หลวงพ่อสอนอะไร (ตอนที่ ๒๙)
คำอธิษฐานของหลวงพ่อ
ตั้งแต่เข้าวัดพระธรรมกายครั้งแรก สิ่งหนึ่งที่อาตมาถูกหลวงพ่อ และพระพี่เลี้ยงตอกย้ำ จนปัจจุบันนี้ได้ทำเป็นนิสัย เป็นอัตโนมัติ คือ การอธิษฐานจิต
ทั้งที่การอธิษฐานจิตนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ มีผลต่อการดำเนินชีวิต แต่ยากจะหาผู้ที่จะแนะนำให้กระจ่างได้ว่าทำไมต้องทำ จึงมีหลาย ๆ ท่านที่ไม่เข้าใจ หาว่าเป็นการค้ากำไรเกินควรบ้าง เป็นการอ้อนวอนทำให้คนงอมืองอเท้ารอโชคช่วยบ้าง
ในพระพุทธศาสนานั้น การอธิษฐานเป็นหนึ่งในบารมี ๑๐ ทัศ เป็นสิ่งที่พระโพธิสัตว์ ได้บำเพ็ญมาอย่างต่อเนื่อง เพราะการอธิษฐานจิตนั้น เป็นการตอกย้ำเป้าหมายชีวิตของเรา ให้มั่นคงแน่วแน่ในเส้นทางที่จะก้าวไปสู่พระนิพพาน
ครั้งแรกที่อาตมาได้ยินพี่ ๆ เขาอ่านคำอธิษฐานจิตของหลวงพ่อธัมมชโยที่ผาดำ อาตมาถึงกับขนลุกซู่ เพราะไม่เคยได้ยินว่าจะมีใครตั้งปณิธานเพื่อคนอื่นแบบนี้ และเพราะคำอธิษฐานจิตนี้ จึงทำให้ลูก ๆ ในองค์กรต้องขยายใจของตนให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับงาน พระพุทธศาสนา เพื่อแบ่งเบาภาระของหลวงพ่อ
"ทวยเทพผู้สถิต ณ ผาดำเอย ข้าผู้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ อันเป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์ จะขอปักธงรบอหิงสา ปรโม ธัมโม ขึ้น ณ ที่นี้ ในดวงใจข้า เหนือขุนเขาอันเป็นสิริ ซึ่งเป็นที่สถิตแห่งจอมไท
ข้าขอประกาศว่า ข้าจะขอพลีชีพนี้เพื่อพระพุทธศาสนา จะบ่มบารมีให้แก่รอบ จะยกตนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้พ้นจากกองทุกข์
ตราบใดที่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ยังเข้าพระนิพพานไม่หมด ข้าจะอยู่เยี่ยงนี้ เพื่อย่ำธรรมเภรี โปรดสัตว์โลกต่อไปและจะขอเข้านิพพานเป็นคนสุดท้าย ขอสันติสุขจงมีแก่สรรพสัตว์ เทอญ”
ธมฺมชโย ภิกขุ พ.ศ. ๒๕๒๐
ต่อมาอีกหลายปี เมื่อมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่อาศรมบัณฑิต อาตมาก็ได้ไปอ่านเจอว่า หลวงพ่อทัตตชีโว ท่านก็เคยอธิษฐานไว้ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่อาตมาต้องทึ่งในครูบาอาจารย์ เพราะทั้งสองท่าน ล้วนแต่อธิษฐานเพื่อคนอื่นทั้งสิ้น
หลวงพ่อทัตตชีโวท่านได้อธิษฐานซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ว่าจะทำบุญอะไรก็ตาม ท้ายสุดท่านจะอธิษฐานกำกับไว้ว่า
๑. ไม่ว่าจะมีเรื่องร้ายอะไร มากน้อยแค่ไหนที่จะเกิดกับยายและหมู่คณะ ขอให้ได้รู้ก่อน ให้ได้เข้าไปแก้ไข อย่าให้กระทบไปถึงยายผู้มีพระคุณที่สอนเรามา
๒. ใครก็ตามที่ไม่มีใครสอนได้ ขอให้มาถึงเรา และขอให้สอนให้ได้
ในช่วงนั้นก็ได้แต่เก็บความปลื้มใจในครูบาอาจารย์ของเราไว้ในใจ จนกระทั่งมีโอกาสไปทำงานที่ต่างประเทศอยู่หลายปี เมื่อกลับมาพบหลวงพ่อทัตตชีโว เห็นมีจังหวะเหมาะ ๆ จึงกราบเรียนถามท่านว่า
“ หลวงพ่อครับ คำอธิษฐานนี้หลวงพ่ออธิษฐานตอนก่อนบวชหรือบวชแล้วครับ ”
ท่านมองหน้าอาตมาแล้วตอบว่า “ ยัง ตอนนั้นยังไม่ได้บวช ”
“ หลวงพ่อครับ หลวงพ่อนึกยังไง จึงอธิษฐานอย่างนั้น ต้องอาศัยกำลังใจอย่างมากเลยนะครับนั่น ” อาตมาถามต่อด้วยความอยากรู้
หลวงพ่อท่านอมยิ้ม สายตามองตรงไปข้างหน้า เหมือนจะนึกอะไรสักอย่าง แล้วค่อยตอบช้า ๆ
“ เมื่อตอนที่มาเรียนธรรมะกับยาย ยายเองก็ไม่ใช่ญาติ เป็นแม่ชีชราผู้หนึ่ง แต่ยายทุ่มเทเหลือเกินในการสอนธรรมะให้ เห็นท่านปรารถนาดีกับเรา ก็เลยคิดอยากแทนคุณท่าน โดยไปตามพวกพี่ ๆ น้อง ๆ จากมหาวิทยาลัยมาเรียนธรรมะกับท่าน
ยายท่านก็ตั้งใจอบรมสั่งสอนเต็มที่ ทีนี้พวกที่มาก็ไม่ค่อยได้ระมัดระวังอะไร ตามประสาวัยรุ่น เข้ามาก็มาล้อ ๆ เล่น ๆ ในเขตวัด ทั้งที่เป็นเขตที่ต้องสงบ และที่สำคัญของวัยรุ่นหนุ่มสาว ก็ไม่ควรจะใกล้ชิดกันมาก
บางพวกก็ไม่ระมัดระวังในการแต่งกาย มีทั้งนุ่งกระโปรง ทั้งนุ่งกางเกงยีนส์ มาถึง ก็วัยรุ่นนะ นั่งพับเพียบไม่เป็นหรอก ตีตะหมาดเลย แม้นุ่งกระโปรง ดูก็ไม่เรียบร้อย ”
“ แล้วมีผลกระทบอะไรไหมครับหลวงพ่อ ” อาตมาถามด้วยความกังวล
“ มีสิ กระทบถึงคนหลายพวก ตั้งแต่ ๑. พระก็เดือดร้อน ๒. ชาวบ้านที่เขามาประจำ ก็ไม่ชอบใจ ๓. กลุ่มพวกวัยรุ่น พวกจิ๊กโก๋เจ้าของถิ่น พอมีเรื่องกระทบเข้า ก็มีผู้มาฟ้องพระผู้ใหญ่ในวัด ท่านก็เลยเรียกยายไปเตือน แต่เรื่องนี้ยายไม่เคยเล่า ไม่เคยบอก หลวงพ่อแอบไปรู้เอง ”
“ พอหลวงพ่อทราบแล้วหลวงพ่อทำไงครับ ผมจะได้แนวทางในการทำงานต่อไป ”
“ พอถึงเวลานั่งธรรมะ หลวงพ่อก็เอาเวลามาดูพวกนี้ก่อน ดูให้เรียบร้อยแล้วค่อยนั่ง แต่แม้กระนั้น ก็ยังไม่วายจะมีเรื่อง หลวงพ่อก็เลยอธิษฐานอย่างที่เราทราบนั่นแหละ นี่เป็นเหตุผลที่หลวงพ่ออธิษฐานในข้อแรก ”
“ แล้วข้อสองนี่หลวงพ่อมีแรงบันดาลใจหรือเหตุจูงใจอะไรหรือครับ ” อาตมารีบถาม เพราะเห็นท่านเงียบไป (สงสัยท่านอยากเช็คเรทติ้ง)
“ ไอ้ข้อสองนี่ หลวงพ่อเห็นมีคนมาถามธรรมะ ถามปัญหากับยาย พวกนี้มีทั้งที่ตั้งใจมาถามเพื่อจะเอาไปปรับปรุงแก้ไขตนเอง มีทั้งพวกที่จะมาลองดี ทั้งพูดไม่รู้เรื่อง แล้วมาก่อความวุ่นวาย แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะมาสร้างปัญหาที่เราที่แรก มันสร้างปัญหาไปทั่ว ”
“ แล้วหลวงพ่อจัดการพวกนี้ยังไงหรือครับ ”
“ วิธีเหรอ พอเห็นพวกนี้ หลวงพ่อจะรีบเข้าไปรับหน้าก่อน ไม่ต้องให้ถึงยาย ก็มีทั้งที่คุยรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ซึ่งลักษณะนี้สมัยพุทธกาลพระพุทธองค์ก็เจอ หรืออย่างพระยามิลินทร์ก็ต้องเจอพระนาคเสน เจอแบบนี้บ่อยเข้าก็เลยอธิษฐานอย่างที่ว่า เพราะนึกว่ายังไง ก็ต้องขนมันไปให้ได้ ”
“ แล้วหลังจากหลวงพ่ออธิษฐานแบบนี้ มีผลอะไรไหมครับ ”
หลวงพ่อท่านหัวเราะแล้วตอบว่า “ ท่านเอ๊ย พออธิษฐานเท่านั้นแหละ มันเรียงหน้ากันเข้ามาเลยทั้งปัญหา ทั้งคน ก็มีทั้งที่แก้ได้ แก้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยที่สุด หลวงพ่อก็ดีใจว่า ได้ทำเพื่อยาย เพื่อหมู่คณะ เมื่อมาสร้างวัดก็ดีใจที่ได้เป็นด่านหน้า ไม่ต้องให้ปัญหามันไปตกที่หลวงพ่อธัมมะ ”
“ ตอนที่หลวงพ่ออธิษฐานหลวงพ่อนึกหรือปล่าวครับว่าจะมีผลยังไงครับ ”
“ หลวงพ่อไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแต่จะตอบแทนคุณยาย และคิดว่าจะเพิ่มวิริยบารมีให้กับตัวเอง เพราะฉะนั้นแม้จะมีโกรธบ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดอาฆาตพยาบาท เพราะในที่สุดก็ต้องขนกันไป ไปที่เดียวกัน ”
“ ที่หลวงพ่ออธิษฐานหลวงพ่อได้บอกคุณยายไหมครับ ”
“ หลวงพ่อไม่ได้บอก แต่ยายท่านทราบเอง ” หลวงพ่อตอบยิ้ม ๆ
“ ยังไงครับหลวงพ่อ ” อาตมารีบถาม เพราะรู้ว่าจะต้องได้ฟังอะไรเด็ด ๆ แน่ แล้วก็ไม่ผิดหวัง
ทุกครั้งที่หลวงพ่อทำบุญ ก็จะอธิษฐานกำกับแบบนี้ทุกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง เป็นวันบูชาข้าวพระ อาทิตย์ต้นเดือน หลวงพ่อนั่งใกล้ยาย พออธิษฐานเรื่องอื่นเสร็จ ก็เลยอธิษฐานสองข้อนี้แหละ ขณะกำลังอธิษฐานอยู่ ยายก็หันมาถามว่า “ เอางั้นเลยหรือ ”
“ เรื่องที่หลวงพ่ออธิษฐาน หลวงพ่อธัมมะทราบไหมครับ ”
“ หลวงพ่อก็ไปเล่าให้ท่านฟังว่า กำลังอธิษฐานอยู่แล้วยายก็ว่ายังงั้นแหละ ท่านก็หัวเราะ แล้วบอกว่า เทวทัตพุทธองค์ยังเอาไม่อยู่ แล้วหลวงพ่อจะแก้พวกนั้นเลยหรือ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร หัวเราะฮึ ๆ ”
ว่าแต่พวกเราหล่ะ ได้ตั้งใจอธิษฐานอะไรกันบ้างไหมเอ่ย จะอธิษฐานอะไรก็แล้วแต่ อย่าลืมอธิษฐานให้ได้เกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายด้วยนะ
สำหรับอาตมาเอง ก็ได้อธิษฐานตลอดว่า ให้ได้ติดตามหลวงปู่ หลวงพ่อทั้งสองและคุณยายอาจารย์ สร้างบารมีไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งวันเข้าถึงที่สุดแห่งธรรม
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๗ ส.ค. ๕๙
anacaricamuni.blogspot.ae