โลกในอุดมคติมีจริงหรือ?
โลกในอุดมคติ ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้นในโลกใบนี้
แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว...นับครั้งไม่ถ้วน
แต่ว่า แต่ละครั้งห่างกัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงระลึกชาติ
ไปเห็นเรื่องนี้เป็นปกติของท่าน คือ ในยุคใดที่มนุษย์มีศีล ๕ เป็นปกติ มีการบังเกิดขึ้นของพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้ที่สั่งสมบุญมาดีปกครองโลก พระองค์ก็ทรงสอนให้มนุษย์ทุกคนในโลก มีศีล ๕ เว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการ
พูดปด เว้นจากการดื่มน้ำเมา สิ่งมึนเมา
โลกในยุคนั้น ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล ผลหมากรากไม้มีรสโอชา มนุษย์จะมีโรคภัยไข้เจ็บน้อย อายุขัยยืนยาว มีความรักสามัคคีกัน
จะอยู่เย็นเป็นสุขกันมากเลย
แสดงว่าเรื่อง “ศีลธรรม” ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วแหละ เพราะว่าถ้าศีลธรรมเกิดขึ้นที่ใจ ก็จะขยายมาที่กาย แล้วก็ออกมาที่สิ่งแวดล้อมไปในบรรยากาศ จะเกิดภาวะโลกเย็น
พระเจ้าจักรพรรดิที่ปกครองโลก เกิดขึ้นนับพระองค์ไม่ถ้วน ซ้ำๆ
โลกไม่เคยถูกปกครองด้วยการรบราฆ่าฟันเลย ถ้าตราบใดยังรบรา
ฆ่าฟันกันอยู่ โลกในอุดมคติจะไม่มีวันเกิดขึ้น สิ่งดี ๆ จะไม่มีวันเกิดขึ้น
ในโลกใบนี้ เพราะว่าผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมจองเวร แล้วก็มีการ
ล้างแค้น ผูกแค้น ล้างแค้น ผูกแค้น ล้างแค้น นี่เฉพาะที่ตาเราเห็นนะ
ที่ตาเราไม่เห็นอีก ตายแล้วไปอบาย แล้วก็วนเวียนขึ้นมาฆ่ากัน
อยู่อย่างนั้นแหละ ไม่ว่าจะฆ่ากันด้วยเหตุอันใดก็ตาม ความทุกข์ก็จะระบาดไปทั่ว
โลกในอุดมคติ เคยเกิดขึ้นมาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน
จะเกิดขึ้นอีกสักครั้ง
ในยุคที่เรามีชีวิตอยู่...ไม่ได้เชียวหรือ
๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒
จากหนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ 2