คิดพูดเรื่องละเอียด ใจละเอียด
เพียงแค่สองอย่างนี้ |
จำไว้ |
หนึ่งถูกวิธีไซร้ |
ทุกขั้น |
สองหมั่นขยันให้ |
ต่อเนื่อง |
ลูกจักได้ธรรมนั้น |
เที่ยงแท้แน่นอน |
ตะวันธรรม
เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้วต่อจากนี้ไปตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากันนะลูกทุกคนคงจำได้ว่า ไม่มีทางลัดอื่นใด นอกจากความเพียรพยายาม ทำอย่างถูกวิธี ให้มีสติ มีความสบาย แล้วก็สมํ่าเสมอทุกวัน อย่าให้ขาด
ให้มีชั่วโมงหยุด ชั่วโมงนิ่ง ชั่วโมงกลาง ที่เราจะต้องประคับประคองใจให้อยู่ภายในทั้งวัน ไม่ว่าเราจะประกอบสัมมาอาชีวะหรือทำภารกิจอะไรก็ตาม จะอาบนํ้า ล้างหน้า แปรงฟัน ขับถ่าย เหยียดแขน คู้แขน นั่ง นอน ยืน เดิน อะไรก็แล้วแต่ ถ้ารักที่จะเข้าถึงธรรมถึงพระรัตนตรัยในตัว ต้องหมั่นประคองใจนะลูกนะ
แล้วก็ต้องใจเย็น ๆ ใจใส ๆ มีสติ มีความสบาย มีความสมํ่าเสมอ ใจที่หยาบก็จะค่อย ๆ ละเอียด มันไม่ใช่ฮวบฮาบละเอียดขึ้นมาเลย จากหยาบก็มาละเอียด จากละเอียดน้อยก็ค่อย ๆ มา ละเอียดมาก จนกระทั่งค่อย ๆ โล่ง โปร่ง เบา สบาย ตัวขยายเห็นแสงสว่าง เห็นดวงธรรม เป็นต้น ก็จะมีขั้นมีตอนของมัน
เพราะฉะนั้นอย่าไปแสวงหาหนทางลัดอื่นใดเลย หยุดกับนิ่งเท่านั้นลัดที่สุด แต่ก็ต้องค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ ค่อย ๆ ฝึกให้ใจหยุดนิ่ง เพราะฉะนั้นจากมืดตื้อมืดมิด ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม และต้องเข้าถึงทุกคนด้วย เพราะดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์หยาบมีอยู่แล้วในตัวของเราตรงฐานที่ ๖ แค่เราค่อย ๆ ประคองใจให้หยุดให้นิ่ง สบาย ๆ ให้ใจค่อย ๆ ละเอียด
ใจละเอียดเท่านั้นจึงจะไปถึงสิ่งที่ละเอียดได้ ถ้าใจไม่ละเอียดมันเข้าไม่ถึง เพราะฉะนั้นวันทั้งวันในระบบความคิดคำพูดและการกระทำของเราต้องวนเวียนกับสิ่งที่ละเอียด ถ้าเราคิดเรื่องละเอียด พูดเรื่องละเอียดทำเรื่องละเอียด แล้วก็วนเวียนอยู่กับสิ่งที่ละเอียดใจก็จะละเอียดตาม
นึกถึงองค์พระ นึกถึงดวง นึกถึงธรรมะ นึกถึงบุญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ละเอียด บริสุทธิ์ สะอาด เกลี้ยงเกลา นึกบ่อย ๆ ใจของเราก็จะพลอยเป็นอย่างนั้น คือ บริสุทธิ์ สะอาด เกลี้ยงเกลาเหมือนกันกับวัตถุสิ่งของที่เราจะนึก จะคิด จะพูด หรือจะทำ นี่คือกฎของการเข้าถึงธรรมที่ลูกทุกคนจะต้องจำเอาไว้
ถ้าเราอยากเข้าถึงได้เร็ว แม้จะไม่มีทางลัดก็ต้องคิดสิ่งที่ละเอียดสิ่งที่สะอาด สิ่งที่บริสุทธิ์ พูดก็ต้องละเอียด สะอาด บริสุทธิ์ ทำก็ละเอียด สะอาด บริสุทธิ์ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ๓ ทางนี้ บ่อย ๆเนือง ๆ ที่ภาษาบาลีเขาใช้คำว่า ภาวิตา พหุลีกตา บ่อย ๆ เนือง ๆ ซํ้า ๆมีเวลาเป็นนึก มีเวลาเป็นพูด มีเวลาเป็นทำ
อยู่คนเดียวจะพูดกับใคร ก็พูดกับตัวเราเองด้วยคำภาวนาสัมมา อะระหัง หรือสอนตัวเราเองว่าเราต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ ต้องเป็นผู้สะอาด ต้องเกลี้ยงเกลา แล้วก็ลงมือทำอย่างนี้นะลูกนะ
คืนนี้ก็เช่นเคย ใครเหนื่อย ใครเพลีย ใครง่วง ใครตึง ใครเครียดปล่อยให้มันหลับไปเลย ถ้าเมื่อยก็ขยับเบา ๆ ถ้าฟุ้ง ฟุ้งหยาบเราก็ลืมตา ดูดวงแก้ว ดูองค์พระ ดูหลวงปู่ฯ ดูคุณยายอาจารย์ฯ ของเรา เป็นต้น ถ้าใจเริ่มละเอียด รู้สึกสบาย ก็ค่อย ๆ หลับตาลง แต่ถ้าฟุ้งละเอียดเราก็วางใจหยุดให้นิ่ง ๆ ถ้าความฟุ้งเป็นภาพ เราก็นึกภาพดวงแก้ว องค์พระเข้ามาแทน หรือมหาปูชนียาจารย์ของเรามาแทนถ้าฟุ้งเป็นเสียง เราก็ใช้คำภาวนา สัมมา อะระหัง เข้ามาสู้กัน ก็ต้องค่อย ๆ ประคับประคองกันไปอย่างนี้นะลูกนะ เดี๋ยวเราก็สมหวังคืนนี้ให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจในการเข้าถึงพระรัตนตรัยกัน ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบ ๆ
จันทร์ที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕
จากหนังสือ ง่ายเเต่ลึก เล่ม 1
โดยคุณครูไม่ใหญ่