หลวงพ่อสอนอะไร (ตอนที่ ๑๒๗)
มองทุกสิ่ง...เพื่อสอนตน
เมื่อหลายวันก่อน หลังจากที่เรียนพระไตรปิฎกเสร็จ หลวงพ่อทัตตชีโวได้เมตตาเล่านิทานให้ฟังในขณะเดินทางกลับอาศรมบัณฑิต ท่านเล่าถึงชายสองคนซึ่งเป็นเพื่อนกัน วันหนึ่งเดินไปด้วยกัน ใกล้จะถึงสะพานก็มองเห็นอีกฝั่ง มีชายคนหนึ่งเดินมา พอชาวบ้านเห็นรีบเข้าไปหา ไปไหว้ ไปทักทาย ทันใดนั้น ก็มีชายอีกคนเดินมา ชาวบ้านต่างคนต่างรีบหลบเข้าบ้าน เหมือนหวาดกลัวอะไรสักอย่าง
หนึ่งในชายสองคนที่เป็นเพื่อนกันเลยเอ่ยปากถามเพื่อนว่า "เอ็งเห็นอะไร"
เพื่อนรีบตอบเลยว่า "ได้ครูมาหนึ่งคน คือ คนแรกที่มาถึงแล้วมีแต่คนทักทาย เข้าไปไหว้ เพราะเขาเป็นคนดี ได้ข้อคิดว่า ต้องทำให้ได้เหมือนกับเขา จะได้เป็นที่รักของคนทั่วไป แล้วเอ็งได้อะไร"
เพื่อนอีกคนรีบตอบเลยว่า " ได้ครูมาสองคน คนแรกก็อย่างที่เอ็งว่า ครูคนที่สองก็ชายคนที่สองนั่นแหละ ฟ้องว่า เจ้านี่ คงเกเรน่าดู ไปไหนใครก็รังเกียจ ก็เอาไว้สอนตัวเองว่า อย่าไปทำอย่างเขา"
เมื่อฟังหลวงพ่อเล่าเรื่องนี้จบ ทำให้อาตมานึกถึงเวลาที่หลวงพ่อให้ไปดูงานตามที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากท่านจะให้หลักว่า ไปดูงานที่ไหนก็ให้เอาหลักสัปปายะ ๔ เข้าไปจับ คือ ดูเรื่องสถานที่ อาหาร บุคคลธรรมะแล้ว ท่านยังย้ำว่า
"การไปดูงานให้เกิดประโยชน์นั้น ให้มองทั้งสองด้านคือ ด้านที่เขาเจริญหรือด้านดีของเขา เพื่อเอามาปรับปรุง แก้ไข ในวัดวาของเรา เอาข้อดีของเขามาทำให้วัดเราดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
ในขณะเดียวกัน ก็ดูในจุดที่หย่อน ที่เขาบกพร่อง แต่ไม่ใช่ดูเพื่อการจับผิด ให้ดูเพื่อเอามาพิจารณา เอามาอุดช่องโหว่ ช่องว่าง อย่าให้วัดของเราเกิดความบกพร่องอย่างนั้น
หากเราเข้าใจหลักในการไปดูงาน ไปศึกษางานอย่างที่ว่ามา การไปดูงานนั้น ๆ ก็จะเกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเราเองและพระพุทธศาสนานะลูกนะ"
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๓ ก.พ. ๖๒
http://anacaricamuni.blogspot.com
