ไม่ต้องทน ขอเพียงคำว่า "เข้าใจ"
ในชีวิตหนึ่ง เราต้องเจอผู้คนมากมายที่เราพอใจและไม่พอใจ จนหลายคนต้องบอกกับตัวเองบ่อยครั้งว่า "ต้องอดทนนะ..ต้องอดทน"
แต่ถ้าเราต้องฝืนทนกับสิ่งนั้นมาก ๆ ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ประจวบกับเจอปัญหาอย่างอื่นถาโถมเข้ามาพร้อม ๆ กัน อะไรจะเป็นหลักประกันได้ว่า เรายังจะบอกกับตัวเองได้ด้วยคำเดิมอีกหรือไม่ว่า "ต้องอดทน"
ดังนั้น เราต้องเปลี่ยนจากความอดทนเป็นความเข้าใจเขา คิดเสียว่า..เขาเป็นอย่างนั้นเอง เพราะเมื่อเข้าใจ เราจะไม่ต้องอดทน ใจจะรับสารภาพได้ว่า เขาเป็นอย่างนั้น เขาได้แค่นั้น ณ เวลานี้ เพราะระหว่างการสร้างบารมี ในเมื่อยังไม่หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ คนเราย่อมมีข้อบกพร่องแล้วทำผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา
ในทางกลับกัน ถ้าเราเป็นผู้ทำผิดพลาดเสียเอง หากเราเป็นนักสร้างบารมีที่มีดวงปัญญา แม้จะตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายหรือมีความทุกข์ เราจะสามารถเตือนตัวเองได้ว่า เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น เราต้องหยุดแล้วหันมามอง แล้วแก้ไขที่ตัวเองก่อนอันดับแรก เพราะเมื่อมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น แสดงว่าต้องมีเหตุในอดีตที่เราเคยทำไว้ ถึงได้มาเจอผลแบบนี้
ฉะนั้น อย่าไปโทษใครเลย อย่าไปคิดว่า ทำไมคนนั้นทำกับเราอย่างนี้ แต่เราต้องกล้าหาญที่จะยอมรับข้อบกพร่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขตัวเอง เพราะในเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นจะมีข้อดีอยู่เสมอ ถ้าเรามัวแต่ไปเพ่งโทษผู้อื่น มองว่าคนอื่นผิดหมด จะทำให้เราไม่ปรับปรุงตัวของเราเองเลย
ดังนั้น หากเราอยู่อย่างเข้าใจและปรับปรุงตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ก็จะสามารถลดความทุกข์ที่ไม่จำเป็นออกไปได้เยอะ และพัฒนาการสร้างบารมีได้อย่างก้าวกระโดด จนขึ้นชื่อว่า..สามารถนำธรรมะที่ศึกษามาใช้ได้จริง ๆ
Cr. ร. ลิ่วเฉลิมวงศ์