หลับในอู่ทะเลบุญ

วันที่ 05 พค. พ.ศ.2563

หลับในอู่ทะเลบุญ

 

 

ก. ไก่แก้วกู่ก้อง

กังวาน

ข. ขับเสียงเอ้กขาน

เจื่อยแจ้ว

ค. คนฟังเสียงหวาน

คล้ายมรรค แปดเฮย

ง. ง่วงหายหมดแล้ว

ลุกขึ้นภาวนา

                                                                                                                                                                 ตะวันธรรม

 

                    เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้วต่อจากนี้ไปตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากันนะ ในอิริยาบถนอนพักผ่อน เราคุ้นเคยกับการนอนวันละ ๖ชั่วโมงบ้าง ๗ - ๘ ชั่วโมงบ้าง คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะฉะนั้นถ้าหากเราไม่ได้หลับจำนวนชั่วโมงขนาดนี้ มีความรู้สึกว่าเหมือนกับเราพักผ่อนไม่เต็มที่เลยกลายเป็นความกังวลไป จริง ๆ แล้วการหลับแบบนี้ ยังไม่ใช่เป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์ บางครั้งเรายังฝัน ตื่นมายังเมื่อย ยังซึม ยังมึนก็มี

 

                  การหลับที่สมบูรณ์ คือ ใจต้องหลับอยู่ในกลางสมาธิ อยู่ในกลางอู่แห่งทะเลบุญที่โล่ง ๆ ว่าง ๆ ลื่นไหล

 

                 เข้ากลาง มีความสว่าง มีดวง มีองค์พระ เราอยู่กับตรงนั้นไปเถอะ แล้วลืมไปเลยว่า เวลาผ่านไปกี่ชั่วโมงเหลืออีกกี่ชั่วโมงเราจะหลับแบบปกติ ไม่ต้องไปคำนึงถึง พอตื่นมาตอนเช้า เราสังเกตดูจะเห็นได้ว่า
มันไม่มึน ไม่ซึม ไม่เมื่อย ไม่งง นั่นแหละคือการหลับที่สมบูรณ์

 

                 เป็นการหลับแบบลึก หลับลึก ๆ ที่มีการตื่นตัวภายใน เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ชาวโลกไม่รู้จัก แต่มีอยู่จริงในมนุษย์ทุก ๆ คนเหลือแต่เพียงเขาไม่รู้จักแล้วก็ไม่เฉลียวใจว่ามีสิ่งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งดี ๆอยู่ในตัวของตัว ไม่มีใครไปบอก ไม่มีความรู้

 

                เพราะฉะนั้นเมื่อเรามาถึงจุดแหล่งแห่งความรู้อันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเราจะหลับด้วยวิธีการใหม่ คือหลับแต่ตา แต่ตื่นตัวภายใน ในชั่วโมงที่เราจะต้องนอนหลับพักผ่อนแต่ว่ามันมีความสว่างโพลงภายใน ใจเกลี้ยงเกลา เราก็ควรจะปล่อยมันไป ตามใจ อย่าไปฝืนประสบการณ์ แล้วเดี๋ยวจะมีสิ่งดี ๆ
ที่น่าศึกษา เพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์ภายในมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นอุปการะในการที่จะศึกษาวิชชาธรรมกายต่อไป

 

                เพราะฉะนั้นอย่าไปวิตกกังวลถึงการหลับพักผ่อนที่ไม่เป็นไปตามปกติของมนุษย์ธรรมดา มนุษย์ธรรมดาหลับเพราะมีกิเลสเข้าไปบังคับครอบงำ หลับก็ตื้น ๆ หลับแล้วก็ยังฝัน ตื่นมาก็ยังมึนยังซึมอยู่ ยังไม่สดชื่น เหมือนนอนไม่พอสักที มนุษย์หลับแบบนั้น

 

              เขาเรียกว่าหลับใหล แต่นี่ไม่ใช่ หลับลึกที่มีการตื่นตัวภายใน ให้รู้จักกันอย่างนี้

 

              เพราะฉะนั้นถ้ามีประสบการณ์อย่างนี้ ฝึกต่อไป หยุดต่อไปนิ่งไปเรื่อย ๆ ให้วันกับคืนเป็นเหมือนหนึ่งเดียวกัน กลางวันคือกลางคืน กลางคืนคือกลางวันเป็นผู้ที่มีราตรีเดียว สว่างโพลงภายในอย่างนี้ ส่วนใครที่ยังไม่ถึงจุดนี้ก็ฝึกต่อไปนะลูกนะ ฝึกหยุดฝึกนิ่งพอหยุดนิ่งถูกส่วน เดี๋ยวก็ได้ทุกคน

 

               คืนนี้ก็เช่นเคย ใครเหนื่อย ใครเพลีย ใครง่วง ใครตึง ก็ปล่อยให้หลับไปเลยในกลางอู่แห่งทะเลบุญ ใครเมื่อยก็ขยับ ฟุ้งหยาบก็ลืมตาแล้วค่อยว่ากันใหม่ ทำอย่างนี้ ให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจในการเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวคืนนี้ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบ ๆ

 

                                                                                                  ศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕

จากหนังสือ ง่ายเเต่ลึก เล่ม 1
                                                                                                              โดยคุณครูไม่ใหญ่

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.015107949574788 Mins