หลวงพ่อสอนอะไร (ตอนที่ ๑๒๖)
คิดเป็น...เห็นคุณค่า
"Two men look out the same prison bars, one sees mud and the other stars"
Frederick Langbridge
แปลเป็นไทยได้ว่า
"สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
คนหนึ่งตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย"
เมื่อหลายปีที่ผ่านมา อาตมาได้มีโอกาสไปร่วมประชุมสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกาที่วัดแห่งหนึ่งทางฝั่งตะวันออก ซึ่งในการประชุมนี้จะมีพระเถระทั้งจากประเทศไทยและเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในอเมริกาเข้ามาร่วมแสดงทัศนะและให้แนวทาง รวมทั้งวิธีการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ปักหลักมั่นคงในแผ่นดินนี้
ในช่วงเพลของวันที่สองของการประชุม อาตมาได้นั่งฉันกับพระเถระรูปหนึ่งจากประเทศไทยซึ่งท่านก็ค่อนข้างมีอายุแล้ว นั่งฉันกันไปก็สนทนาธรรมกันด้วยตามสมควร ถึงจุดหนึ่ง ท่านได้ถามอาตมาว่า
" ท่านมาจากวัดพระธรรมกายหรือ"
อาตมาก็นิ่งไปสักพัก เพราะไม่แน่ใจว่า ท่านสอบถามเพราะมีวัตถุประสงค์อะไร แต่ที่สุดก็ตอบไปว่า
" ครับ แต่ตอนนี้มาอยู่ที่อเมริกาหลายปีแล้วครับ "
" ผมขออนุโมทนาด้วย ท่านรู้ไหมว่า ผมมีของดีจากวัดท่าน ติดตัวตลอดเวลา"
ในตอนนั้นอาตมาก็นึกในใจว่า ท่านคงจะเคยมาร่วมงานที่วัดพระธรรมกายและคงจะได้รับเหรียญหลวงปู่หรือเหรียญพระธรรมกายแน่ ๆ จึงเรียนถามท่านไปว่า
" หลวงพ่อมีเหรียญรุ่นไหนหรือครับ"
" ผมพกเหรียญแม่ชีอาจารย์จันทร์ติดตัว "
คำตอบของท่าน ทำให้อาตมาเกิดความสงสัยจึงอดไม่ได้ที่ต้องถามท่านว่า
" ทำไมหลวงพ่อจึงพกเหรียญคุณยายครับ ผมนึกว่าเป็นเหรียญหลวงปู่หรือเหรียญพระธรรมกาย"
หลวงพ่อท่านเมตตาได้อธิบายให้ฟังว่า
" ที่ผมพกเหรียญแม่ชีอาจารย์เพราะผมเอาไว้สอนตนเอง ท่านลองคิดดูสิ แม่ชีอาจารย์ท่านอ่านหนังสือไม่ได้ เขียนหนังสือไม่ได้ แต่ประวัติของท่านน่าทึ่งมาก ท่านสามารถสร้างวัด สร้างคนได้ แค่สร้างวัดสักวัดขนาดเล็ก หาคนเข้าวัดหลักร้อย ยังยากแล้ว แต่นี่ท่านสามารถสร้างวัดพระธรรมกายที่ใหญ่โตขนาดนี้ หาคนเข้าวัดได้เป็นล้าน แถมขยายสาขาไปทั่วโลกได้อีก มันอัศจรรย์เกินอัศจรรย์
เวลาที่ผมเหนื่อย ผมท้อกับการสร้างวัด กับการฝึกคน ผมก็จะเอาเหรียญแม่ชีอาจารย์นี่แหละมาดู แล้วบอกตัวเองว่า เราเรียนมาก็เยอะ ทั้งอ่านออก เขียนได้ เราก็ต้องทำให้ได้ดีกว่าท่านสิ"
จากการสนทนากับพระเถระรูปนี้ ทำให้อาตมาปลื้มใจ ปีติใจที่มีผู้เห็นคุณค่าในครูบาอาจารย์ของเรา รวมทั้งได้ข้อคิดว่าในการมองอะไรก็ตาม หากเรามองด้วยใจที่ใส ๆ เราก็จะสามารถพินิจพิจารณาเห็นประโยชน์ เห็นคุณค่าจากสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวได้ ตรงกันข้าม หากมองอะไรด้วยอคติแล้ว เราก็จะเสียประโยชน์จากสิ่งรอบข้างเช่นกัน
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๕ ม.ค. ๖๒
http://anacaricamuni.blogspot.com