต่อกัน นอกจากจะทำดีต่อกันแล้ว ต้องชวนกันสร้างบุญกุศลให้เสมอกันด้วย เพราะถ้าบุญต่างกันมากๆ ก็คงยากที่จะเกิดมาเจอกัน หากเจอกันก็คงยากที่จะคบหากัน
...เพราะคนมีบุญมากย่อมเกิดมาด้วยความพรั่งพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ ส่วนคนบุญน้อยก็จะด้อยทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ แล้วคนที่แตกต่างกันมากๆ จะมาคบหากันนั้น มันเป็นไปได้ยาก...
ดังนั้น หากอยากเกิดมาเจอใคร ก็ต้องสร้างบุญร่วมกับเขา สร้างบุญให้เสมอกับเขา จะได้มีวาสนามาอยู่ร่วมกัน ซึ่งการอยู่ร่วมกันในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นคู่รักเสมอไปนะคะ อาจอยู่ในฐานะอื่นก็ได้
เช่น ถ้าอยากเกิดมาเป็นลูกของพ่อหรือแม่คนนี้อีก ก็ต้องสร้างบุญให้เสมอกับพ่อแม่ เป็นต้น
... ไปชวนคนที่เรารัก คนที่เราชอบ ทำบุญร่วมกันบ่อยๆ นะคะ จะได้เกิดมาเจอกันอีก แล้วถ้าคนที่เรารักชวนทำบุญ ก็ต้องรีบทำนะคะ อย่าปฏิเสธ เดี๋ยวจะไม่มีวาสนาต่อกัน
...
แค่พบกันยังไม่ใช่วาสนา
ต้องทำดีต่อกัน
จึงเรียกว่า “วาสนา”
คนมีวาสนาต่อกัน
คบกันแล้วชีวิตต้องดีขึ้น
ขอให้โชคดีและมีความสุขนะคะ
ชุลีพร ช่วงรังษี