นอนไม่หลับ "ผีอำ" อยากนอนหลับให้สบาย

วันที่ 19 พค. พ.ศ.2563

นอนไม่หลับ "ผีอำ" อยากนอนหลับให้สบาย

                “เวลาเราใกล้จะหลับ” ลองสังเกตอารมณ์ของเราดูว่า อารมณ์ของเรานั้นเป็นอย่างไร ในสภาวะปกติที่เรานอนหลับ เราจะพบว่าอารมณ์ของเรานั้นผ่อนคลายและปล่อยให้เรื่องราวในจิตใจนั้นไหลไปเรื่อยๆ เราจะไม่ได้ไปฝืนหรือไปปรุงแต่งเรื่องราวเหล่านั้น  ภาพยนตร์เรื่องๆต่างๆ ดำเนินไป จนกระทั่งเราไม่ใส่ใจเรื่องราวทุกๆ เรื่องในหัวเราเลย  หรือแม้ใส่ใจก็เล็กน้อย ร่างกายเรากล้ามเนื้อผ่อนคลาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อตรงเปลือกตา แล้วเราก็ค่อยๆ เคลิ้มหลับไป เหมือนแสงเทียนที่ค่อยๆ ลิบหรี่ๆ และดับไป


               สภาวะเช่นนี้เป็นอารมณ์ที่เราใกล้จะหลับ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วนี่ ถ้าเช่นนั้น  “ทำไมจึงนอนไม่หลับ” อะไรก็ตามที่ทำให้อารมณ์ของเราไม่สบายและผ่อนคลาย เราจะนอนไม่หลับ ให้เราดูองค์ประกอบ 3 อย่าง 
 

 1. สิ่งแวดล้อมที่ไม่อำนวย เช่น ในห้องร้อนเกินไป อึดอัด อากาศไม่ถ่ายเท ที่นอนไม่สบาย ฯลฯ 
 

 2. ร่างกายที่ไม่ผ่อนคลาย เช่น เราออกกำลังกายก่อนนอน ทำให้ร่างกายตื่นตัว หรือกินกาแฟมากไป หรือเราเครียดมากจนกล้ามเนื้อตึงไปหมด
 

 3. จิตใจที่กังวล ใจเรายังหมกหมุ่นอยู่กับเรื่องๆ หนึ่ง ไม่กังวลถึงเรื่องในอนาคต ก็ยังปล่อยวางเรื่องในอดีตไม่ได้ หรืออามรณ์ตื่นตัวมันยังครุกรุ่นอยู่ในใจ


                แต่สิ่งที่มีผลมากๆ ต่อการนอนหลับนั่นก็คือ สภาพจิตใจของเรานั่นเอง แม้สิ่งแวดล้อมจะเอื้ออำนวยในการนอนหลับแล้ว ร่างกายจะอยากพักผ่อน แต่จิตใจของเรากลับยังมีเรื่องราวมากมายในหัว กังวล ไม่พร้อมจะหลับ หลายๆ ท่านอาจจะเคยเป็นลักษณะนี้ เมื่อล้มตัวลงนอน ร่างกายต้องการพักผ่อน แต่จิตใจไม่พร้อมจะพัก จึงเกิดอาการฝืน หรือพยายามจะข่มบังคับให้หลับ แต่ยิ่งบังคับเท่าไร เรายิ่งไม่หลับ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง  กังวลถึงวันรุ่งขึ้นกลัวจะพักผ่อนไม่พอ พยายามให้หลับ สุดท้ายก็ไม่หลับ ไปหลับเอาอีกทีก็ตอนใกล้จะถึงเวลาตื่น

 

                ถ้าเป็นเช่นนี้ บางท่านอาจมีอาการอย่างหนึ่งในช่วงที่นอนไม่หลับ และใกล้จะหลับ คือ อาการกึ่งหลับกึ่งตื่น ร่างกายพักไปแล้ว แต่ใจบางส่วนยังรู้สึกตัวอยู่ มีอาการเหมือนหลับแต่ไม่หลับ บางคนก็ขยับตัวไม่ได้ แต่กลับรู้สึกตัว และบางครั้งก็ตกใจกลัว จะตื่นก็ไม่ตื่น จะหลับก็ไม่หลับ กลัวจนตะโกนร้องเรียกเสียงดัง แต่ร้องดังเท่าไรก็ไม่มีเสียงออกมาเลยสักนิด จะทำให้หลับก็นอนไม่หลับ อาการอย่างนี้ที่หลายๆ ท่านเรียกว่า “ผีอำ” นั่นก็คือ ร่างกายอ่อนล้า แต่ใจยังเครียดและกังวล


                ดังนั้นถ้าเราไม่อยากเจอผีอำ อยากหลับให้สนิท สบาย มีคุณภาพ ตื่นมาแล้วสดชื่น เราก็ต้องทำสิ่งแวดล้อม ร่างกาย และจิตใจ ให้ทุกอย่างเป็นไปเพื่ออารมณ์สบายและผ่อนคลายของเรา ให้คล้ายๆ กับตอนที่เราใกล้จะหลับ เราก็จะหลับได้อย่างง่ายๆ 

 

             เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราจึงต้องทำองค์ประกอบด้วย 3 อย่างนี้คือ
 

 1. สิ่งแวดล้อม

เราต้องสร้างบรรยากาศในห้องนอน ต้องผ่อนคลาย ไม่มีแสงเลยยิ่งดี มืดสนิท หรือแสงสลัวก็ได้ เงียบสงบ อากาศถ่ายเทปลอดโปร่ง ที่นอนหมอนก็มีผลต่อท่าทางการนอนเช่นกัน นั่นคือสิ่งแวดล้อมในห้องนอนทั้งหมดเป็นไปเพื่อความผ่อนคลายสบาย
 

 2. ทำร่างกายผ่อนคลาย ที่นอนสบาย


  นอกจากนั้นกิจวัตร คือสิ่งที่เราทำเป็นประจำทุกวันก็มีผลมากต่อการนอนหลับเช่นกัน โดยเฉพาะ เวลาเข้านอน และเวลาตื่นนอน ถ้าเราเป็นคนนอนดึกและตื่นสาย ให้เราลองปรับเวลา นอนไม่เกินสี่ทุ่มครึ่ง ถ้างานเยอะก็ตื่นให้เร็วขึ้น การที่เราทำอะไรตรงเวลาทุกวัน ร่างกายของเราจะเรียนรู้ พอถึงเวลาต้องเข้านอน ร่างกายจะรู้สึกง่วงขึ้นมาทันที ดังนั้น เมื่อถึงเวลาเข้านอนให้ตัดใจจากทุกเรื่องราว และนอน
 แรกๆ อาจจะปรับตัวยากหน่อย ในระหว่างวันอาจจะรู้สึกง่วงบ้าง แต่อย่านอนกลางวัน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ให้งีบหลับไม่เกิน 20 นาที หากเราปรับเวลาเข้านอนได้แล้ว เราจะรู้สึกว่าชีวิตนั้นสดใสเป็นระบบระเบียบมากขึ้น และแต่ละวันจะผ่านไปอย่างมีความสุข

 

   3. ทำใจให้สบาย ผ่อนคลายร่างกาย ซึ่งการจะทำใจให้สบายและสงบก่อนนอนนั้นไม่ยากเลย 


               หลวงพี่ขอแนะนำวิธีการง่ายๆ คือ ให้นั่งสมาธิหรือสวดมนต์ก่อนนอน 10-15 นาที เพื่อทำเคลียร์ใจให้สงบและปล่อยวางเรื่องราวในใจ ซึ่งวิธีการนั่งสมาธิ หลวงพี่จะใส่ไว้ในคำอธิบายด้านล่าง
 

               และเมื่อเราตื่นนอน ให้เราตื่นอย่างกระฉับกระเฉง อย่างัวเงีย ให้รีบลืมตา ฝืนการอยากนอนต่อ เก็บที่นอน และลุกไปทำอย่างอื่น
 

บทสรุป
 1. ปรับกิจวัตรให้ลงตัว ทั้งเวลานอนและเวลาตื่นนอน
 2. สร้างสิ่งแวดล้อมในห้องนอน ร่างกาย จิตใจ ให้อารมณ์ผ่อนคลาย
 3. นั่งสมาธิหรือสวดมนต์ก่อนนอนเพื่อทำจิตใจให้สงบ

บทความโดย พระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.033322783311208 Mins