หลวงพ่อสอนอะไร (ตอนที่ ๕)
มีโยมที่เพิ่งมาวัดไม่กี่ครั้ง เล่าให้อาตมาฟังว่า เขารู้สึกสงสัยว่า ในขณะที่มีข่าวในทางลบกับวัดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ทำไมจึงมีสาธุชนมาวัดอย่างไม่ขาดสาย นอกจากจะไม่ลดจำนวนลงแล้ว กลับเพิ่มจำนวนขึ้นเสียอีก
อาตมาจึงถามกลับไปว่า “ แล้วทำไมโยมจึงมาหล่ะ ”
โยมนิ่ง ทำท่านึกสักครู่แล้วก็ตอบว่า “ ก็โยมไม่เห็นว่าหลวงพ่อจะผิดตรงไหน ”
อาตมาเลยถามกลับไปบ้างว่า “ แล้วโยมไม่ได้ดูข่าว อ่านข่าวบ้างเหรอ ที่มีคนออกมาโจมตีว่าร้ายหลวงพ่อ ”
“ โยมเพิ่งมาวัด ไม่รู้อะไรมากหรอก โยมไม่รู้จักคนที่ว่าหลวงพ่อ แต่แม้ว่าโยมจะมาวัดไม่กี่ครั้ง แต่โยมก็เห็นและรู้จักหลวงพ่อจากผลงานที่ท่านทำไว้ให้กับพระศาสนา ”
จากคำตอบของโยมท่านนี้ ทำให้อาตมากลับมานั่งคิด นอนคิด ทบทวนว่าจริงอย่างที่โยมว่า การที่คนเราจะรู้จักกันดีพอ ก็ต่อเมื่อได้อยู่ร่วมกัน ทำให้อาตมาได้ข้อสรุปสำหรับตนเองว่า เหตุที่อาตมาและเจ้าหน้าที่ทุกคนในวัด เคารพ รัก หลวงพ่อไม่เสื่อมคลายและนับวันจะยิ่งทับทวีมากยิ่งขึ้นด้วยเหตุ ๒ ประการ
๑. เรารู้จักคนที่โจมตีหลวงพ่อดีว่าเขาเป็นคนอย่างไร ซึ่งประเด็นนี้คงจะไม่ขอพูดถึง เพราะเวลานึกถึงความไม่ดีของคนอื่นจะทำให้ใจเราหมอง
๒. เรารู้จักหลวงพ่อมากเพียงพอ เพราะอยู่กับท่านมาตลอด
สำหรับคนบางคนอาจถูกคนพินอบพิเทา เคารพกราบไหว้เมื่ออยู่ต่อหน้า เพราะเกรงว่าหากไม่ทำอย่างนั้นจะกระทบตำแหน่งหน้าที่การงานหรือเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่สำหรับหลวงพ่อนั้น เรารัก เคารพท่านด้วยใจ ไม่ต้องให้ใครมาบังคับ
ในช่วงที่อาตมาเป็นพระพี่เลี้ยงสามเณร จะได้รับความเมตตาจากคุณยายอาจารย์ และหลวงพ่อทั้งสองคอยให้คำแนะนำในการดูแลสามเณรเสมอ
หากมีเวลาคุณยายอาจารย์ท่านจะมาที่แผนกสามเณร มาสอบถามความเป็นอยู่ และเมื่อมีญาติโยมจากต่างประเทศมากราบคุณยาย ท่านจะให้โยมพี่อารีพันธ์ โทรมานิมนต์ให้ไปรับชอคโกแลตสำหรับสามเณร บางครั้งโยมพี่ก็จะพาคุณยายมาถวายเอง วันนั้นจะเป็นวันที่สามเณรเบิกบานและดีอกดีใจที่ได้ทั้งความอิ่ม และปลื้มใจที่คุณยายมาเยี่ยม
ความเอาใจใส่ต่อสามเณรของหลวงพ่อทั้งสองก็เช่นกัน หากไม่ได้ยินกับหูอาตมาจะไม่อยากเชื่อเลยว่า หลวงพ่อทั้งสองท่านมีความคิดเหมือนกันและพูดแทบจะเป็นคำเดียวกัน ท่านทั้งสองบอกพระพี่เลี้ยงสามเณรว่า
“หลวงพ่อมอบหมายให้พวกท่านดูแลสามเณรให้ดี ขอให้นึกถึงว่า สามเณรเหล่านี้ต้องจากอกของพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก หากพวกท่านไม่ให้ความเอาใจใส่ให้ดี เขาจะไปพึ่งใคร หากมีอะไรขาดตกบกพร่องขอให้บอกหลวงพ่อ
หากมีสามเณรเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล ไม่มีรถ ก็ให้ไปเอารถหลวงพ่อ อย่าให้ชักช้าเสียเวลา”
ณ วันนี้ สามเณรองค์เล็ก ๆ เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว กลายมาเป็นพระภิกษุหนุ่ม เปรียญ ๙ หลายองค์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญให้กับพระพุทธศาสนา หลายองค์ก็ไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่ต่างประเทศ
ทั้งนี้ก็เพราะความเอาใจใส่และคำแนะนำสั่งสอนของหลวงพ่อนั่นเอง
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก
อาสภกันโต ภิกขุ
๒๐ ก.ค. ๕๙
http://anacaricamuni.blogspot.ae