ทรัพย์ชั้นเยี่ยมที่โลกต้องการ

วันที่ 28 มิย. พ.ศ.2560

ทรัพย์ชั้นเยี่ยมที่โลกต้องการ,วาไรตี้,บทความประจำวัน

 

ทรัพย์ชั้นเยี่ยมที่โลกต้องการ

    วันนี้เป็นว้นอาทิตย์ดันเดือน เราจะไดัประกอบพิธีบุญใหญ่คือการบูชาข้าวพระ บุญที่จะเกิดขึ้นจากภารบูชาข้าวพระมีอานิสงส์เป็นอจินไตยยิ่งใหญ่ไพศาล เราไดัยึตถือเป็นแบบแผนประเพณีสืบต่อกันมายาวนาน ตั้งแต่เริ่มบูชาข้าวพระแบบขอถึงพระทุทธเจ้า จนกระทั่งเข้าถึงพระพุทธเจ้าด้วยธรรมกายสืบทอดก้นมายาวนาน ในสม้ยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าย้งทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ก็ใส่บาตรท่าน ท่านด้บข้นธปรินิพพานไปแล้วก็มีพุทธปฏิมากรเป็นด้วแทน เราได้จ้ดอาหารหวานคาวเป็นสำร้บเล็กๆ ตั้งไว้ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา กล่าวคำบูชาข้าวพระโดยนึกน้อมประหนึ่งว่าพระองค์ย้งทรงมีพระชนม์ชีพอยู่

   การระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ไม่ว่าท่านจะทรงมีพระชนม์ชีพอยู่หรือไม่มี อานิสงส์ก็ไม่ได้แตกต่างก้น แล้วก็สืบทอดก้นเรื่อยมาเป็นพ้นปี จนกระทั่งถึงยุคที่วิชชาธรรมกายได้กลับฟื้นคืนมาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการค้นพบของหลวงพ่อว้ดปากนํ้า ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สดจนฺทสโร) จึงได้บูชาข้าวพระแบบเข้าถึงด้วยธรรมกาย อานิสงส์นี้เป็นอจินไตยที่จะส่งผลให้เรามีสมบ้ตทั้งสาม คือ มนุษยสมบ้ติ ทิพยสมบ้ติ และนิพพานสมบ้ติติดตามด้วเราไปทุกภพทุกชาติเรื่อยไปเลย ที่ยิ่งใหญ่เกินควรเกินคาด เพราะฉะนั้นในว้นนี้ให้ทุกคนพึงตั้งใจให้สะอาดบริสุทธี้ผ่องใสด้วยการปฏิบัติธรรม จะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้น

   การปฏิบัติธรรม มีวัตถุประสงค์เพือแสวงหาหนทางของพระนิพพาน เป็นภารกิจหลักที่สำค้ญอย่างยิ่งของพวกเราทุกคน และของมวลมนุษยชาติทั้งหลายที่ได้เกิดมาแลัว จะต้องทำพระนิพพานให้แจ้งทำกิเลสอาสวะให้หมดสินไป นี่คือกรณียกิจอันยิงใหญ่ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ พระรัตนตรัยเป็นสรณะอันเกษม เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของพวกเราทั้งหลายและสรรพลัตวัทั้งปวง การแสวงหาพระรัตนตรัยเป็นการแสวงหาอริยทรัพย์อันประเสริฐสุด ไม่มีการแสวงหาอื่นใดที่จะดียิงไปกว่านี้อีกแลัว เพราะรัตนะใดๆในโลกนี้ หรือรัตนะในสุคติโลกสวรรค์ที่จะเสมอด้วยพระรัตนตรัยนั้นไม่มี

  พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า "ศรัทธาเป็นทรัพย์อันประเสริฐของคนในโลกนี้ มีศรัทธาตั้งมั่นในพระรัตนตรัย ผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีอริยทรัพย์อันประเสริฐ เป็นผู้โม่ฃัตสน มีชีวิตไม่เปล่าประโยชน์ ด้งนั้นผู้มีปัญญาพึงตามรักษาศรัทธาและรัตนะอันประเสริฐนั้น" นี่คือสิงที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเอาไว้ เป็นสิงที่เราควรจะทำความเข้าใจ การเข้าใจถูกจะทำใด้พึวิตนั้ปลอดภัย มีชัยชนะและเข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้ ถ้าเข้าใจผิดก็จะไปแสวงหาผิด เมื่อแสวงหาผิด พึวิดก็จะมีแต่ความทุกข์ทรมาน ไม่พบความสุขที่แท้จริง

  บางคนในโลกนื้ใม่เข้าใจว่า อะไรเป็นทรัพย์อันยิ่งใหญ่ที่จะต้องแสวงหาและตามรักษาเอาไว้ รัตนะหรือทรัพย์เป็นเครื่องปลื้มใจทั้งในโลกนี้และโลกหน้าแต่รัตนะเหล่านั้นทั้งหมด หาเทียบก้บพระรัตนตรัยนั้นไม่ไต้ เพราะรัตนตรัยเป็นรัตนะที่นำออกจากทุกข์ ให้เข้าถึงความสุขอ้นเป็นนิรันดร เป็นรัตนะเป็นไม่ใช่รัตนะตาย

  ทรัพย์ท้งหลายที่มีอยู่ในโลกนี้มี ๒ อย่าง คือ สวิญญาณกทรัพย์คือทรัพย์ที่มีวิญญาณครอง หรือที่เราเรียกว่าทรัพย์เป็น และอวิญญาณกทรัพย์ คือทรัพย์ที่ไม่มีวิญญาณครอง หรือทรัพย์ตาย เซ่น แก้วแหวนเงินทอง เพชรนิลจินดา เป็นด้น แม้แต่เครื่องประด้บในวิมานของชาวสวรรค์นันก็ยังเรียกว่าทรัพย์ดาย ทรัพย์เป็นที่มีวิญญาณครองอยู่ ก็เซ่น มนุษย์ถือว่าเป็นทรัพย์เป็น เป็นสมบัติอย่างหนี่ง เรียกว่ามนุษยสมบัติ

   ที่ประเสริฐไปยิ่งกว่านั้นก็คือ ในตัวของมนุษย์ทุกๆ คนในโลก ยังมีรัตนะเป็นอยู่ภายใน คือพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นสวิญญาณกรัตนะ เป็นรัตนทรัพย์ทีมีคุณค่าสูงสุด ผู้รู้คนมีปัญญาเขาจะแสวงหาอริยทรัพย์ภายใน หรือพระรัตนตรัยด้งกล่าวนี้ เบื้องต้นก็ต้องทำต้วของเราหรือมนุษยสมบัตินี้ให้เจริญขึ้นก่อน ท้ฒนาทรัพย์คือต้วของเราให้เป็นคนดีเสียก่อน ต้วยศีล ต้วยสมาธิด้วยปัญญา ทำ ศีล สมาธิ ปัญญา ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป เป็นอธิศีล อธิจิต อธิปัญญาให้ต้วของเราเป็นสมบัติที่ดี มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและโลก ต่อตนเองและผู้อื่นเพราะต้วของเรานี่แหละเป็นสมบัติ หรือเป็นทรัพย์ที่เยี่ยมกว่าสมบัติอย่างอื่นทั้งหมด เนื่องจากกายมนุษย์เป็นที่รองรับของทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีงาม ทั้งคุณธรรมความดี ความบริสุทธ บุญกุศล ตลอดจนวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ จรณะ ๑๕ มรรคผลนิพพานทั้งหมดก็เกิดขึ้นในกลางกายมนุษย์ ในตัวของเรานี่เอง

  ในสากลโลกนี้เขาตัองการพลเมืองแก้ว ซึ่งเป็นสวิญญาณกทร้พย์ชั้นเยี่ยมตัองการคนดี มีสติปัญญา มีความรู้ดี ความสามารถดี ความประพฤติดี เป็นคนดีที่พ้ฒนาแล้ว เป็นคนดีที่โลกต้องการ ให้มาช่วยในการปรับปรุงโลกนี้ให้เป็นโลกแก้ว โลกแห่งสันติสุขที่โลกและสวรรคใม่มีความแตกต่างก้นเท่าไหร่ มวลมนุษยชาติและสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ร่วมก้นอย่างมีความสุข ในฐานะเป็นผู้รู้และมีความสุขที่แท้จริง เข้าถึงสันติสุขภายใน

  ยังมีทรัพย์ที่มีวิญญาณในอีกระดับหนี่ง คือ รัตนะ ๗ อ้นประกอบด้วยจักรแก้ว ข้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนคลังแก้ว ขุนพลแก้ว นางแก้ว แล้วก็แก้วมณี เขามีตัว มีกายอยู่ เป็นสมป้ติของพระเจัาจักรพรรติ รัตนะ ๗ นี้ช่วยเหลือมนุษย่ให้มีความสุข ในยุคนั้นมนุษย์ใม่ตัองทำมาหากิน ด้วยอานุภาพแห่งรัตนะทั้ง ๗นั้นบันตาลให้มีสิ่งที่อ้นควรแก่มนุษย์ เครื่องอุปโภค เครื่องบริโภค ของกิน ของใช้อะไรก็แล้วแต่ รัตนะ ๗ บันตาลให้เกิดขึ้น

  แต่รัตนะทั้งหมดตังกล่าวนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัตนะอะไร อยู่ในภพภูมิสวรรค์รูปภพ อรูปภพ ก็สู้พระรัตนตรัยไม่ได้ พระรัดนตรัยประกอบไปด้วย พุทธรัตนะธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ พุทธรัตนะก็คือธรรมกาย ถ้าเราปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงพระธรรมกายแล้ว ก็ได้ชื่อว่าถึงพุทธรัตนะ ตั้งแต่ธรรมกายโคตรภู พระ-
โสตาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี กระทั้งเป็นพระอรหัต ท้งหมตล้วนเป็นรัตนะเป็น เป็นกายแก้ว มีความสะอาตบริสุทธิ์ล้วน

  กายธรรมอรหัตเป็นธาตุล้วนๆ ธรรมล้วนๆ มีชีวิตจิตใจที่สะอาตบริสุทธิ์ประเสริฐกว่า สูงกว่าชีวิตของมนุษย์ เพราะเป็นชีวิตของพระอริยเจัา ความรู้แจังเห็นจริงในธรรมทั้งหลายจะเกิดขึ้น เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความผาสุกความรู้อ้นไม่มีขอบเขต และเป็นอิสระจากกิเลสอาสวะที่บังตับบัญชา เหมือนเป็นผู้ตนอยู่เสมอ ไม่ง้วเงียด้วยกิเลส ตื่นภายในที่ขยายกว้างออกไปอย่างไม่มีขอบเขตจำก้ต มีธรรมจักขุ มีญาณท้สสนะ รู้รอบตัว เห็นได้รอบตัว ทั้งอดีตปัจจุบัน และอนาคต แทงตลอดในสรรพธรรมทั้งหลาย

   ในกลางพุทธรัตนะก็จะมีธรรมร้ตนะซ้อนอยู่ เป็นคล้งแห่งความรู้อันบริสุทธี้ที่จะพาให้พ้นทุกข์ เข้าถึงเอก้นตบรมสุข สุขอย่างเดียวในอายตนนิพพานและทำหน้าที่ทรงรักษาพุทธรัตนะเอาไวIนกลางของธรรมรัตนะก็มีส้งฆรัตนะเป็นธรรมกายละเอียดที่ซ้อนอยู่ข้างใน ทรงรักษาคำสอนหรือธรรมรัตนะเอาไว้
๓ อย่างนี้รวมก้นเป็นอันเดียวเรืยกว่าพระรัตนตรัย อยู่ในกลางกายมนุษย์ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นรัตนะที่ประเสริฐที่สุด รัตนะอื่นใดที่จะมาเสมอเหมือนมาเทียบเท่าหรือประเสริฐยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว พระรัตนตรัยนี่แหละเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุตของพวกเราทุกคน

  ดังนั้น เมื่อเรามาพบหนทางที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัยแล้ว รู้จักรัตนะอันวิเศษเช่นนี้แล้ว ก็ให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระรัดนตรัยภายในดัวก้นให้ไดัทุกๆ คน ให้ใจของเราหยุดในหยุด นิ่งลงไปตรงกลาง ถ้าเราหยุดได้ถูกส่วนเดียวเราก็จะเห็นสิ่งที่มีอยู่แล้วไปตามความจริง ตั้งแต่เห็นดวงธรรมภายในเห็นกายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม แล้วก็กายธรรมเป็นสิงทีมีมาแต่ดังเดิม ดังเติมดังแต่สม้ยไหนก็ไม่รู้ ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เป็นผังสำเร็จผังชีวิตของมนุษย์ กายมนุษย์ ทิพย์ พรหม อรูปพรหม กายธรรมโคตรภู โสดาฯ สกิทาคาฯ พระอนาคาฯ พระอรห้ดซ้อนก้นอยู่ เป็นแผนผังชีวิตของมนุษย์มีมา
ตั้งเติมแล้ว ไม่ว่าจะมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น หรือไม่บังเกิดก็ตาม ใครได้ค้นพบก้นขนมาเป็นพระองค์แรก โดยไม่ได้สั่งสอนใคร ก็เรียกว่าพระปัจเจกพุทธเจ้าที่รู้ด้วยพระองค์เองโดยไม่มีใครสั่งสอน แล้วก็เป็นครูของมนุษย์และเทวา สอนก้นต่อไป ก็เรียกว่า พระล้พพ้ญฌูพุทธเจ้า

  พระพุทธเจ้าท่านเข้าไปเห็นอย่างนี้แล้ว จึงเอามาบัญญ้ติ คือท่าให้มนุษย์เข้าใจได้ง่ายขึ้น ที่เข้าไปถึงนี่เขาเรียก ตวงธรรม ดวงศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติวิมุตติญาณบัสสนะ เข้าถึงของที่มีจริงภายใน แล้วก็บัญญ้ติเรียกชื่อว่าอย่างนี้ๆเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด ทิพย์ พรหม อรูปพรหม กระทั้งกายธรรมก็มา บัญญ้ติมาเรียกก้น เพึ่อให้มนุษย์ใด้เข้าใจ พอเข้าใจแล้วก็จะได้ปฏิบัติกันไป

  ให้เข้าถึงสิ่งที่มีอยู่ในตัวด้วยวิธีการหยุดการนิ่ง คือพอทำความเข้าใจภาคทฤษฎีภาคปริย้ติแล้ว ก็มาถึงภาคปฏิบ้ตคือแกใจหยุดนิ่ง พอถูกส่วนก็ถึงปฏิเวธ เข้าถึงสิ่งที่มีอยู่ภายใน เห็นดวงธรรม กายมนุษย์ละเอียด ทิพย์ พรหม อรูปพรหมกายธรรมด้งกล่าว ทั้งหมดเมื่อหยุดถูกส่วนแล้วจะเป็นเช่นนี้

  ที่หยุดไม่ถูกส่วน เพราะว่ามีสิ่งที่เหนี่ยวรั้งใจให้หลุดออกมา ก็คือเรื่องราวอะไรต่างๆ สรุปรวมแล้วก็คือเบญจกามคุณ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผ้สธรรมารมณ์ ให้เข้าใจง่ายๆ คือ เรื่องคน เรื่องล้ตว์ สิ่งของ เรื่องการทำมาหากินศึกษาเล่าเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องเที่ยวเตร่เพลิดเพลินอะไรอย่างนั้น เมื่อใจคุ้นอย่างนั้นก็ดึงออกมา เหนี่ยวรั้งออกมา ไม่หยุดไม่นิ่ง

   เมื่อใจไม่นิ่ง วิ่งออกมา ก็เจอเรื่องเยอะแยะ เรื่องเยอะเท่าไหร่ปัญหาก็เยอะ แรงกดดันเยอะ ความทุกข์ทรมานก็เยอะ วนเวียนก้นไปอย่อย่างนี้ จึงสอนให้ปลดปล่อยวางสิ่งเหล่านั้น แล้วก็มาแสวงหาความจริงที่มีอยู่ในตัวที่จะทำให้บรรลุวัดถุประสงค์ของความปรารถนา คือความลุขที่แท้จริง ความรู้แจ้งในชีวิด ในธรรมทั้งปวง การหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เป็นอิสระ จึงเป็นเปัาหมาย เป๋าใหญ่ใจดำทีเดียว จนกระทั่งหลุดพ้นไปหมด นั่นแหละคือเป๋าหมายชีวิต

  การไปสู่ที่สุดแห่งธรรมนั้นจุดหมายสุดท้ายปลายทางเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยกำลังบุญมาก ๆ บุญธรรมดาไปไม่ถึง ต้องเป็นบุญพิเศษ บุญน้อยก็ไปไม่ไต้ ต้องบุญเยอะ ๆ บุญมากก็ต้องขึ้นอยู่ก้มทำมาก ทำ บ่อย ๆ ทำ ถูกจุดแห่งบุญ ถูกท้กขิไณยบุคคล ถูกธรรมกาย จึงจะไปจุดหมายปลายทางคือที่สุดแห่งธรรมได้ บุญทั้งหมดทำซํ้าแลัวซํ้าอีก ไม่ใช่ทำทีเดียวแลัวก็เลิกกันไป ทำซํ้าแลัวซํ้าอีก ทำบ่อย ๆ สม่ำเสมอเป็นอณุวินาที ทุกวัน ทุกเดือนทุกปี ตลอดวัน ตลอดปี ตลอดไป จนหมดอายุขัย หมดไปแล้วไปสู่สุคติภพ ก็ต้องไปทำหยุดนิ่งต่อไปอีก ไม่ไตัพักผ่อนแบบที่เขาพ้กก้นทั้ว ๆ ไปหรอกก็ด้องไปหยุดไปนิ่ง ไปปฏิบ้ติกิจที่ไม่มีกายมนุษย์ มีแต่กายทิพย์นั้นแหละ ถึงเวลาลงมาเกิดก็มาทำต่ออีก อย่างนี้ดีขื้นกว่าเดิม มากขึ้นกว่าเดิม ซํ้าแล้วซํ้าเล่า จนน้บภพนับชาติไม่ถ้วน

  กระทั่งบารมีถึงที่สุดเต็มเปี่ยม เต็มเปี่ยมแล้วก็หลุดพ้นจากที่เขาบังคับบัญชา หลุดออกไปเหมีอนลูกไก่หลุดจากกระเปาะไข่ เราหลุดจากภพไป ภพช้อนภพ ภพในภพ ภพในภพนับกันไม่ถ้วนนนแหละ หลุดกันไปทีละภพ หลุดภพนี้ติดภพอื่น หลุดภพอื่น หลุดกันเข้าไปเรื่อยๆ หลุดกันจนกระทั่งสิ้นเชิงหลุดอย่างสมบูรณ์ ถึงที่สุดแห่งธรรม...

 

 

 

วันอาทิตย์ที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๓

จากหนังสือ แม่บท เดินทางข้ามวัฏสงสาร
 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0059284011522929 Mins