สาระสำคัญแห่งการเคารพพระธรรม คือ
๑. ความตระหนักในคุณของพระธรรม ด้วยศรัทธามั่นว่าพระธรรมคำสั่งสอนหรือ “ศาสนธรรม” ทั้งปวงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าล้วนมีฐานมาจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่เรียกว่า “โลกุตตรธรรม”ซึ่งพระพุทธองค์ทรงค้นพบ และนำมาสั่งสอนให้ทราบความเป็นไปของโลกและชีวิตตามความเป็นจริง เป็นหลักประพฤติปฏิบัติสำหรับการครองชีวิตที่ถูกต้องดีงามเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
๒. ทำให้มีศรัทธามั่นว่า ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมหรือปฏิบัติสัทธรรมอย่างจริงจัง และจริงใจตลอดโดยไม่บกพร่อง ย่อมจะประสบแต่ความสุขกายสบายใจ เป็นที่รักใคร่นับถือไว้วางใจของผู้ใกล้ชิดและผู้ที่มาคบหาสมาคมเกี่ยวข้องซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเป็นเหตุปัจจัยใหผู้ปฏิบัติประสบความสุขความเจริญในชีวิตนี้
๓. ทำให้เชื่อมั่นว่า การปฏิบัติตามพระธรรมจนเป็นนิสัยจะเป็นเสมือนเกราะกำบัง ไม่ให้ผู้ปฏิบัติตกไปในความชั่ว ทั้งโลกนี้และโลกหน้าอย่างแน่นอน ดังธรรมภาษิตว่า “ผู้ประพฤติธรรม ย่อมไม่ไปสู่ทุคติ”
๔. การปฏิบัติสัทธรรมเป็นการสั่งสมบุญบารมีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถึงขั้นบรรลุมรรค ผล และนิพพาน ถ้ายังไม่สามารถบรรลุได้ในชาตินี้บุญบารมีจากปฏิบัติสัทธรรมก็จะสั่งสมไว้สำหรับภพชาติต่อ ๆ ไปตราบเท่าที่ยังต้องเวียนวนไม่พ้นไปจากสังสารวัฏ
เมื่อบุคคลมีศรัทธามั่นดังกล่าวแล้ว ย่อมปฏิบัติสัทธรรมโดยไม่ลังเลสงสัย เพราะมุ่งหวังว่าจะได้รับประโยชน์หรืออานิสงส์แห่งการปฏิบัติตามกำลังศรัทธา ความเพียร และปัญญาของตน
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติสัทธรรมที่จะก่อให้เกิดผลดีอย่างแท้จริงนั้น จำเป็นจะต้องปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่นเดียวกับการอาบน้ำชำระล้างร่างกาย และการรับประทานอาหาร จึงจะสามารถเห็นผล
ได้อย่างชัดเจน
ปฏิบัติสัทธรรมที่จะก่อให้เกิดผลเป็นปฏิเวธสัทธรรมนั้นจำเป็นจะต้องเน้นหนักในเรื่องการเจริญสมาธิภาวนา ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า “เพิ่มพูนเรือนว่าง” ซึ่งหมายถึง การเจริญสมาธิภาวนา ตลอดคืนตลอดวัน กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้ายังไม่ได้ทุ่มเทให้กับการเจริญสมาธิภาวนาชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ก็ยากที่จะบรรลุปฏิเวธสัทธรรม คือ มรรค ผล และนิพพานได้
อนึ่ง กระบวนการศึกษาและปฏิบัติสัทธรรมนั้น จำเป็นต้องมีครูอาจารย์ผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรม และเป็นผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัยอย่างแท้จริง ดังนั้น การแสวงหาครูบาอาจารย์ จึงเป็นสิ่งที่พุทธบริษัทจะต้องกระทำอย่างรอบคอบ มิฉะนั้น นอกจากการปฏิบัติสัทธรรมจะไม่เกิดผลดีแล้ว ยังจะทำให้ศรัทธามั่นในพระธรรมของตนเสื่อมสลายไปอีกด้วย
บุคคลผู้มีบุญลาภอันประเสริฐ มีโอกาสได้พบครูบาอาจารย์ที่ประเสริฐ สามารถอธิบายขยายความพระปริยัติสัทธรรมให้เข้าใจได้ง่าย แต่ลึกซึ้ง สามารถชี้แนะวิธีการเจริญสมาธิภาวนาที่เหมาะสมกับจริตอัธยาศัยแก่ผู้เป็นศิษย์ ประกอบกับมีปิยวาจาที่ทำให้ศิษย์เกิดกำลังใจทุ่มเทชีวิตปฏิบัติสัทธรรมเป็นกิจวัตรประจำวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจริญสมาธิภาวนา ผลของการปฏิบัติอย่างน้อยย่อมก้าวขึ้นไปถึง ญาณทัสสนะในระดับใด ระดับหนึ่ง และถ้ายังปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างต่อเนื่อง ไม่ช้าไม่นานย่อมสามารถบรรลุถึงธรรมอันเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ที่แฝงอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน ดังได้อธิบายไว้แล้วในตอนต้นบทอย่างแน่นอน
"ปฏิบัติสัทธรรมที่จะก่อให้เกิดผลดีอย่างแท้จริงนั้นจำเป็นจะต้องปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวันจึงจะสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน"
ด้วยคุณวิเศษของธรรมชาติบริสุทธิ์นี้ ผู้ปฏิบัติจะสามารถพัฒนาญาณทัสสนะของตนให้ก้าวหน้าขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว จนถึงขั้นสามารถเห็นอริยสัจ ๔ ในกายตนได้ ประสบการณ์ภายในระดับนี้ แม้ยังไม่สามารถกำจัดอาสวกิเลสในตนให้หมดสิ้นไปได้ในชาตินี้ ก็ถือได้ว่า ได้เดินมาตามเส้นทางเอกสายเดียวอย่างถูกต้องแล้ว และจะเป็นบุญบารมีสั่งสมไว้สำหรับการบรรลุปฏิเวธสัทธรรมในภพชาติต่อ ๆ ไปอย่างมั่นคงด้วย
นอกจากนี้ ไม่ว่าผลการปฏิบัติสัทธรรมของเราจะอยู่ในระดับใดก็ตาม เราไม่ควรที่จะละเลยในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้แก่สมาชิกในครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหาย ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนบ้าน
ตลอดจนผู้คนในชุมชนอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่รู้สึกย่อท้อ เบื่อหน่ายหรือหมดกำลังใจ ทั้งนี้เพราะนอกจากจะเป็นการสั่งสมบุญบารมีของเราเองแล้ว ยังเป็นการสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ให้มีความปลอดภัยในสังสารวัฏอีกด้วย
"ความเคารพในพระธรรมคือ แรงบันดาลใจที่สำคัญทำให้บุคคลพากเพียรปฏิบัติตามพระธรรมอยู่ทุกลมหายใจ"
จากหนังสือ ที่สุดแห่งธรรม ถึงได้ด้วยความเคารพ 2
โดยคุณครูไม่เล็ก
ฟังหนังสือเสียง shorturl.at/hitvF