เวลาหมอดูจะดูดวง เขาจะถามวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากก่อน แล้วก็เอามาคำนวณ ผูกดวงแล้วก็ทำนายเจ้าชะตา ซึ่งหมอบางคนก็ทายแม่นบ้าง ไม่แม่นบ้าง ทายตามเรื่องตามราวกันไป ซึ่งเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นกับ คุณหญิงล้อมและนายห้างสวัสดิ์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ก่อตั้งห้างขายยาโอสถสภา (เต็กเฮงหยู)
เรื่องมีอยู่ว่า แต่เดิมทั้งคู่รักกันมาก ก่อนแต่งงานก็ไปดูดวง ซึ่งไปดูมากี่หมอ ๆ เขาก็บอกว่า แต่งกันไม่ได้เด็ดขาด อยู่ด้วยกันแล้วจะล่มจม จึงทำให้ทั้งคู่เกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร จึงพากันมากราบถามหลวงปู่วัดปากน้ำ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ตรวจดูให้ แต่วิธีการดูดวงของหลวงปู่ต่างกับการดูดวงของหมอดูอย่างสิ้นเชิง คือ ท่านไม่ต้องถามวันเดือนปีเกิด ไม่ต้องถามเวลาตกฟากอะไรให้ยุ่งยาก เพราะท่านเข้าธรรมกายไปตรวจดูดวงบุญ ดวงสมบัติในตัวได้
พอดูเสร็จ ท่านก็บอกว่า...ทั้งคู่นี่แต่งงานกันแล้วดี จะเป็นมหาเศรษฐีตระกลูหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว เพราะดวงบุญโตกว่าคืบหนึ่ง และท่านยังบอกอีกว่า ถ้ารวยแล้วให้มาอุปถัมภ์วัดปากน้ำ
และสุดท้าย...ก็เป็นจริงอย่างที่หลวงปู่บอกไว้ทุกประการ เพราะจากเดิมคุณหญิงล้อมและนายห้างสวัสดิ์ก็ไม่ได้รวยอะไร มีเพียงร้านขายยาเล็ก ๆ แถวสำเพ็ง แต่ต่อมาได้ไปทำบุญเลี้ยงพระที่วัดปากน้ำเรื่อย ๆ พอมาทีไร หลวงปู่ท่านจะพูดว่า “ทำบุญถูกทักขิไณยบุคคล..ยิ่งให้จะยิ่งรวย” และหลวงปู่ท่านก็จะให้พรของท่านไปเรื่อย ๆ ทำให้กิจการขายยาขายดิบขายดีมาก จนต้องย้ายกิจการมาที่ ถ.เจริญกรุง และเปลี่ยนชื่อจากร้านขายยาเล็ก ๆ เป็นโอสถสถานเต็กเฮงหยู จากนั้นกิจการก็ใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น บริษัท โอสถสภา จำกัด และรวยติดอันดับของประเทศจริง ๆ ...
เรื่องมีอยู่ว่า แต่เดิมทั้งคู่รักกันมาก ก่อนแต่งงานก็ไปดูดวง ซึ่งไปดูมากี่หมอ ๆ เขาก็บอกว่า แต่งกันไม่ได้เด็ดขาด อยู่ด้วยกันแล้วจะล่มจม จึงทำให้ทั้งคู่เกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร จึงพากันมากราบถามหลวงปู่วัดปากน้ำ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ตรวจดูให้ แต่วิธีการดูดวงของหลวงปู่ต่างกับการดูดวงของหมอดูอย่างสิ้นเชิง คือ ท่านไม่ต้องถามวันเดือนปีเกิด ไม่ต้องถามเวลาตกฟากอะไรให้ยุ่งยาก เพราะท่านเข้าธรรมกายไปตรวจดูดวงบุญ ดวงสมบัติในตัวได้
พอดูเสร็จ ท่านก็บอกว่า...ทั้งคู่นี่แต่งงานกันแล้วดี จะเป็นมหาเศรษฐีตระกลูหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว เพราะดวงบุญโตกว่าคืบหนึ่ง และท่านยังบอกอีกว่า ถ้ารวยแล้วให้มาอุปถัมภ์วัดปากน้ำ
และสุดท้าย...ก็เป็นจริงอย่างที่หลวงปู่บอกไว้ทุกประการ เพราะจากเดิมคุณหญิงล้อมและนายห้างสวัสดิ์ก็ไม่ได้รวยอะไร มีเพียงร้านขายยาเล็ก ๆ แถวสำเพ็ง แต่ต่อมาได้ไปทำบุญเลี้ยงพระที่วัดปากน้ำเรื่อย ๆ พอมาทีไร หลวงปู่ท่านจะพูดว่า “ทำบุญถูกทักขิไณยบุคคล..ยิ่งให้จะยิ่งรวย” และหลวงปู่ท่านก็จะให้พรของท่านไปเรื่อย ๆ ทำให้กิจการขายยาขายดิบขายดีมาก จนต้องย้ายกิจการมาที่ ถ.เจริญกรุง และเปลี่ยนชื่อจากร้านขายยาเล็ก ๆ เป็นโอสถสถานเต็กเฮงหยู จากนั้นกิจการก็ใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น บริษัท โอสถสภา จำกัด และรวยติดอันดับของประเทศจริง ๆ ...
Cr. ร. ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ